xs
xsm
sm
md
lg

บ่ายนี้รัฐบาลแถลงผลงาน(ที่ไม่มี) แค่เวทีลับฝีปากพรรคฝ่ายค้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงาน โดย แสงตะวัน

การแถลงผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อรัฐสภา หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า“การรายงานผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ 2550 หมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มาตรา 75 ที่บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีต้องจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินการตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐรวมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่อรัฐสภาปีละหนึ่งครั้ง

การแถลงผลงานครั้งนี้ สภาฯ จะมีการประชุมตั้งแต่ 14.00 น.ถึง 01.00 น.วันนี้ (24 กันยายน) เหตุที่ต้องใช้เวลาช่วงบ่ายเพราะต้องรอให้การประชุมคณะรัฐมนตรีเลิกเสียก่อนกำหนดว่าจะให้ประชุมถึงตีหนึ่ง แล้วตามด้วยวันพุธที่ 25 กันยายนอีกหนึ่งวันที่จะให้ประชุมกันตลอดทั้งวัน

เบ็ดเสร็จวิปรัฐบาลบอกจะใช้เวลาทั้งหมด 15 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมงโดยเป็นคณะรัฐมนตรี 4 ชั่วโมง และ ส.ส.รัฐบาล 3 ชั่วโมง ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมงโดยรัฐบาลจัดให้มีการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 ด้วย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศมาสองปีแล้ว เพราะเริ่มบริหารรราชการแผ่นดินจริงๆ ก็เมื่อ 23 สิงหาคม 2554 เท่ากับว่าเลยเวลาที่ควรต้องแถลงตั้งแต่ปีที่แล้ว และหากเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การแถลงรอบนี้จริงๆ ก็ต้องเป็นการแถลงครั้งที่ 2 ด้วยซ้ำ

แต่เมื่อบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเพียงแค่การให้รัฐบาลต้องทำแต่ไม่มีบทลงโทษใดๆ ไม่สามารถเอาผิดได้ แม้เวลานี้จะมีคนไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาให้พิจารณาเรื่องที่รัฐบาลไม่ยอมแถลงผลงานรัฐบาล แต่เรื่องก็เงียบหายไปนานหลายเดือนแล้วแม้ว่าผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภามีความเห็นใดๆ ออกมา ก็คงไม่มีผลการเมืองอะไรมาก

การแถลงผลงานที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นอีกแมตช์สำคัญการเมืองของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่เรียงกันมาติดๆ นับแต่เปิดสภาฯ มาทั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ-การแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วก็ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งมาถึงคิวการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบสัปดาห์นี้

วิเคราะห์กันว่าฝ่ายค้านโดยพรรคประชาธิปัตย์จะใช้เวทีแห่งนี้ เป็นเวทีลับฝีปากอุ่นเครื่องก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงไม่เกินเดือนพฤศจิกายน เพราะเบื้องต้นวิปฝ่ายค้านก็ประกาศมีการเตรียมขุนพล-ส.ส.ของพรรคไว้ร่วม 60 คนโดยน่าจะเป็นเวทีให้พวก ส.ส.รุ่นใหม่ๆ ได้แสดงฝีมือหลังจากการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีพวกรุ่นใหม่บางคนทำหน้าที่ได้ดีพอสมควร

ประเด็นการอภิปรายก็คงอยู่ในกรอบเช่นความล้มเหลวในการบริหารประเทศรวมถึงความล้มเหลวในการป้องกันการทุจริตในการบริหารงานของรัฐบาล-การไม่สามารถทำตามสิ่งที่เคยแถลงไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อตอนแถลงนโยบายก่อนการเข้าบริหารประเทศที่วันนี้ผ่านไป 2 ปีกว่าหลายเรื่องที่เคยแถลงไว้โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน ไม่สามารถทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ และหลายเรื่องที่ทำก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 บาท เป็นต้น

จึงคาดได้ว่าแค่เปิดประชุมมา ส.ส.ประชาธิปัตย์คงไม่รอช้ากับการกระชวกยิ่งลักษณ์และรัฐบาล ว่าเหตุใดจึงไม่ทำการแถลงผลงานตั้งแต่ปีที่แล้วมาแถลงเอาตอนบริหารประเทศไปแล้ว 2 ปีกว่าจะเข้าปีที่ 3 ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

แค่เรื่องนี้ประเด็นเดียวก็คงทำให้การประชุมร้อนแรงตั้งแต่เริ่มเปิดฉาก อีกทั้งฝ่ายค้านก็บอกไว้แล้วว่าเมื่อวันนี้รัฐบาลบริหารมาสองปีแล้วการอภิปรายก็จะต้องพูดครอบคลุมไปถึงการบริหารงานในช่วงปีที่สองของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไปด้วยเลยบางนโยบายที่เริ่มทำกันในช่วงปีที่สองก็จะมีการนำมาอภิปรายกันด้วย

เชื่อได้ว่า ส.ส.ฝ่ายค้านก็คงนำประเด็นเรื่องต่างๆที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่ในกระแสการเมืองเช่นปัญหาสินค้าราคาแพง-ค่าครองชีพสูง-ตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นมากจากปัญหาการดำเนินการนโยบายประชานิยมต่างๆ ของรัฐบาล เช่นรถยนต์คันแรก รวมถึงเรื่องการที่นายกฯ ชอบเดินทางไปต่างประเทศขึ้นมาเป็นประเด็นในการอภิปรายไปด้วยแน่นอน รวมทั้งเรื่องหลักอย่างการสร้างความปรองดองในชาติที่ไม่จริงใจและล้มเหลวหรือปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ที่รัฐบาลนี้ไม่สามารถลดความรุนแรงลงได้

ขณะที่ฟากเพื่อไทยก็มีการเตรียมการไว้เช่นกันนัดประชุม ส.ส.เพื่อไทยติวเข้มกันไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาแม้จะอ้างว่าไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐบาลและยิ่งลักษณ์ แต่ถึงเวลาจริงๆ ก็รู้กันอยู่ พวกคอยตัดเกม-เบรกฝ่ายค้านขึ้นทำหน้าที่แน่ชนิดไม่ต้องกดปุ่มบอกก็แย่งกันเสนอหน้า

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายการแถลงผลงานดังกล่าวก็ไม่ได้มีผลอะไรทางการเมืองมาก อภิปรายกันไปสองวันสองคืนแล้วก็จบต่อให้เนื้อหาประเด็นการอภิปรายของฝ่ายค้านดีแค่ไหน คำท้วงติงอะไรต่างๆ น่าจะเป็นประโยชน์กับส่วนรวมหากรัฐบาลเอาไปทำแต่เมื่อการเมืองในสภาฯ อยู่ในสภาพอย่างที่เห็น ก็อย่าไปหวังอะไรมากเพราะเห็นกันมาหมดแล้วทั้งตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม-แก้ไขรัฐธรรมนูญ-เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท รวมถึงศึกซักฟอกที่จะมีขึ้น

หากการเมืองยังไม่มีการปฏิรูปอย่างจริงจัง ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น