วิปรัฐบาลเผยวันแถลงนโยบายรัฐบาลแบ่งเวลาฝ่ายค้านจ้อ 10 ชั่วโมง ยิงสดช่อง 11 ไม่สนฝ่ายค้านยื่นแก้ที่มา ส.ว. ลุยลงมติวาระ 3 วันที่ 28 ก.ย. ชิงปัดเปิดศึกศาลรัฐธรรมนูญ ด้านโฆษกเพื่อไทยตีฝีปากเหมือนเคย ปชป.ทำไทยเข้มแข็ง 2020 เทียมเกวียน ตลกตายล่ะเหน็บ “ไม่ทันแล้วจอร์จ”
วันนี้ (23 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่าจะมีการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 1 ปี ในวันที่ 24-25 ก.ย. โดยจะใช้เวลาทั้งหมด 15 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) 5 ชั่วโมง และฝ่ายค้าน 10 ชั่วโมง ตามที่ฝ่ายค้านร้องขอมา ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ด้วย
“ที่ฝ่ายค้านตั้งเป้าจะใช้เวทีนี้ในการซ้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ทางรัฐบาลยินดี เพราะเป็นประเพณีปฏิบัติอยู่แล้วที่รัฐบาลต้องแถลงผลงานภายใน 1 ปี ดังนั้นกรอบการที่ฝ่ายค้านจะถามรัฐบาลคือ เรื่องนโยบายและการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าใช้เวลา 2 วันน่าจะจบ” นายอำนวยกล่าว
นายอำนวยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 28 ก.ย.เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.ในวาระ 3 โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เชื่อว่าจะไม่มีความวุ่นวายเพราะเป็นการลงมติอย่างเดียว มีเพียงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเท่านั้น ส่วนที่ฝ่ายค้านยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ขอชี้แจงว่า ในฐานะสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญมาตรา 90 นั้นชัดเจนว่า เป็นความยินยอมของรัฐสภา เรื่องนี้ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะถือว่าเราทำหน้าที่รัฐสภาแล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะมีการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงมติวาระ 3 โดยไม่รอคำวินิจฉัย จะเหมือนกับรัฐสภากำลังเปิดศึกกับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอำนวยกล่าวปฏิเสธทันทีโดยบอกว่า เราทำตามหน้าที่ของรัฐสภา กฎหมายกำหนดแล้วเราต้องพิจารณา ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรนั้น ยังไม่ได้ประเมินไว้
เมื่อถามว่า หากศาลสั่งระงับ แล้วมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ จะเหมาะสมหรือไม่ นายอำนวยกล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ แต่เราทำหน้าที่ตามมาตรา 90 หลังจากรัฐสภาเห็นชอบแล้ว จึงส่งให้มีการโปรดเกล้าฯ
“เราทำตามหน้าที่ของเรา ส่วนศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ” นายอำนวยกล่าว
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวโครงการไทยเข้มแข็ง 2020 ว่า เป็นแผนของ ครม.เงา และนายกฯเงาพรรคประชาธิปัตย์ ประชาชนจะได้เปรียบเทียบกับแผน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ซึ่งเปรียบเหมือนการนั่งเครื่องบิน แต่แผนของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเทียมเกวียน ตอนเป็นรัฐบาลทำไมไม่ทำ ทำไมถึงคิดช้า และยังเป็นการประจานแผนไทยเข้มแข็งที่ล้มเหลวของตัวเอง ทั้งโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 สถานีทั่วประเทศ ที่ปัจจุบันเหลือแต่เสากับคาน รวมทั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวะ ที่มีการร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกด้วย
“เรื่องนี้เป็นแผนแก้เกี้ยว พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน แต่จะบอกว่าไม่ทันแล้วจอร์จ” นายพร้อมพงศ์กล่าว