โฆษกประชาธิปัตย์ อ้างไม่มีใครอยากล้มรัฐ บอกให้ประชาชนรอดูความพินาศ ซัดตระบัดสัตย์ 3 ข้อ เหลวแก้ค่าครองชีพ ทอดทิ้งเกษตรกร โกงมหาศาล เชื่อล้มเอง “มัลลิกา” เย้ย “ทักษิณ” ฟุ้งซ่าน สงสัยเมาถั่งเช่า กดดันองค์กรอิสระหรือไม่ อ้างพูดล้มรัฐ 8 ตุลา แค่เบี่ยงเบน เมินถ่ายสดซักฟอกกู้ 2 ล้านล้าน แฉ “ส.” กว้านซื้อที่ แถม “เจ๊ ด.” คิดหัวคิว 40%
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลร้อนตัวกุข่าวมีคนล้มรัฐบาลว่า ไม่มีใครอยากล้มรัฐบาล โดยตนอยากให้อยู่ครบสมัยให้ประชาชนได้เห็นความพินาศจากน้ำมือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ครบ 4 ปี แต่ที่พยายามเบี่ยงเบนขณะนี้เกิดจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ตระบัดสัตย์ต่อประชาชน 3 กรณี ที่จะทำให้รัฐบาลล้มด้วยตัวเอง คือ 1.ล้มเหลวในการแก้ปัญหาค่าครองชีพ ขึ้นแก๊สซ้ำเติมประชาชน ปล่อยให้กระทรวงพลังงานกระชากค่าครองชีพผ่านก๊าซหุงต้ม ทั้งๆ ที่ในรายงานหลายฉบับระบุต้นทุนแก๊สหุงต้มภายในประเทศไม่เกิน 16 บาท แต่จะปรับจาก 18 บาท ไปเป็น 24 บาท เท่ากับปิโตรเคมี 2.ละเลยปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ยางพารา มันสำปะหลัง มะพร้าว สอบตกในเรื่องการดูแลปัญหาประชาชน เป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องอำมาตย์ หรือมือที่มองไม่เห็น 3.ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันมหาศาลในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เช่น จำนำข้าวขาดทุนปีละประมาณ 1.5 แสนล้านจากการใช้ปีละ 3 แสนล้าน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริตจำนำข้าว แม้มีการจับกุมเจ้าของโรงสีที่สารภาพถึงการบูรณาการโกงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แต่กลับไม่แก้ไข ทำตัวปากว่าตาขยิบ
“ทั้ง 2 สาเหตุดังกล่าวคือ ล้มเหลวแก้ค่าครองชีพ ทอดทิ้งเกษตรกรไม่แก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ และทุจริตมหาศาล จะเป็นปัจจัยล้มรัฐบาลชุดนี้ ผมขอท้าว่าถ้ามีจริงขอให้จับ แต่ถ้าไม่กล้าจับก็ให้ออกไปให้พวกผมเป็นแทนจะได้จับให้ดูหากว่ามีจริง และฝากถามไปยัง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขา สมช.ที่โจมตีองค์กรอิสระว่า เป็นเลขา สมช.หรือเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงของพรรคเพื่อไทย เพราะตอนนี้มีแต่มืออำมหิตขึ้นค่าครองชีพ ทอดทิ้งประชาชน และคอร์รัปชัน ทำร้ายประเทศไทยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หากสำนึกผิดก็มีโอกาสครบวาระ แต่ถ้ากล่าวหาประชาชนแบบนี้ไม่ต้องมีใครมาล้มเพราะรัฐบาลจะล้มด้วยตัวเอง” นายชวนนท์ กล่าว
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้คำสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีว่า เป็นการออกมาฟุ้งซ่านของนายกฯ ตัวจริงที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งขอส่งสัญญาณไม่ตอบรับจากพรรคประชาธิปัตย์ และคนไทยไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนี้ ที่บอกว่าให้พูดตรงๆ นั้นขอให้พูดให้ชัดเจนว่า อยากพูดกับใคร และ พ.ต.ท.ทักษิณ เมาถั่งเช่าหรือไม่ในขณะที่กำลังส่งสัญญาณไปกดดันองค์กรอิสระใช่หรือไม่ ทำเพื่ออะไร ทำแล้วจะมีเผาเมือง มีอาก้าไล่ทำร้ายคน ชายชุดดำจะออกมาหรือไม่ การขโมยของในห้างจะเกิดหรือเปล่า ส่วนการที่พูดถึงกติกาที่ทุกคนยอมรับได้ หมายถึง กติกูหรือเปล่า ความไว้วางใจที่คนอื่นๆ ไม่ได้มอบให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และความหวาดระแวงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีต่อคนในชาติ เป็นเพราะคุณละเมิดกติกาไม่ใช่ว่ากติกาไม่ดีจึงต้องเปลี่ยนกติกา ขอเรียกร้องให้เลิกทำผิดกติกา ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายล้างผิด กู้ 2 ล้านล้าน และกู้ 3.5 แสนล้าน ซึ่งเห็นว่าเป็นเดตล็อกทางการเมือง
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า ส่วนองค์กรอิสระที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าไม่มีความเป็นอิสระจริงนั้นเป็นความเท็จ เพราะถ้าไม่มีอิสระ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนในวันนี้ แต่เพราะเขาทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจึงเป็นความอิสระอย่างแท้จริง ไม่ใช่ในแบบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแก้ไขให้เป็นองค์กรอิสระของตัวเอง ไม่ใช่ของประเทศ
สำหรับกรณีล้มรัฐบาลวันที่ 8 ตุลาคม 2556 นั้น น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนเกี่ยวกับการไม่ยอมถ่ายทอดการอภิปรายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพราะประชาชนเกือบทั้งหมดรู้ชัดว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยทักษิณ เป็นรัฐบาลที่โกหกประชาชน ไม่ซื่อตรงต่อคะแนนเสียง 15 ล้านเสียงที่ได้มา นอกจากนี้ 2 ปี ที่รัฐบาลสร้างหนี้สาธารณะ สร้างหนี้ครัวเรือน และกำลังสร้างหนี้ผูกพันต่อไปนั้น ประชาชนตระหนักแล้ว ตั้งแต่น้ำท่วมทั้งแผ่นดิน รถยนต์คันแรก รถติดระนาว ปีที่ 2 สินค้าแพง สินค้าเกษตรตกต่ำ เมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 โครงการกู้ 5.16 ล้านล้าน ทำให้ประชาชนรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะรับไหว สิ่งที่ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์โชว์ ก้าวถึงจุดที่ประชาชนเอือมระอา และใกล้ถึงทางตัน แต่อย่ามาปรามาสว่าพรรคการเมืองอื่นจะไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง จึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทบทวนตัวเองอย่าระรานคนอื่น
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากประชาชนจังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งประชาชนได้ร้องเรียนผ่านทางการ และที่พรรคประชาธิปัตย์กว่า 100 ราย ว่า โครงการดังกล่าวจะผ่านไม่ได้เพราะพื้นที่ก่อสร้างรางรถไฟยังไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ สำรวจความเห็นประชาชน จึงอยากส่งสัญญาณให้รัฐบาลว่า ไม่ใช่เพียงพรรคคัดค้าน แต่ภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็ตื่นตัว และจะทยอยออกมาคัดค้านอย่างแน่นอน ขอให้รัฐบาลเตรียมรับมือได้เลย อย่ามาเบี่ยงเบนว่าเป็นประเด็นการเมือง เพราะพรรคยืนยันว่า มีความจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน แต่สามารถทำในระบบงบปกติได้ นอกจากเงินกู้ 2 ล้านล้าน จะไปติดที่ศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ยังมีกองทัพประชาชนที่จะรวมตัวกันต่อต้านด้วย โดยพรรคพร้อมที่จะร่วกับภาคพลเมือง ซึ่งเป็นสัญญาณสุดท้ายถึงรัฐบาลให้หยุดการกู้เงินดังกล่าว
“มีนักธุรกิจชื่อ “ส” ไปกว้านซื้อที่ดินเพื่อสนับสนุนโครงการกู้ 2 ล้านล้านของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนักธุรกิจรายดังกล่าวทำผิดในเรื่องอินไซเดอร์ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ “เจ๊ ด.” คนเดิมมีการกำหนดหัวคิวในโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านแล้ว 40 เปอร์เซนต์” น.ส.มัลลิกา กล่าว
