ASTVผู้จัดการรายวัน -มติ ป.ป.ช.ส่ง กกต.ชี้ขาด “วิเชษฐ์ เกษมทองศรี” รมว.ทรัพยากรฯ ถือหุ้นธุรกิจเกิน 5% เตรียมส่งเรื่องให้ กกต.วินิจฉัยใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนกรณี “สรวงศ์” ได้ลุ้นต่อ เมียทำพิษ! “วิเชษฐ์!” ถูกสอบบัญชีเดียวกับตอนที่เข้ารับตำแหน่งประธานบอร์ด ปตท. ส่วน “ลูกป๋าเหนาะ” อ้างแค่มีชื่อจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมกับคู่สมรส เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ
วันนี้ (17 ก.ย.56) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องการถือครองหุ้นเกิน 5% ของนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจากการตรวจสอบพบว่า ภริยาของนายวิเชษฐ์ ถือหุ้นบริษัทเอกชนเกิน 5% ของทุนจดทะเบียนจริง และไม่มีการแจ้งให้ประธาน ป.ป.ช.ทราบภายใน 30 วันนับจากวันเข้ารับตำแหน่ง เป็นการทำผิดตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจพิจารณาว่า นายวิเชษฐ์ จะหมดคุณสมบัติจากการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญในการตัดสิน ดังนั้น ป.ป.ช.จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส.ส.และ ส.ว.รวมถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นผู้มีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดเรื่องคุณสมบัติของนายวิเชษฐ์ต่อไป ส่วน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุขที่ถือครองหุ้นเกิน 5% นั้น ที่ประชุม ป.ป.ช.ให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม เพราะมีการโอนหุ้นก่อนที่จะครบกำหนด 30 วันที่ต้องแจ้งให้ประธาน ป.ป.ช.ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะถึงที่สุดแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นผู้วินิจฉัยว่ารัฐมนตรีคนดังกล่าวขาดคุณสมบัติหรือไม่ เมื่อถามว่าจะส่งรายละเอียดไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ภายในเมื่อไร นายกล้านรงค์ กล่าวว่า หลังจาก ป.ป.ช.มีการรับรองมติของที่ประชุมแล้ว คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะสามารถส่งไปยัง กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ได้รายงานกรณีที่ตรวจพบว่ามีรัฐมนตรีที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาในคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 2 คน ได้แก่ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.กระทรวงสาธารณสุข ถือครองหุ้นในธุรกิจเกิน 5% ของทุนจดทะเบียน แต่ไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ในระยะเวลาที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 เพื่อให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาว่ามีมูลเพียงพอต่อการดำเนินการต่อไปหรือไม่
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายวิเชษฐ์ กล่าวว่า ได้ชี้แจง ป.ป.ช.รับทราบไปแล้วว่าไม่มีเจตนาที่จะปกปิดข้อมูลอะไร และได้ทำเรื่องให้บริษัทเอกชนรายหนึ่ง เข้ามาถือครองกรรมสิทธิ์หุ้นดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนดเรียบร้อยแล้ว
ในช่วงก่อนที่จะยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ในการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2556 ตนได้ปรึกษาข้อกฎหมายกับบริษัทจัดการทรัพย์สินแห่งหนึ่ง ได้รับคำแนะนำว่า หุ้นที่ภรรยาตนถือครองอยู่ ซึ่งมีจำนวนเกิน 5% เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บค่าเช่าจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่ธุรกิจสัมปทาน จึงไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไรต่อการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมายการโอนกรรมสิทธิ์หุ้นให้บริษัทจัดการหุ้นดูแลแทน
“หลังได้รับคำแนะนำจากบริษัทจัดการทรัพย์สินดังกล่าว ผมก็ไม่ได้ทำอะไรกับหุ้นส่วนนี้ แต่ได้แสดงข้อมูลให้ ป.ป.ช.รับทราบว่ามีหุ้นส่วนนี้อยู่ ซึ่งบัญชีทรัพย์สินที่แจ้งไป ก็เป็นบัญชีเดียวกับตอนที่เข้ารับตำแหน่งประธานบอร์ด ปตท.แต่หลังจากที่มีข่าวว่า ภรรยาผมถือครองหุ้นธุรกิจเกิน 5% ของทุนจดทะเบียน และไม่ได้แจ้ง ป.ป.ช.ผมก็ได้ไปตรวจสอบข้อมูลดูอีกครั้ง และพบว่ากฎหมายกำหนดให้ต้องดำเนินการเรื่องนี้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ การแจ้งข้อมูลให้ ป.ป.ช.รับทราบภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน และการโอนหุ้นไปให้บริษัทจัดการหุ้นดูแลภายใน 90 วัน ซึ่งแม้จะพ้นขั้นตอนกรอบระยะเวลา 30 วันไปแล้ว แต่ขณะนี้ ยังอยู่ในกรอบระยะเวลา 90 วันอยู่ และล่าสุดผมก็ได้ดำเนินการโอนหุ้นให้บริษัทจัดการหุ้น เรียบร้อยแล้ว” นายวิเชษฐ์ กล่าว และว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะปกปิดข้อมูลเรื่องการถือครองหุ้น ต่อ ป.ป.ช.แน่นอน และมีข้อเท็จจริงหลายอย่าง ที่แตกต่างจากการพิจารณากรณีของรัฐมนตรี ในอดีตหลายคน ที่เกิดปัญหาในเรื่องนี้ ส่วน ป.ป.ช.จะพิจารณาอย่างไรกับเรื่องนี้ ตนก็พร้อมที่จะยอมรับคำตัดสินที่จะออกมา
ส่วนข้อมูลการถือครองหุ้นในบริษัท ศรีไทย-ลาว ไมน์นิ่ง จำกัด ว่า ในช่วงที่ตนถูกเว้นวรรคทางการเมือง มีเพื่อนมาชวนให้ไปทำธุรกิจนี้ แต่หลังจากที่ตั้งบริษัทมาหลายปี ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย
“หลายคนอาจจะคิดว่าผมร่ำรวยเพราะทำธุรกิจเหมืองแร่ แต่ผมอยากจะบอกว่ามันไม่จริงเลย เพราะบริษัทนี้ตั้งขึ้นมาแล้ว เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เนื่องจากติดขัดปัญหาในขั้นตอนธุรกิจ และขณะนี้ ก็อยู่ระหว่างการแจ้งเลิกกิจการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย”
ด้าน นายสรวงศ์ ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท เรฟคิดส์ จำกัด นั้น ยืนยันว่า แค่มีชื่อจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมกับ นางญาณิกา เทียนทอง คู่สมรส เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ
“การจัดตั้งบริษัท เรฟคิดส์ เกิดขึ้น เพราะภรรยากับเพื่อน มีแนวคิดอยากขายสินค้าเกี่ยวกับเด็ก แต่เมื่อเปิดแล้วเห็นว่าไม่มีเวลาจึงต้องขอปิดบริษัทไป และบริษัทก็ไม่เคยดำเนินการค้าขายเลย”
ส่วนตามกฎหมายหากจำเป็นต้องถือครองหุ้นธุรกิจเกิน 5% ของทุนจดทะเบียน ต้องแจ้งต่อประธาน ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน นายสรวงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะยังอยู่มาเลเซีย หลังจากนี้ขอไปตรวจสอบข้อมูลก่อน