เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม แจงหลวงปู่เณรคำ บินไปฝรั่งเศส เพราะยูเนสโก นิมนต์ เหตุที่ยังไม่กลับไทยกำลังพบผู้นำชาวพุทธแต่ละนิกาย ด้านลูกศิษย์ ชี้ภาพหน้าคล้ายนอนกับผู้หญิงเป็นภาพตัดต่อ เตรียมสร้างเครื่องทรง 3 ฤดูพระแก้วมรกต สร้างวิหาร ใช้งบ 2,500 ล้านบาท ด้านโฆษกหลวงปู่เณรคำ ระบุกำหนดกำกลับไทย 30 มิ.ย.
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย บางใหญ่ จ.นนทบุรี กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่เณรคำ โดยมีกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำ พร้อมใจกันใส่เสื้อขาวสนับสนุนหลวงปู่เณรคำ เข้าร่วมฟังการแถลงข่าวด้วยกว่า 50 คน ทั้งนี้ พระครูภาวนาธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า การที่หลวงปู่เณรคำ เดินทางไปฝรั่งเศสในครั้งนี้ เนื่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เชิญให้ไปร่วมงานวันวิสาขบูชา ทั้งยังได้รับเกียรติให้เป็นองค์ปาฐกถาเอกในงานนี้ด้วย ส่วนที่ยังไม่ได้เดินทางกลับมานั้นเพราะอยู่ในระหว่างเข้าพบผู้นำชาวพุทธในแต่ละนิกายเพื่อเชิญมาร่วมงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลกในวันที่ 27-30 มิ.ย.ที่วัดป่าขันติธรรม ทั้งยังติดกิจนิมนต์ของญาติโยมด้วย ส่วนกำหนดการกลับประเทศไทยของหลวงปู่เณรคำนั้นยังไม่แน่ชัด แต่จะกลับมาก่อนงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนองค์พระแก้วมรกตแน่นอน
นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่เณรคำ กล่าวว่า ภาพต่างๆ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นฝีมือของอดีตลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของหลวงปู่เณรคำ ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้มักจะนำภาพถ่ายพฤติกรรมบางอย่างของหลวงปู่เณรคำ มาขอเรียกเก็บเงินกับหลวงปู่เณรคำ และขู่ว่าหากไม่ให้เงินจะเผยแพร่ภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหลวงปู่เณรคำออกไป โดยครั้งล่าสุดมาขอเงินหลวงปู่มากถึง 7 หลัก และทางกรรมการวัดป่าขันติธรรม ไม่ให้เงินจำนวนดังกล่าว ทำให้อดีตลูกศิษย์คนดังกล่าวโกรธ และนำภาพต่างๆ เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทั้งยังบิดเบือนข้อมูลความเป็นจริงด้วย
สำหรับเครื่องบินเจ็ตและเฮลิคอปเตอร์ ยืนยันว่าไม่ใช่ของส่วนตัวของหลวงปู่เณรคำ แต่เป็นของลูกศิษย์ที่จะเช่าให้เวลาหลวงปู่เณรคำรับกิจนิมนต์หลายงานในวันเดียว โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์บางครั้งเจ้าภาพที่จัดงานก็ชอบ เพราะถือว่าเป็นไฮไลต์ของงานอีกทั้งญาติโยมที่รอรับหลวงปู่เณรคำก็ชอบด้วย แต่การเช่าทั้งเฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินเจ๊ท จะเป็นการเช่าโดยลูกศิษย์คนละคนกัน ไม่ได้เช่าโดยลูกศิษย์คนเดียวกันทุกงาน ขณะที่รูปคนหน้าคล้ายหลวงปู่เณรคำที่นอนกับผู้หญิงทางวัดได้ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นรูปตัดต่อ ส่วนรูปรถโรลส์รอยซ์ล่าสุดที่มีการนำออกมาเผยแพร่ทางสื่อนั้น เป็นรถของหลวงปู่เณรคำ โดยลูกศิษย์ชาวมาเลเซียเป็นผู้ที่ซื้อมาถวายตั้งแต่ปี 2554 และขณะนี้รถก็มีสภาพชำรุดไปมากแล้ว เพราะหลวงปู่เณรคำเอาไปขนปูน ขณะที่เรื่องของเงินบริจาคนั้นจากเดิมเงินจะเข้า 2 บัญชี แต่ขณะนี้จะเหลือเพียงบัญชีเดียว คือบัญชีของหลวงปู่เณรคำ โดยจะมีคณะกรรมการวัดคอยดูแล ทั้งยังมีการตั้งบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า เพื่อมาดูแลงานในส่วนที่พระสงฆ์ไม่สามารถดำเนินการได้ด้วย ซึ่งบริษัทดังกล่าวตั้งโดยกลุ่มลูกศิษย์
ส่วนเรื่องขบวนรถติดตามที่มีจำนวนมากนั้น เนื่องจากหลวงปู่เณรคำต้องการที่จะแสดงธรรมสัญจร จึงทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาอำนวยความสะดวก และเพื่อป้องกันการถูกลอบทำร้ายด้วย เพราะในบางพื้นที่ทีี่หลวงปู่เณรคำเดินทางไปอาจจะมีผู้ไม่หวังดีอยู่ สำหรับบ้านที่จ.อุบลราชธานีนั้น ก็มีลูกศิษย์สร้างถวายเพื่อให้เป็นที่พักของพ่อ แม่ ของหลวงปู่เณรคำ ทั้งนี้จุดมุ่งหมายของหลวงปู่เณรคำ คือการสร้างองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพระวิหารให้แล้วเสร็จ จากนั้นหลวงปู่เณรคำได้บอกกับลูกศิษย์แล้วว่าจะละสังขารภายใน 3 วัน และจะยุบวัดป่าขันติธรรม เหลือไว้เพียงพระวิหาร และองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น
ด้านนายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆราวาส ประจำองค์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวว่า กรณีที่มีการระบุว่าองค์พระแก้วมรกตยังสร้างไม่เสร็จนั้น ขอยืนยันว่าในส่วนขององค์พระแก้วมรกตดำเนินการสร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงการจัดสร้างเครื่องทรง 3 ฤดู ที่จะสร้างจากทองคำ และการสร้างพระวิหารครอบองค์พระแก้วมรกต โดยจะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท
วันเดียวกัน พระฐกฤต กันตธัมโม โฆษกประจำหลวงปู่เณรคำและประชาสัมพันธ์วัดป่าขันติธรรม เปิดเผยว่า ขอยืนยันหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จะกลับมาร่วมงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย.ที่วัดป่าขันติธรรม ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่กำหนดการกลับประเทศไทยอย่างเป็นทางการของหลวงปู่เณรคำนั้นยังไม่แน่ชัดเท่านั้น แต่สามารถร่วมงานได้ทันวันที่ 29-30 มิ.ย.ได้แน่นอน ทั้งนี้ หลวงปู่เณรคำ ได้แจ้งให้อาตมาทราบว่าท่านจะเปิดแถลงข่าวด้วยตัวท่านเองให้สำนักข่าวทุกช่อง หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ สื่อทุกแขนง ได้ซักถามทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นของหลวงปู่เณรคำในทุกประเด็นโดยไม่มีปิดบัง คาดว่าน่าจะเป็นในช่วงบ่ายวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งนี้ กำหนดวัน-เวลาที่ชัดเจน หลวงปู่เณรคำจะได้ฝากให้กองงานประชาสัมพันธ์วัดป่าขันติธรรมแจ้งไปยังสื่อทุกแขนงเพื่อทราบอีกครั้งหนึ่ง
** จวกทำคลิปไม่เหมาะสม
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับคลิปการ์ตูนเลียนแบบพฤติกรรมพระสงฆ์ไทยแล้ว ซึ่งคลิปนี้ได้นำการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์มาล้อเลียนและมีการนำศาสนาอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง ถือว่า ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่การนำศาสนาที่เป็นเรื่องของศรัทธา โดยเฉพาะพระสงฆ์และผู้นำศาสนาอื่นๆ มาล้อเลียน ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องการกระทำของพระสงฆ์ว่า จะผิดหรือถูกนั้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไป ไม่ควรนำมาล้อเลียนและเผยแพร่เช่นนี้ เพราะเป็นจะกระทบต่อจิตใจของชาวพุทธได้
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย บางใหญ่ จ.นนทบุรี กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่เณรคำ โดยมีกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำ พร้อมใจกันใส่เสื้อขาวสนับสนุนหลวงปู่เณรคำ เข้าร่วมฟังการแถลงข่าวด้วยกว่า 50 คน ทั้งนี้ พระครูภาวนาธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า การที่หลวงปู่เณรคำ เดินทางไปฝรั่งเศสในครั้งนี้ เนื่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เชิญให้ไปร่วมงานวันวิสาขบูชา ทั้งยังได้รับเกียรติให้เป็นองค์ปาฐกถาเอกในงานนี้ด้วย ส่วนที่ยังไม่ได้เดินทางกลับมานั้นเพราะอยู่ในระหว่างเข้าพบผู้นำชาวพุทธในแต่ละนิกายเพื่อเชิญมาร่วมงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลกในวันที่ 27-30 มิ.ย.ที่วัดป่าขันติธรรม ทั้งยังติดกิจนิมนต์ของญาติโยมด้วย ส่วนกำหนดการกลับประเทศไทยของหลวงปู่เณรคำนั้นยังไม่แน่ชัด แต่จะกลับมาก่อนงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนองค์พระแก้วมรกตแน่นอน
นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่เณรคำ กล่าวว่า ภาพต่างๆ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นฝีมือของอดีตลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของหลวงปู่เณรคำ ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้มักจะนำภาพถ่ายพฤติกรรมบางอย่างของหลวงปู่เณรคำ มาขอเรียกเก็บเงินกับหลวงปู่เณรคำ และขู่ว่าหากไม่ให้เงินจะเผยแพร่ภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหลวงปู่เณรคำออกไป โดยครั้งล่าสุดมาขอเงินหลวงปู่มากถึง 7 หลัก และทางกรรมการวัดป่าขันติธรรม ไม่ให้เงินจำนวนดังกล่าว ทำให้อดีตลูกศิษย์คนดังกล่าวโกรธ และนำภาพต่างๆ เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทั้งยังบิดเบือนข้อมูลความเป็นจริงด้วย
สำหรับเครื่องบินเจ็ตและเฮลิคอปเตอร์ ยืนยันว่าไม่ใช่ของส่วนตัวของหลวงปู่เณรคำ แต่เป็นของลูกศิษย์ที่จะเช่าให้เวลาหลวงปู่เณรคำรับกิจนิมนต์หลายงานในวันเดียว โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์บางครั้งเจ้าภาพที่จัดงานก็ชอบ เพราะถือว่าเป็นไฮไลต์ของงานอีกทั้งญาติโยมที่รอรับหลวงปู่เณรคำก็ชอบด้วย แต่การเช่าทั้งเฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินเจ๊ท จะเป็นการเช่าโดยลูกศิษย์คนละคนกัน ไม่ได้เช่าโดยลูกศิษย์คนเดียวกันทุกงาน ขณะที่รูปคนหน้าคล้ายหลวงปู่เณรคำที่นอนกับผู้หญิงทางวัดได้ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นรูปตัดต่อ ส่วนรูปรถโรลส์รอยซ์ล่าสุดที่มีการนำออกมาเผยแพร่ทางสื่อนั้น เป็นรถของหลวงปู่เณรคำ โดยลูกศิษย์ชาวมาเลเซียเป็นผู้ที่ซื้อมาถวายตั้งแต่ปี 2554 และขณะนี้รถก็มีสภาพชำรุดไปมากแล้ว เพราะหลวงปู่เณรคำเอาไปขนปูน ขณะที่เรื่องของเงินบริจาคนั้นจากเดิมเงินจะเข้า 2 บัญชี แต่ขณะนี้จะเหลือเพียงบัญชีเดียว คือบัญชีของหลวงปู่เณรคำ โดยจะมีคณะกรรมการวัดคอยดูแล ทั้งยังมีการตั้งบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า เพื่อมาดูแลงานในส่วนที่พระสงฆ์ไม่สามารถดำเนินการได้ด้วย ซึ่งบริษัทดังกล่าวตั้งโดยกลุ่มลูกศิษย์
ส่วนเรื่องขบวนรถติดตามที่มีจำนวนมากนั้น เนื่องจากหลวงปู่เณรคำต้องการที่จะแสดงธรรมสัญจร จึงทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาอำนวยความสะดวก และเพื่อป้องกันการถูกลอบทำร้ายด้วย เพราะในบางพื้นที่ทีี่หลวงปู่เณรคำเดินทางไปอาจจะมีผู้ไม่หวังดีอยู่ สำหรับบ้านที่จ.อุบลราชธานีนั้น ก็มีลูกศิษย์สร้างถวายเพื่อให้เป็นที่พักของพ่อ แม่ ของหลวงปู่เณรคำ ทั้งนี้จุดมุ่งหมายของหลวงปู่เณรคำ คือการสร้างองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพระวิหารให้แล้วเสร็จ จากนั้นหลวงปู่เณรคำได้บอกกับลูกศิษย์แล้วว่าจะละสังขารภายใน 3 วัน และจะยุบวัดป่าขันติธรรม เหลือไว้เพียงพระวิหาร และองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น
ด้านนายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆราวาส ประจำองค์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวว่า กรณีที่มีการระบุว่าองค์พระแก้วมรกตยังสร้างไม่เสร็จนั้น ขอยืนยันว่าในส่วนขององค์พระแก้วมรกตดำเนินการสร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงการจัดสร้างเครื่องทรง 3 ฤดู ที่จะสร้างจากทองคำ และการสร้างพระวิหารครอบองค์พระแก้วมรกต โดยจะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท
วันเดียวกัน พระฐกฤต กันตธัมโม โฆษกประจำหลวงปู่เณรคำและประชาสัมพันธ์วัดป่าขันติธรรม เปิดเผยว่า ขอยืนยันหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จะกลับมาร่วมงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนองค์พระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย.ที่วัดป่าขันติธรรม ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่กำหนดการกลับประเทศไทยอย่างเป็นทางการของหลวงปู่เณรคำนั้นยังไม่แน่ชัดเท่านั้น แต่สามารถร่วมงานได้ทันวันที่ 29-30 มิ.ย.ได้แน่นอน ทั้งนี้ หลวงปู่เณรคำ ได้แจ้งให้อาตมาทราบว่าท่านจะเปิดแถลงข่าวด้วยตัวท่านเองให้สำนักข่าวทุกช่อง หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ สื่อทุกแขนง ได้ซักถามทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นของหลวงปู่เณรคำในทุกประเด็นโดยไม่มีปิดบัง คาดว่าน่าจะเป็นในช่วงบ่ายวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งนี้ กำหนดวัน-เวลาที่ชัดเจน หลวงปู่เณรคำจะได้ฝากให้กองงานประชาสัมพันธ์วัดป่าขันติธรรมแจ้งไปยังสื่อทุกแขนงเพื่อทราบอีกครั้งหนึ่ง
** จวกทำคลิปไม่เหมาะสม
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับคลิปการ์ตูนเลียนแบบพฤติกรรมพระสงฆ์ไทยแล้ว ซึ่งคลิปนี้ได้นำการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์มาล้อเลียนและมีการนำศาสนาอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง ถือว่า ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่การนำศาสนาที่เป็นเรื่องของศรัทธา โดยเฉพาะพระสงฆ์และผู้นำศาสนาอื่นๆ มาล้อเลียน ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องการกระทำของพระสงฆ์ว่า จะผิดหรือถูกนั้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไป ไม่ควรนำมาล้อเลียนและเผยแพร่เช่นนี้ เพราะเป็นจะกระทบต่อจิตใจของชาวพุทธได้
