xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ" ซัดสภาปฏิรูปฯจ้ำบ๊ะ ฟันธง"บรรหาร" รับงาน "ทักษิณ" มา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สนธิ" ซัดสภาปฏิรูปประเทศยิ่งกว่าปาหี่ แต่เป็นจ้ำบ๊ะที่อัปลักษณ์ที่สุด แค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากการอภิปรายในสภา ลั่น "บรรหาร" ไม่จริงใจ รับงาน "ทักษิณ" มา พร้อมชี้ "แม้ว" ไม่มีทางชนะพันธมิตรฯได้ เพราะพันธมิตรฯเติบโตจากการได้รับปัญญา ในขณะที่เสื้อแดงถูกซื้อด้วยเงิน วันใดนักโทษชายตาย เสื้อแดงก็หมดลง ชี้วันไหนเสื้อแดงมีปัญญาเสื้อแดงก็จะเป็นพันธมิตรฯ เพราะรู้ทันทักษิณ

 คลิกที่นี่ ฟังรายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ 


วันนี้ (13 ก.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางเอเอสทีวี ช่วงหนึ่งว่า คำถามที่ถาม นายบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ได้ชวนทะเลาะ แต่ต้องการถามถึงจุดยืน เช่น ถามว่าคุณทักษิณสมควรที่จะกลับมาติดคุกตามโทษทัณฑ์ไหม นายบรรหารตอบว่านายทักษิณบอกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม นี่คือการสะท้อนออกของการพยายามปกป้องนายทักษิณ ชินวัตร โดยตนก็ไม่รู้ว่า นายบรรหาร แกล้งโง่ หรือโง่จริงถึงไม่รู้ว่า ทักษิณ ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 ตอบข้อแรกก็สอบตกแล้ว แล้วยังมาบอกอีกว่ารับไม่ได้พรรคตัวเองถูกยุบ นายบรรหารลืมคำว่า ร่วมรับผิดชอบ เพราะกฎหมายมันชัดเจน เมื่อเป็นกรรมการบริหารแล้วทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบหมด ตนได้บอกนายบรรหารไว้ชัดเจนว่าไม่เชื่อว่านายบรรหารจริงใจในการปฏิรูปการเมือง จะปฏิรูปการเมืองแต่ดูในสภาหักดิบทุกเรื่อง เพียงเพื่อต้องการให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แล้วชวนคนมานั่งปฏิรูปเพื่อให้การเมืองมันดีขึ้นได้อย่างไร ตนถึงถามนายบรรหารว่าเมื่อไหร่ถึงจะเลิกเป็นเครื่องมือเขาเสียที นอกจากนี้คำถามที่ตนถามนายบรรหาร เพราะต้องการให้พันธมิตรฯรู้ว่า ตนจะซื่อสัตย์ มั่นคง แลซื่อตรงไม่เปลี่ยน และเป็นบทพิสูจน์ชัดหลังจากที่สาวกพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์มากล่าวหาว่าตนรับเงินทักษิณ แต่ตอนนี้เงียบหมดเลย

อีกคำถาม ตนถามนายบรรหารว่า มองอย่างไรที่ทหาร-ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ บินไปหาทักษิณหมดทุกคน นายบรรหารตอบว่าติดยศให้เพราะเขาชอบพอกัน ตนเลยว่าถ้าเขาให้นายบรรหารติดยศให้ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่ทักษิณเป็นนักโทษ เรื่องแค่นี้ยังแยกไม่ออก แล้วตนจะเชื่อใจได้อย่างไรว่านายบรรหารจะไม่เป็นเครื่องมือทักษิณ ซึ่งจริงๆแล้วตนอยากถามด้วยว่านายบรรหารรับงานทักษิณมาใช่ไหม

และที่นายบรรหารบอกว่าไม่เคยพูดเรื่องเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง ตนมีหลักฐานยืนยัน จากสารานุกรมการเมืองไทย ได้บรรจุคำว่าอดอยากปากแห้งว่า "คำนี้ มาจากการที่นายบรรหาร ศิลปอาชา พรรคชาติไทย ได้กล่าวถึงสมาชิกพรรคฝ่ายค้านทั้งหลาย ที่ได้รับผลประโยชน์สนับสนุนทางการเงินอื่นๆ จากงบประมาณแผ่นดินน้อยกว่าสมาชิกพรรคฝ่ายรัฐบาล ต่อมาคำนี้ได้ใช้กันแพร่หลาย และใช้ล้อนักการเมืองฝ่ายค้ายโดยทั่วไป" อีกหลักฐานยืนยัน การอภิปรายไม่ไว้วางใจโดย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ หัวหน้าพรรคเสรีธรรม เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2539 ตอนนั้นนายบรรหารเป็นนายกฯ ช่วงหนึ่งของการอภิปราย ดร.อาทิตย์ ได้บอกว่า "นายบรรหารได้ฝากวาทะสะท้านโลกเอาไว้อีก ซึ่งฟังแล้วขนลุก ท่านบอกว่าเป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง" จากการพูดเพียงแค่นี้มันแสดงถึงวิสัยทัศน์ หมายถึงเจตนารมณ์ว่าเมื่อไหร่มีโอกาส เมื่อไหร่เมื่อนั้น

นั่นคือคำถามต่อมาว่า นายบรรหารคิดว่าตัวองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหรือเปล่า แล้วนายบรรหารก็ตอบว่าไม่มีปัญหากับใคร มันคนละประเด็นกันเลย เพราะฉะนั้นตนฟันธงชัดเจนว่าการปฏิรูปการเมืองครั้งนี้ เพียงแค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากการอภิปรายในสภา แล้วการปฏิรูปนี้คือการโกหกตอแหล ดูต่อไปมันปฏิรูปไม่ได้ ไปหลอกให้คนมานั่ง แสดงความเห็น แต่พอถึงที่สุดก็ไม่เอา แล้วยังโยนบาปให้คนที่ไม่ร่วมว่าขัดขวางไม่ให้มีการปฏิรูป ถ้าปฏิรูปจริงต้องหยุดสิ่งที่คุณก่อน แต่นี่ไม่ได้หยุดเลย แล้วที่สำคัญนักการเมืองเป็นคนเสนอการปฏิรูปครั้งนี้ ก็เพียงต้องการปกป้องอาชีพนักการเมืองให้อยู่ต่อไป

อีกกรณีคือ นายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อดีตส.ส.ศรีสะเกษ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายบรรหาร เมื่อปี 2530 ตอนนั้นายบรรหารเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีช่วงนึงนายปิยะณัฐกล่าวว่า "คำกล่าวที่ท่านรัฐมนตรีท่านนี้ (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ได้แสดงความรู้สึกนึกคิดเอาไว้ในหมู่พรรคพวกของท่านว่า ในอดีตท่านต้องตกเป็นฝ่ายค้านอยู่เป็นระยะเวลา 3 ปี การเป็นฝ่ายค้านต้องอดอยากปากแห้ง อยู่กันด้วยความลำเค็ญเข็ญใจ เพราะฉะนั้นต้องทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปกราบไหว้คนทั่วทั้งสิบทิศ หรือทำอะไรก็ตาม เพื่อให้เป็นรัฐบาล"

นายบรรหารพูดได้อย่างไรว่าไม่เคยพูด ยังไม่ทันไรก็ตอแหลแล้ว แล้วจะปฏิรูปอะไรเพราะแค่นี้ยังไม่ยอมรับความจริง แล้วตนจะเชื่อนายบรรหารได้อย่างไรว่าไม่ได้รับงานทักษิณมา เพราะนี่รับงาน นช.ทักษิณ สุดๆ เลย ออกรับแทนทุกอย่าง แล้วยังเสือกไปชมยิ่งลักษณ์ว่าฉลาด เป็นตัวของตัวเอง ตนขอพูดสุนทรพจน์ของยิ่งลักษณ์คือ "ประเทศซิดนีย์อยู่ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีมาเลเซีย เมืองหลวงคือจังหวัดหาดใหญ่ งบประมาณปีละห้าหมื่นสามแสนล้านบาท สินค้าส่งออกคือหญ้าแพรก เส้นทางสายหลักของประเทศต้องเดินทางด้วยเรือดำน้ำ ไปตามถนนคอ-นก-รีต ขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมงานวันชาติประเทศซิดนีย์ เดือนพฤศจิกาคมนี้ แล้วถ้ามีเวลาก็อาจจะเดินทางไปยังนครรัฐอิตาลี เพื่อไปเฝ้าพระสันตะปาปา จะได้เป็นสิริมงคลกับชีวิต overcome to Sydney คำเตือน โปรดปิดบีบีในขณะร่วมงาน ... Thank you three times" คนที่พูดอย่างนี้ได้ จะคิดหลักการในการปฏิรูป 7 ข้อด้วยตัวเองได้อย่างไร โกหกใครได้ แต่อย่ามาโกหกตน และอย่าโกหกประชาชน งานปฏิรูปของนี้เป็นงานยิ่งกว่าปาหี่ ปาหี่ยังมีอะไรที่น่าดู แต่นี่มันงานจ้ำบ๊ะ แล้วจ้ำบ๊ะก็ด้วยหุ่นสุนัขไม่รับประทาน ถ้าเป็นผู้ชายก็อ้วนลงพุง ถ้าผู้หญิงก็นมยาน เป็นจ้ำบ๊ะที่อัปลักษณ์ที่สุด แล้วนี่บอกจะมาอีก อย่ามาเลย

นายสนธิ กล่าวอีกว่า มีรุ่นน้องคนนึงสนิทกับทักษิณและรู้จักตนดี ถามตนว่าทักษิณสงสัยว่าพันธมิตรฯยุติบทบาทจริงหรือเปล่า ตนตอบไปว่าทำไมต้องสงสัย ถ้าอยากรู้ยุติบทบาทจริงหรือไม่ ให้ทักษิณกลับมาเมืองไทย อย่างนั้นคุ้ม กลับมาเมืองไทยแล้วออกไปลุยกันเลย ถึงปะทะกับเสื้อแดงก็คุ้ม ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย รุ่นน้องก็ถามว่าทักษิณตายเรื่องจบไหม ตนเลยบอกว่าถ้าทักษิณตายกระบวนการแกนนำเสื้อแดงหมด เพราะพวกนี้เป็นกระบวนการที่ทักษิณจ้างขึ้นมาหนุนให้ทักษิณมีอำนาจเพื่อหาประโยชน์ แต่วันหนึ่งไม่มีกระเป๋าเงินมาจ่าย เสื้อแดงหมดแน่ แต่ถ้าตนตาย กระการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยังเดินหน้าต่อ เพราะระหว่างที่ทักษิณหว่านเงินให้คนโน้นคนนี้ พันธมิตรฯให้ปัญญาประชาชน เมล็ดพันธุ์ของปัญญามันเกิดแล้ว ต้นไม้ก็เติบโตไปเรื่อย และเมล็ดพันธุ์ก็ตกบนพื้นโตไปเรื่อยๆ เหมือนกับหลักต่อสู้กับนักพิชัยสงครามที่เรามองเป้าใหญ่ ต้องชนะสงครามใหญ่ เพราะฉะนั้นทักษิณไม่มีวันชนะพันธมิตรฯได้

นายสนธิ ยังกล่าวด้วยว่า มีคนบอกว่าตนไม่กลัวทักษิณเข้ามายึดประเทศหรือ ให้ยึดไปเลย ทำไมตนต้องกระโดดโลดเต้นไปตามคำพูดพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าทักษิณยึดแล้วทำประโยชน์ให้ประชาชนทั้งประเทศ ก็ยึดไปเลย ดีจะได้ไม่เหนื่อย แต่ถ้ายึดแล้วรวบอำนาจ รักษาผลประโยชน์ของตัวเองท่ามกลางความล่มสลายของสังคม นั่นคือการแล่นเรือในทะเลที่บ้าคลั่ง ในที่สุดทะเลจะล่มเรือของมันเอง เพราะหากคนลำบากมากๆ เงินที่โซ้ยมา ทั้งโครงการ 3.5 แสนล้าน 2.2 ล้านล้าน วันนั้นขี้ข้าสุนัขรับใช้จะลุกขึ้นมาเป็นกบฏ





คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 13 ก.ย. 2556

รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ น.ส.กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ ร่วมดำเนินรายการ

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ

กรองทอง - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่คุยทุกเรื่องกับสนธิค่ะ วันนี้วันศุกร์ที่ 13 กันยายน ศุกร์ 13 แต่บรรยากาศของเราเปลี่ยนไปเล็กน้อยนะคะวันนี้ อาจจะยังไม่ชินเท่าไร วันนี้เราจัดกันที่สถานี ในสตูดิโอที่บ้านเจ้าพระยา แต่ว่าบรรยากาศถึงแม้จะเปลี่ยนยังไงก็ตาม เจ้าของรายการยังคงอยู่เหมือนเดิม

จินดารัตน์ - เหมือนเดิมค่ะ

กรองทอง - ไม่เปลี่ยนแปลงนะคะ

จินดารัตน์ - ยืนหยัด มั่นคง ซื่อตรง และไม่เปลี่ยนแปลง สวัสดีค่ะคุณสนธิ

สนธิ - สวัสดีครับ

จินดารัตน์ - ยิ่งเมื่อวันก่อนที่ผ่านมา ยิ่งเป็นการการันตีว่ายังเหมือนเดิม

กรองทอง - พยายามจะสรรหาคำบรรยายเหตุการณ์ในวันนั้น แต่ก็ยังบรรยายไม่ได้ รู้แต่ว่า โถที่บ้านเจ้าพระยา

จินดารัตน์ - โถฉี่

กรองทอง - บ้านพระอาทิตย์ โถฉี่ น่าจะยังไม่ได้ใช้ น่าจะมีบางคนเกิดอาการพะอืดพะอมจุกเสียด แน่น เรอเหม็นเปรี้ยว แล้วก็กลับบ้านไป

จินดารัตน์ - อั้นฉี่กลับบ้าน ฉี่เป็นเลือด เขาบอว่ากระอักออกมาเป็นเลือด และฉี่เป็นเลือด ซึ่งไม่รู้ยังไงนะคะ ต้องถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งวันนั้นเขาบอกว่ายิ่งกว่ามวยคู่เอกอีก ปรากฏว่าฟังๆ ไป ดูลีลาชั้นเชิงแล้ว

กรองทอง - เหมือนมวยวัดกับอะไร ไม่ได้สิ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว

จินดารัตน์ - ลุงจำลองบอกว่าท่านอยู่เกินอายุเฉลี่ยมานานมากแล้ว

กรองทอง - เลยวัยตายมานานแล้ว

สนธิ - พี่ลองนี่ก็แสบนะ

จินดารัตน์ - มันนานเกินไปหรือเปล่าไม่รู้ วันนี้เดี๋ยวก่อนที่จะไปคุยประเด็นข่าวกัน มีหลายเรื่องที่น่าสนใจนะคะ เราไปดูเรื่องของพี่น้องพันธมิตรฯ เราก่อน อันนี้คือเสื้อที่เราจะจำหน่าย เพื่อนำรายได้เข้าสู่เอเอสทีวี แต่ที่มาในการจำหน่ายเสื้อคือ งานที่เราจะจัดร่วมรำลึกกัน วันที่ 7 ตุลาฯ

กรองทอง - ใช่ค่ะ และต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีที่พิเศษกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เพราะว่าเราจะจัดกันต่อเนื่อง 3 วัน 5 6 7 ตุลาคม เดี๋ยวมาไล่เรียงรายละเอียดกิจกรรมนะคะว่า อยากจะประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องพันธมิตรฯ มาร่วมงานพันธมิตรฯ สัมพันธ์เพื่อการปฏิรูปการเมือง ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 5 และ 6 ตุลาคม เราจะมีเวทีอยู่ที่บ้านเจ้าพระยา ที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีนะคะ
นอกจากจะมีเวทีที่จะได้มาพบปะพูดคุยทั้งกับผู้ได้ร่วมเสียสละ ผู้ที่บาดเจ็บกับพวกเรามาในช่วงเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ก็จะมีการจำหน่ายสินค้าด้วย เราเอาสินค้ามาจำหน่ายกันที่บ้านพระอาทิตย์ และจะได้พบกับพี่น้อง เลยอยากจะเชิญชวน ส่วนในวันที่ 7 ตุลาคม เราจะมีงานทำบุญกัน พบกันในงานครบรอบครึ่งทศวรรษ 7 ตุลาฯ รำลึก ก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันตักบาตรข้าวสวย เพื่อจะรำลึกถึงผู้เสียชีวิตวีรชนผู้กล้าของพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติของเรามา

จินดารัตน์ - ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบ อีกครั้งหนึ่ง เราจะเริ่มพิธีกันตั้งแต่ 06.30 น. ของวันที่ 7 และอันนี้ก็คือ เสื้อรักคุณเท่าฟ้า ที่จะนำมาจำหน่าย ร่วมใส่เสื้อแบบนี้มาร่วมงานกัน 5 6 7 ตุลาคม สัญญาใจก็จะมี 2 แบบ เป็นคอกลม และคอปกแบบนี้ ซึ่งด้านหลังคอปก ก็จะมีลายมือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เรารักในหลวง คงยังจำกันได้ มีหลายสีนะ ถ้าเป็นคอปกจะมีทั้งหมด 5 สี ส่วนคอกลมมี 8 สี ราคาก็จะไล่เรียงกันไปตั้งแต่ 250 บาท ไปจนถึง 400 บาท เงินรายได้ทั้งหมดนำเข้า ASTV สบับสนุนการทำงานของ ASTV จะนำมาจำหน่ายให้พ่อ แม่ พี่ น้อง วันเสาร์ อาทิตย์ ที่ 21 22 และ 28 29 กันยายน ตั้งแต่ 09.00 น.- 15.00 น. เพราะฉะนั้นขอให้พ่อแม่พี่น้องที่มีสัญญาใจกันมาร่วมกัน 3 วัน ร่วมกันหน่อยใส่เสื้อ รักคุณเท่าฟ้ามาร่วมงานกัน หึ ยิ้ม วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

สนธิ - ทำไม

จินดารัตน์ - เพราะจะได้พูดถึงนครรัฐใหม่ที่เกิดขึ้นใหม่ในโลกใบนี้

กรองทอง - ไม่คือเมื่อตอนบ่าย

สนธิ - เรามีนายกฯ ที่สุดยอด ตั้งประเทศเขาได้ทันทีในโลกนี้หาไม่ได้อีกแล้ว

กรองทอง - ใช่ๆ คือกำลังจะบอกว่า เมื่อตอนบ่ายได้อ่านสเตตัสในสกู๊ปของ คุณสุรวิชช์ วีรวรรณ คุณสุรวิชช์บอกว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในหนึ่งปี แต่นครรัฐอิตาลีสร้างเสร็จภายในหนึ่งวัน เขาเรียกว่าภายในอะไรนะ อยู่ๆ นายกฯ ก็ไปตั้งนครรัฐอิตาลีให้เขาได้เลย แต่ว่าล่าสุดทีมงานเขาออกมาปฏิเสธนะคะ ทีมงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เขาออกมาขออภัย

จินดารัตน์ - เขาบอกว่าฝีมือพวกทีมงาน

กรองทอง - ใช่ เขาบอกว่าไม่เกี่ยวกับนายกฯ

จินดารัตน์ - ท่านนายกฯ ศึกษามาจากต่างประเทศถูกต้อง แต่ว่าทีมงานพลั้งเผลอไปนิดนึง

สนธิ - แล้วทำไมนายกฯ ถึงมีทีมงานโง่ๆ อย่างนี้

กรองทอง - จะฉลาดกว่านายกฯ ได้ไงค่ะ

สนธิ - ก็นั้นนะสิถึงบอกไง

จินดารัตน์ - คนอย่างไรคบคนอย่างนั้น

สนธิ - ผู้นำเป็นยังไงลูกน้องก็เป็นอย่างนั้น

จินดารัตน์ - เราก็เห็นเขาเถียงกันเรืองอีกโง่อะไรในสถาฯ พอตื่นเช้ามาเราได้เห็นนครรัฐอิตาลีเราก็เลยอืม ก็เป็นการตอกย้ำ

กรองทอง - คือตอนแรกเราดูอภิปรายในสภาฯ ใช่ไหมค่ะ บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามันมีประเด็นนี้อยู่ด้วยทุกคนจะได้รู้ แล้วก็พยายามจะมาปฏิเสธว่าไม่มี พยายามมาหาว่าใครคืออีโง่กันแน่ ปรากฏว่า ยิ่งลักษณ์เฉลยข้ามทวีปมา อยู่ๆ ก็เฉลยให้เขารู้

จินดารัตน์ - นี้ถึงขั้นได้ข่าวว่า จะไปข้อให้กูเกิลเปลี่ยนแปลงข้อมูลอะไรบางอย่างในกูเกิลเหรอค่ะคุณสนธิ ทำได้ด้วยเหรอค่ะ

สนธิ - คงยากเพราะว่า ตัวระบบกูเกิลเขาจะใส่คีย์เวิร์ดไว้ ข่าวอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับคนๆ นั้น ที่มีคีย์เวิร์ดมันจะขึ้นของมันเอง

จินดารัตน์ - คือจำนวนที่มากที่สุด

สนธิ - จำนวนที่มากที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วสมมุติว่า คนๆ หนึ่งถูกเรียกว่า อีโง่มากที่สุด อีโง่จะขึ้นทันทีเลย และข่าวเรื่องเกี่ยวกับอีโง่ทั้งหมดก็จะมา เหมือนสมมุติว่า เขาคีย์เวิร์ดชื่อผม สนธิ ลิ้มทองกุล พอคลิกเข้าไปจะมีข่าวเกี่ยวกับผมที่มีชื่อสนธิ ลิ้มทองกุล เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นพันๆ ข่าว ฉันใดฉันนั้น เพราะฉะนั้นการซึ่งพอคีย์เวิร์ดคำว่า อีโง่ เข้าไป และคลิกถ้าไปเจอใครเข้าไปคนนั้นแสดงว่า ถูกกล่าวขวัญมากที่สุดว่า เป็นอีโง่ อันนี้คือประชาธิปไตยที่แท้จริง

จินดารัตน์ - ใช่ อันนี้ถูกต้อง

กรองทอง - คือเหมือนเขาต้องทำสถิติมาก่อน

สนธิ - ต้องทำสถิติมาก่อน ต้องเป็นที่ยอมรับของมวลชน

จินดารัตน์ - เขาบอกถ้าจะเปลี่ยนทัศนคติความคิดแบบนี้ของประชาชนคนไทย เขาบอกว่ามันยากยิ่งกว่าเอาทักษิณกลับบ้านอีก และยากยิ่งกว่าให้ประชาธิปัตย์ลาออกอีก

กรองทอง - ยากจริงๆ ด้วย

จินดารัตน์ - เรามาดูการเดินทางเขาหน่อยละกันเนอะว่า เขาไปไหนบ้าง ทริปนี้ก็ไปสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว ก็โดนคนไทยกลุ่มหนึ่งไปชูป้ายว่า สาดเสียเทเสียว่า เอาเงินภาษีประชาชนมาผลาญมาถลุงมาเที่ยวแบบนี้มันไม่ถูกต้องนี่ค่ะ เขาไปยืนชูป้ายกันในโรงแรมที่ซูริก ที่นายกฯ ไปประชุม ปรากฏว่า ชูป้ายกันอยู่ นางก็เดินเข้าไป ด้วยความที่นางอ่านหนังสือไม่ออก หรือเห็นไม่ชัด หรืออะไรไม่รู้ นางไม่ดู นางเดินตรงเข้าไปในห้องประชุม

กรองทอง - นึกว่ามาชูป้ายต้อนรับหรือเปล่า

จินดารัตน์ - ประมาณนั้น

กรองทอง - เขาเขียนภาษาไทยนะ

จินดารัตน์ - ภาษาไทย มีภาษาอังกฤษบ้างเล็กน้อย ก็ไม่สนใจ เดินเข้าห้องประชุมปุ๊บ มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมา (เดี๋ยวปล่อยเสียงผู้ชายคนนั้นหน่อยนะคะ) มาบอกว่า ใครไม่เข้าใจ ใครเข้าใจผิดว่าท่านนายกฯ เอาเงินมาเที่ยวแบบนี้ เป็นการเข้าใจผิดนะ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง ระหว่างที่ชูป้ายกันอยู่ นายกฯ เดินเข้าห้องประชุมไปแล้ว นี่ค่ะผู้ชายคนนี้

*****************(VTR)*****************

จินดารัตน์ - ผู้ชายคนนี้ก็คือ นายเฉลิมพล ทันจิตต์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสมาพันธรัฐสวิส ก็ออกมาแก้ต่างให้ใหญ่เลย

สนธิ - ทำงานเข้าตามาก

จินดารัตน์ - เข้าตีนด้วย คือพอเรื่องถึงหูนายปึ้ง นายปึ้งก็ออกมา ก็ลากคนไทยเข้าไปอธิบายอีกรอบหนึ่ง คนไทยที่นั่นก็คือ เกรงใจท่านทูตมั้งคะ ตอนแรกก็บอกว่าไม่อยากฟังหรอกค่ะ รู้มาหมดแล้ว ทูตก็เลยถามว่า รู้มายังไง รู้มาจากไหนรู้มาจากข่าว รู้หมดแล้วไม่ต้องฟังท่านอธิบายหรอก

สนธิ - น่าจะบอกรู้จากASTV

จินดารัตน์ - ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น ก็นายปึ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาก็อีกรอบหนึ่ง อธิบายให้คนไทยฟัง ก้เขาเห็นแล้วว่าปฏิกิริยาพวกข้าราชการนี้พูดไปก็ ก็สองไพเบี้ยก็กลับบ้านดีกว่า เขาบอกเออได้ชูป้ายได้แสดงเจตจำนง ความรู้สึกแล้ว พี่น้องที่ไปประท้วงก็เลย พอแล้ว ได้ทำหน้าที่ของเราแล้วทำให้เขารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร ก็ต้องขอบคุณนะค่ะ พี่น้องคนไทยที่รู้สึกเช่นเดียวกับพี่น้องที่อยู่ที่นี้ บางคนเขาบอกรอเวลานี้มานาน

กรองทอง - แล้วเมื่อกี้ได้เห็นว่า เป็นโอกาสที่ได้เข้าไปใกล้ชิดยิ่งลักษณ์ มากเลย อีกแล้วอะ เป็นโรคซาดิสม์ อยากใกล้ชิดแบบนี้บ้าง เหมือนพี่น้องที่อเมริกาที่ได้มีโอกาสไล่ทักษิณ ตะโกนไล่ทักษิณกันแทบตาย แต่เราไม่เคยได้ไล่กะตัวเป็นๆไง อย่างพี่น้องที่อเมริกาได้ไล่ตัวเป็นๆ นี้ก็เหมือนกันได้ไล่กับตัวเป็นๆเลย

สนธิ - เป็นคนโชคดีมาก มีบุญ

จินดารัตน์ - แล้วเสร็จจากสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางต่อไปอิตาลี ก็ได้คุยอะไรบ้างไม่รู้นะ ตกลงได้คุยอะไรไหม ได้แลกเปลี่ยนอะไรไหม

กรองทอง - เขาบอกเขาคุยเรื่องบอกว่า เรื่องอุตสาหกรรม

จินดารัตน์ - พวกแก๊สติดรถยนต์

กรองทอง - เขาบอกว่าอิตาลีกับบ้านเรามีหลายอย่างที่คล้ายกัน แล้วก็น่าจะมีความร่วมมือกันได้ หนึ่งในนั้นมีเรื่องแฟชั่นด้วยนะที่เขาพูดมา

สนธิ - ผมเห็น นายกฯ คนนี้เดินทางไป 40 กว่าประเทศ แล้วก็พูดตลอดเวลาไปเพื่อส่งเสริมการค้าให้กับไทย แต่ผมกลับเห็นว่า อัตราการส่งออกของเราเลวลงตลอดเวลา ยิ่งไปมาก ไทยยิ่งเจ๊งมากแทนที่จะส่งเสริมส่งออก กลับทำให้การส่งออกถดถอยมากขึ้น เพราะเขาอาจคุยกับนายกฯ เราแล้ว เขารู้สึกว่าถ้าคุณภาพนายกฯ เราแบบนี้ คุณภาพสินค้าเราคงไม่ต่างจากนายกฯ

จินดารัตน์ - มิน่ายอดส่งออกเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขาดดุลการค้าถึง 78,000 กว่าล้าน

สนธิ - ตกตลอดเวลา เมืองไทยมันใกล้ล่มสลายแล้วแอน และก็เรามีนายกฯ คนหนึ่ง ซึ่งเดินทางตลอดเวลา และจริงๆ แล้วเบื้องหลังการเดินทางที่แท้จริง มันไม่ใช่ไปเรื่องของการที่จะไปเยี่ยมโน้นที่นั่น เพื่อที่จะไปเจริญสัมพันธ์ไมตรีอะไรทั้งสิ้น เรื่องหลายเรื่องไม่จำเป็นต้องนายกฯ ไป คนระดับแค่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศก็ทำได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องยกเลิกวีซ่าระหว่างมอนเตเนโกรกับประเทศไทย แท้ที่จริงเบื้องหลังไป เพื่อที่จะไปหาทักษิณ ชินวัตร และเบื้องหลังจริงๆ ที่เดินทางบ่อย จริงๆ เลยคือ การแก้เคล็ด

จินดารัตน์ - ทำไมคะ

สนธิ - หมอดูเขาบอกไม่ให้อยู่เมืองไทยนาน ก็สังเกตสิตั้งแต่เขาเป็นนายกฯ มา มีครั้งไหนที่เขาอยู่เมืองไทยได้ครบเดือน ไม่มี เขาเดินทางตลอด เพราะเป็นการแก้เคล็ดให้เดินทางตลอดเวลา ให้ขับเคลื่อนตลอดเวลา และตัวเองจะอยู่ได้นาน คือคนพวกนี้เป็นพวกซึ่งเชื่อในสิ่งที่น่าจะงมงายมาก ผมยังไม่รู้อีกหน่อยหมอดูอาจจะต้องบอกให้เดินทางไปแอฟริกาไปหาหมอผีแอฟริกา และช่วยต่ออายุให้ด้วยก็ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้น และคนที่ตรงนี้แหละ โยงกลับไปหาคุณบรรหารนิดเดียวพอ แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาคุยเรื่องใหญ่ เพราะว่ามีหลายคำตอบที่ผมต้องตอบคุณบรรหาร เพราะวันนั้นผมไม่มีเวลาตอบ ผมไม่อยากไปขัดคอแก คือคนที่ไม่เคยอยู่ประเทศไทย และบริหารประเทศ คนที่ไม่เข้าไปในสภาฯ แล้วตอบคำถามในสภาฯ ไม่ตอบ คนที่ไม่กล้าตอบปัญหาต่อสื่อมวลชนในเรื่องที่สำคัญๆ และก็โยนหมด และใช้เป็นอยู่คำเดียวคือว่า บูรณาการ พูดอยู่แค่นี้ คิดว่าคำว่า ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ คือคงจะมีที่ปรึกษาพูด และจำได้ขึ้นมา และคิดว่ามันเท่เลยพูด
คนประเภทนี้จะปฏิรูปการเมืองได้ไง เพราะตัวเองยังไม่เคยเข้าใจเลยว่า ตัวเองมีหน้าที่อะไร ตัวเองไม่ใช่กรรมการผู้จัดการเอสซีแอสเสท และตัวเองก็ไม่ใช่ เล่นบทบาทน้องสาวทักษิณ ชินวัตร ที่คอยรับออเดอร์จากทักษิณ ชินวัตร ตัวเองคือนายกรัฐมนตรี แล้วตัวเองก็เจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วตลอดเวลา ว่าตัวเองนี้ "ไม่มีค่ะ ทักษิณไม่ได้สั่งค่ะ ตัดสินใจด้วยตัวเอง" ตัดสินใจด้วยตัวเองอะไรกัน ทั้งทหาร ทั้งตำรวจ บินไปหาพี่ชายตัวเองกลับมา แล้วก็เสนอเข้า ก.ตร.เสร็จเรียบร้อย หรือเสนอเข้ากระทรวงกลาโหม แล้วก็ปล่อยให้เขายกมือกัน ให้ผ่าน "ไม่ค่ะๆๆ" คือยังไงดีล่ะ ไม่อยากจะพูดว่าเขาเป็นคนโง่ แต่ผมพยายามพูดมาตลอดเวลาว่า เขานี่เป็นคนที่น่าสงสาร จำได้มั้ยแอน แรกๆ ผมเป็นคนบอกเองว่า พี่ชายเขาน่ะอำมหิตมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องสาวสติไม่สมประกอบ หรือว่าเป็นอย่างที่เขาเรียกว่าออทิสติกอ่อนๆ ยังจะให้น้องสาวมาทำงานทางด้านนี้ เพราะว่าไว้ใจใครไม่ได้ น้องสาวก็เลยต้องป้ำๆ เป๋อๆ ไปแบบนี้ ไม่เชื่อ คุณยิ่งลักษณ์ลองกลับมาแล้ว เปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์สิ นั่งแล้วให้สื่อมวลชนนั่งทั้งห้องเลย สัมภาษณ์ ถามคำถาม นายกรัฐมนตรีต้องตอบได้สิ ไม่กล้าหรอก เวลานั่งในสภาฯ ทำไมถึงกล้านั่ง เพราะว่า จะมีคนที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ยิ่งลักษณ์ออกมาโวยวายแทนให้ นี่ไง

จินดารัตน์ - แล้วเขาบอกไปมอนเตเนโกรครั้งนี้ เขาบอกเป็นประเทศที่ประชากรไม่ถึงล้านคน แล้วทำการค้ากับไทยปีหนึ่งไม่กี่ล้าน ไม่ถึงล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำ

กรองทอง - ใช่ นี่เรื่องของการค้า แล้วเรื่องของการท่องเที่ยว ทางธุรกิจท่องเที่ยวเขาก็บอกว่า ...

สนธิ - เบื้องหลังคือ ไปหาพี่ชาย

จินดารัตน์ - ไปเนี่ย เครื่องบินลำใหญ่ของการบินไทยเขาลงไม่ได้ด้วยนะคะ ต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องบินลำเล็ก

สนธิ - ไปเพื่อหาพี่ชายเท่านั้นเอง แล้วก็อ้างโน่นอ้างนี่ ก็เลยต้องสร้างเรื่องนิดหนึ่งว่า มีการเดินทางไป วีซ่าฟรี ผมถามคุณหน่อยซิ นอกจากพี่ชายที่ลี้ภัยอยู่มอนเตเนโกร มีคนไทยคนไหนอยากไปเที่ยวมอนเตเนโกร
มอนเตเนโกร อดีตมันเป็นเมืองขึ้นของประเทศอิตาลี ในอดีตนานมาแล้ว 2-3 ร้อยปีมาแล้ว เป็นเมืองขึ้นของอิตาลี หน้าหนาวก็เหมือนอิตาลีตอนเหนือ หน้าร้อนก็สวย แต่คนรัสเซียอยู่เยอะไปหมด แล้ววันนี้ทักษิณ ชินวัตร ก็กลัวถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ด้วย เพราะพวกรัสเซียคือ จอมเรียกค่าไถ่คน พวกมาเฟียรัสเซีย ไปตะวันออกกลางก็กลัวอัลกออิดะห์ เพราะว่าคลิปอัลกออิดะห์มันเป็นของจริง ไม่ใช่ของปลอม พอไปอยู่ดูไบนาน เจ้าครองแคว้น ชีคก็บอก ถ้าไปได้ ออกไปซะก่อน อยู่แล้วเดี๋ยววุ่นวาย

จินดารัตน์ - เห็นว่าขนข้าวขนของออกมาเกือบหมดแล้วนี่คะ

สนธิ - ผมไม่รู้ กลัวไง กลัวจริงๆ เพราะอัลกออิดะห์นี่ ถ้าใครฆ่าทักษิณได้นี่นะ อัลกออิดะห์เวลาเขาฆ่าศัตรูของอิสลามได้ เขาถือว่าทักษิณคือศัตรูอิสลามนะ เพราะเขากล่าวหาว่า ทักษิณอยู่เบื้องหลังในการฆ่าพี่น้องชาวมุสลิมทางใต้ ทั้งกรือเซะ ทั้งตากใบ เพราะฉะนั้นเขาเลยบอกว่า ต้องฆ่าทักษิณให้ได้ เหมือนกับเขาประกาศให้มรณบัตรทักษิณไว้เรียบร้อยแล้ว ทักษิณกลัวไง อยู่จีน จีนก็รำคาญ เพราะจีนมีปัญหาทางมณฑลซินเจียง ชาวมุสลิม ชาวอุยกูร์ เขามีปัญหาของเขาอยู่แล้ว แล้วทักษิณไป อัลกออิดะห์มันไปตามล่าทักษิณขึ้นมา เดี๋ยวเขาเกิดมีวุ่นวาย มีการวางระเบิดโน่น ระเบิดนี่ ฮ่องกงก็ไม่สบายใจ ไปที่ดูไบก็ไม่สบายใจ เหมือนกับทุกประเทศเห็นว่าทักษิณเป็นเสนียดจัญไร

จินดารัตน์ - เป็นตัวปัญหา จะนำพาความซวย

สนธิ - จะนำพาความซวยมาให้ ผมถึงบอกว่า เขาเป็นคนซึ่งจิตใจเขาไฟสุมขอน ซึ่งเดี๋ยวผมจะพูดถึงเขาในตอนท้ายๆ

กรองทอง - แล้วการยกเลิกวีซ่าคราวนี้ล่ะคะ จะเอื้อประโยชน์ คือบางคนก็มองว่า

สนธิ - เขาบอกมอนเตเนโกรมาเที่ยวเมืองไทย 2-3 ปี มีแค่ 200 คน แค่นั้นเอง

กรองทอง - อย่างธุรกิจการท่องเที่ยวเขายังออกมาบอกเลยว่า มันไม่ได้ตอบโจทย์เลย ถ้าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว คือมอนเตฯ ก็ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยจะไป และไทยก็ไม่ใช่ที่คนมอนเตฯ จะมาเที่ยวด้วย

สนธิ - เขาไม่สนใจที่จะตอบโจทย์คุณหรอก เขาตอบความต้องการเขามากกว่า ว่าเขาไปเยี่ยมพี่ชายเขา

จินดารัตน์ - แต่เขาบอกว่า ยกเลิกนี่ยกเลิกเฉพาะวีซ่าข้าราชการ เล่มน้ำเงินกับสีแดง เพื่อให้ขี้ข้าทั้งหลายบินไปหาโดยที่ไม่ต้องบันทึก

กรองทอง - จะได้ตรวจสอบไม่ได้ ต่อไปใครไปขอตำแหน่ง ใครไปให้ประดับยศ

จินดารัตน์ - เผลอๆ เขาบอกว่า ... ไม่รู้จริงหรือเปล่านะคะ เขาบอกว่า ก็ยกเลิกวีซ่าแล้วนี่ ทักษิณก็บินเข้ามาเมื่อไรก็ได้ สาธุ!! เข้ามาเถอะ

สนธิ - เมืองไทยแต่ก่อนนี้เขาเรียกว่า Land of smile ตอนนี้ก็เป็น Land of ขี้ข้า แล้ว

จินดารัตน์ - smile แบบขี้ข้า คือเขาเป็นตัวปัญหามากเลยตอนนี้ หลายประเทศบอก

สนธิ - แล้วนายนพดล ปัทมะ มาหาว่าพันธมิตรฯ คือผม ไปว่าทักษิณเป็นตัวปัญหา เขาบอกพันธมิตรฯ เป็นตัวปัญหา จนวันนี้คุณนี่นะ ... คุณได้ทุนอานันทมหิดลไปเรียนกฎหมายที่ออกซ์ฟอร์ด และเคมบริดจ์ คุณยังไม่เข้าใจอีกว่านายคุณ ที่คุณรับใช้อยู่น่ะ คือตัวปัญหา นายคุณตายเมื่อไรนะ ปัญหาจบหมด แผ่นดินสูงขึ้นอีกหลายฟุตเลย

จินดารัตน์ - เห็นบอกวราเทพ รัตนากร เขาพาดพิงถึงคุณสนธิด้วย กรณีที่คุณบรรหารมาหาที่บ้านพระอาทิตย์ เขาบอกว่าคุณสนธิไม่ก้าวข้ามคุณทักษิณ

สนธิ - ผมจะไปก้าวข้ามได้ยังไง

จินดารัตน์ - ก็เลยยังปรองดองไม่ได้

สนธิ -ผมก้าวข้ามเขาไม่ได้ เหตุผลที่ก้าวข้ามเขาไม่ได้เพราะว่าเขาไม่ยอมรับหลักนิติรัฐ ส่วนคุณวราเทพ นี่ก้าวข้ามคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้มั้ย

จินดารัตน์ - เดินค้อมหลังได้อย่างเดียว

สนธิ - เดินค้อมหลังเลย มือกุมเป้าเลย คุณวราเทพ คุณนี่คือขี้ข้าเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ คุณหยุดพูดถึงผมทีได้แล้ว ขี้ไส้คุณกี่ขด ผมรู้หมด คุณวราเทพ คุณมาจากไหนผมก็รู้ กำพืดคุณเป็นยังไง ผมก็รู้ คุณได้ตำแหน่งมายังไงคุณก็รู้ คุณแสดงตัวเป็นขี้ข้ากับพวกตระกูลชินวัตรยังไง ผมก็รู้หมด ทำเป็นปากกล้าดี

กรองทอง - ก็วันที่เจ๊แดงไปรายงานตัวเป็น ส.ส. วราเทพ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คนนี้ล่ะ ที่ไปยืนต้อนรับ ส.ส.อย่างเจ๊แดง ที่มารายงานตัวที่สภา

สนธิ - ก็วันนี้เป็นรัฐมนตรีได้ก็เพราะ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

จินดารัตน์ - งั้นต้องฝากบอกว่า ช่วยไปบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ด้วยนะคะว่า ให้ก้าวข้ามทักษิณด้วย เพราะเขาบอกว่าปัญหาการศึกษาไทยวันนี้ คือเราจะพัฒนาได้ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี แต่ถ้าเราให้คุณทักษิณกลับมา เราจะชนะญี่ปุ่นได้เลยนะคะ มันเกี่ยวกันหรอค่ะ คุณสนธิ เขาบอกว่าถ้าให้ท่านทักษิณกลับมา

สนธิ - เขาพูดอย่างนี้จริงหรอ

จินดารัตน์ - จริงค่ะ เมื่อวานสัมภาษณ์ จาตุรนต์ ฉายแสง เขาบอกว่า เรามีปัญหาเพราะว่า ท่านทักษิณทำคุณประโยชน์ต่อวงการการศึกษาไว้เยอะ ถ้าท่านทักษิณกลับมานี่นะ เด็กไทยจะเก่งทันตาเห็นเลย จะชนะญี่ปุ่นได้ด้วย

สนธิ - คุณจาตุรนต์บ้าไปแล้วหรือยัง ผมก็ยังเห็นแกสติยังดีอยู่นะ

จินดารัตน์ - ระยะหลังไม่ค่อยดีแล้วค่ะ

สนธิ - แกไปติดเชื้อบ้ามาจากไหนสิ

จินดารัตน์ - จนทุกคนตกใจว่า เขาก็กล้าพูดแบบนี้เนอะ

สนธิ - โอ้ยบ้านเรา แสนทุกข์ใจ

กรองทอง - ทุกข์ใจแต่ต้องแก้กรรมเอาไว้ เพราะเมื่อวานนี้มีแก้กรรมปัดรังควานอะไรให้คุณยิ่งลักษณ์ ที่เชียงใหม่ วัดศรีบุญเรือง
ที่เชียงใหม่ เขาบอกว่าตอนนี้มีคนเอาดิน เอากระดูก 7 ป่าช้ามาฝังที่ทำเนียบ ทำให้ตอนนี้รัฐบาลทำอะไรก็มีแต่อุปสรรคไปหมดเลย

สนธิ - ใครฝัง

กรองทอง - คนที่ไม่หวังดีกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์

จินดารัตน์ - เขาฝังตั้งแต่สมัยทักษิณ ลืมเอาออกหรือเปล่า

กรองทอง - ไม่รู้ เขาบอกว่า เพราะบอกเลยนะ พระบอกมีคนเอาดิน เอากระดูก 7 ป่าช้ามาฝังที่ทำเนียบ

สนธิ - อย่างนั้นเลยหรอ

กรองทอง - พระเลยต้องทำพิธีขอสุริยเทพ ในการที่จะช่วยแก้กรรมให้นายกฯ ด้วยการเพ่งดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า

สนธิ - นี่พระหรอ พระวัดไหน

จินดารัตน์ - พระวัดศรีบุญเรืองค่ะ

กรองทอง - ที่เชียงใหม่

สนธิ - ชื่ออะไร

จินดารัตน์ - เจ้าอาวาสหรือเปล่า

กรองทอง - เจ้าอาวาส

สนธิ - อย่างนั้นเลยหรอ แน่ใจหรือว่าท่านเป็นพระในพระพุทธศาสนา

จินดารัตน์ - ก็ขี้ข้ามันลามไปหลายวงการ

สนธิ - ขี้ข้ามันลามไปวงการสงฆ์ และต้องไปเพ่งสุริยเทพอีกหรอ โอมนะโม สุริยา จันทรา ผมว่าบ้าไปแล้วนะประเทศไทย

จินดารัตน์ - และเชื้อโง่ที่มันก็ลามไปด้วยนะ เพราะว่าเพ่งดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า

กรองทอง - ไม่รู้ป่านนี้เป็นต้อไปหรือยังไม่รู้

จินดารัตน์ - บอดไปแล้ว

กรองทอง - ที่พระบอกมากกว่านั้นคือว่า เรื่องอัปมงคลที่มีคนทำให้เช่น อะไรบ้างนักข่าวถาม เช่น มีคนเข้าไปยึดทำเนียบนี่ไง ก็เลยต้องสุริยเทพ เพื่อที่จะขอให้ผ่อนหนักให้เป็นเบาอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่จริงๆ แล้วเท่าที่อ่านข่าว ทำข่าวมาก็ไม่เคยรู้ว่า จะมีใครไปฝังอะไรที่เป็นอัปมงคลในทำเนียบนะนอกจาก ขี้ควายนะคะ เพราะเห็ดขี้ควายขึ้นในทำเนียบจริงๆ

สนธิ - ผมว่าที่มีในทำเนียบน่าจะมีผีกระสือ กับกระหัง กับดวงวิญญาณแรดอีก 2,000 ตัวนะ

กรองทอง - มีผีบ้า

สนธิ - มีผีบ้า

จินดารัตน์ - เขาว่าแรงว่าผีอีเม้ย อีกนะ อีแพงยังสู้ไม่ได้

สนธิ - สู้ไม่ได้ งานนี้

กรองทอง - พระคงไล่ไม่ได้เหมือนกันนะ ถ้าแรงขนาดนี้

จินดารัตน์ - ผีมีนอ เอาจากเรื่องขี้ข้ากับนายโง่ๆ นะ เราก็มาต่อกันเรื่องขี้ข้าสุดสุดลิ่มทิ่มประตูอีกคนหนึ่ง

กรองทอง - อ่อ คนนี้ได้วีซ่าอยู่ต่อ ใช่ไหมคะ 1 ปี

สนธิ - ก็ผมพูดแล้วไงอาทิตย์ที่แล้วว่า ธาริต เพ็งดิษฐ์ นะ ยังทำงานฆ่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่จบยังค้างบางเรื่องอยู่

จินดารัตน์ - ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ 100 เปอร์เซ็นต์

สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วธาริต เพ็งดิษฐ์ต้องรับใช้เป็นขี้ข้าเขาเต็มที่นั้นคือต่ออายุเขาอีก 1 ปี เขายังไม่เกษียณนะ แต่ว่าต่ออายุการเป็นอธิบดี เพราะธรรมดาการเป็นอธิบดีเป็นเทอมไง อยู่ 4 ปี 3 ปี แล้วครบต้องไป แล้วผมฟันธงไว้เลย ธาริต เพ็งดิษฐ์วิ่งเต้นจะเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมหลังจากทำงานครบ 1 ปี

กรองทอง - จะเติบโตในสายนี้เลยนะ แล้วๆ

สนธิ - ก็เป็นทางเดียว เพราะตอนนี้เขาอยู่กระทรวงยุติธรรมไง ต้องเร่งๆ ทำงานๆๆ ให้เข้าตานาย

จินดารัตน์ - นี้ก็ทิ่มตาเราแทบบอดละ เข้าตาขนาดนี้

กรองทอง - ที่เข้าตามากเลยก็รับเรื่องเสือ สิง กระทิง ปู เป็นคดีพิเศษไงใช่ไหมค่ะ รับไว้โดยไม่ต้องเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษเลยอ่ะ

จินดารัตน์ - ก็ลองดู 5 คดีใหญ่ๆ ที่คุณสนธิบอกนะคะที่ทำงานยังไม่บรรลุเป้า 100 เปอร์เซ็นต์ คดีสั่งสลายการชุมนุมปี 53 ที่มีผู้เสียชีวิต 98 คน อภิสิทธิ์ในฐานะนายกฯ กับสุเทพตอนก็เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ คดีทุจริตสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง คดีต่อสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ทำสัญญากับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร คนประชาธิปัตย์อีกหนึ่ง คดีทุจริตซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษาภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจก็ยุคชินวรณ์ บุณยเกียรติ 5 คดีเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วธาริตบอกว่า

สนธิ - ข้อ 5 นี้ถึงกับจะยุบพรรคเลย

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ คือถ้าข้อนี้ทำสำเร็จสงสัยอาจได้เป็นรองนายกฯ ด้วยค่ะ

สนธิ - เป็นไปได้

จินดารัตน์ - แล้วธาริตพูดอย่างนี้นะคะว่า เมื่อฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นฝ่ายปฏิบัติ และดีเอสไอก็เป็นฝ่ายปฏิบัติ ถ้าไม่เป็นเครื่องมือให้รัฐบาลแล้ว จะให้เป็นเครื่องมือใคร ก็เลยได้ต่อายุการทำงานอีกหนึ่งปี เขาบอกว่าภายในหนึ่งปีน่าจะทำงานให้บรรลุผล

สนธิ - ทั้ง 5 คดี

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ ยิ่งคดียุบพรรคเนี่ยสุด ถ้าภาษาวัยรุ่นเขาเรียกว่าสุดตีน

กรองทอง - เอาให้ฝุดๆ ไปเลย

จินดารัตน์ - ฝุดๆ ไปเลยจริง นอกจากนี้เขายังต่ออายุให้กับข้าราชการการเมืองอีกหลายคน 2 ในนั้นคือ อนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สนธิ - ข้าราชการการเมืองทำไมต้องต่ออายุ

จินดารัตน์ - เขาบอกว่าหมดวาระ การดำรงตำแหน่ง 1 ปี วิสา คัญทัพ ฉวีวรรณ คลังแสง ได้หมด มีอะไรอีกไหม มีอะไรต่อไหมเรา

กรองทอง - มาเรื่องผีอีแพงหน่อยนะคะ เรื่องของแพง ตั้งแต่ 1 กันยา ที่เขากระชากค่าครองชีพเพิ่มขึ้นไป แต่ว่าตอนนี้ที่มีปัญหามากๆ และยังแก้ไขปัญหาไม่ได้คือ เรื่องของค่าทางด่วนที่มีการขึ้นไปแล้ว แต่ว่าคนที่ใช้ทางด่วนโดยคนที่ใช้อีซี่พาสเขาบอกว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาระบบของอีซี่พาส บางคนก็บอกว่าเวลาใช้อีซี่พาสต้องลุ้น ต้องลุ้นเหมือนตารางหุ้น ว่าขึ้นหรือจะลงเช่น วันนี้เติม 2,000 ขึ้นด่านหนึ่งเหลือ 1,400 พอขึ้นอีกด่านหนึ่ง เพิ่มมาเป็น 1,700 มันขึ้นลงเป็นตลาดหุ้น ชีวิตต้องลุ้นขนาดนี้เลย แล้วทางการการทางพิเศษเขาบอกว่าเขาขอ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องปรับปรุงระบบเขาขอถึง 30 กันยายน ที่เขาจะปรับปรุงระบบอีซี่พาส รับรองว่า จะหมดปัญหาไม่มีปัญหาแน่นอน

จินดารัตน์ - เพราะพี่อมรออนทัวร์เขาไปบุก เขาถึงถิ่นเลย ก็พบปัญหาว่า เซิร์ฟเวอร์เขาทำมารองรับแค่ 250,000 รายบัตรนะ ปรากฏว่า พอเขาลดแลกแจกแถมไม่ต้องมัดจำบัตรคนมันใช่เพิ่มเป็น 600,000 รายภายในเวลา แค่ 1 ปี เลยกลายเป็นว่า เซิร์ฟเวอร์ล่ม มันเลยรวนไปหมดเเลยตอนนี้ ทำหน้าไม่เชื่อใช่ไหม พี่ก็ได้ข่าวว่าลงทุนไปหลายร้อยล้าน ได้ระบบห่วยๆ แบบนี้

กรองทอง - ใช่ค่ะ ลงทุนระบบ 400 ล้านบาท สำหรับการลงทุนระบบอีซี่พาส

จินดารัตน์ - คุณสนธิ แอนจำได้ว่า ครั้งที่ไปญี่ปุ่น ขับรถมานะคนขับรถแทบไม่ต้องชะลอเลย แต่อีซี่พาส บ้านเรานะ

กรองทอง - ชะลอแล้วต้องลุ้นด้วยนะ ลุ้นแล้วกำพระที่อยู่บนรถด้วยขอให้ผ่าน

จินดารัตน์ - บางคนก็เอาบัตรออกมาสแกน คือมันเศร้า แล้ววันนี้คนที่ขึ้นเขาไปจอดรถตามด่านเยอะมาก เพราะเงินเขาหาย เพิ่มเติมเงินก็ผ่านไม่ได้เขาบอกว่า ต้องเขียนคำร้องนะคะ บังใหม่เรานะ โปรดิวเซอร์รายการโมโหใหญ่ โดนเข้าไปเต็มๆ

กรองทอง - โดนกับตัว

จินดารัตน์ - และระบบเติมเงินเขาแอนเคยโดนนะ คือตังค์หมดเหลือตังค์ไม่พอ เติมเงินปุ๊บอีก 4 ชั่วโมงกว่าจะใช้ได้อย่างต่ำนะ แล้ววันนี้นะปัจจุบันเขาบอกว่า บางคนเป็นวันกว่าบัตรจะใช้ได้ มันเติมเงินออลไลน์ หรือมันเป็นเงินอะไรก็ไม่รู้

สนธิ - คืออันนี้กฎหมายไทยยังไม่ดีพอ ถ้าเป็นต่างชาติคนใช้อีซี่พาสสามารถฟ้องการทางพิเศษเจ๊งเลยนะ ไม่ใช่ความผิดของผู้บริโภค ความจริงสามารถฟ้องได้ คือที่เมืองนอกเขามีกิจกรรมใดก็ตามถ้าทำมาแล้วให้ประชาชนส่วนใหญ่จำนวนหนึ่งเสียหายทุกคนเข้าชื่อรวมตัวกันเป็นทีม เป็นโจทก์ฟ้องก็ฟ้อง แล้วเรียกค่าเสียหายก้อนเบ้อเร่อเลย เหมือนกับบริษัทยาหนึ่งผิดผลิตยาขึ้นมา แล้วรับประทานเข้าไปมีเด็กเป็นง่อยพิการเต็มไปหมดก็ให้เด็กเข้าชื่อกันฟ้องบริษัทผลิตยาเป็นพันล้านเหรียญสหรัฐเลย เข้าทำกันมาตลอด หรือบริษัทแก๊สทิ้งวัตถุที่เป็นพิษลงน้ำ คนกินน้ำแล้วเป็นมะเร็ง เขาก็เอาคนมาเข้าชื่อฟ้อง นี้ละเมืองไทยควรจะมี คนที่ใช้บัตรทางด่วน แล้วมีปัญหาทุกคนมาเข้าชื่อแล้วตั้งทนายฟ้องเลยเรียกค่าเสียหาย 10 เท่า 20 เท่าคืนมาหมด
เพราะด้วยเหตุนี้ ระบบข้าราชการเมืองไทย ระบบธุรกิจ กิจการของภาคเอกชนที่รังแกประชาชนไม่มีบทลงโทษพอไปร้องเรียนขึ้นมาก็บอกให้กรอกแบบฟอร์ม แล้วเสียเวลาไปทั้งวันเพื่อให้มันคืนเงินเรา 250 บาทนี้ไง

จินดารัตน์ - แล้วมันลีลามากนะโน้นนี่นั่น คือทำให้เรื่องยากเขาไว้ จนตนเอือมระอา หลายคนเลิกใช้แล้วพอเลิกใช้ ผลกระทบมันก็เป็นวงกว้าง เขาทำช่องอีซี่พาส ไว้ 3 ช่อง หรือ 2 ช่อง ที่เหลือช่องที่จ่ายตังค์ก็เหลือน้อยรถก็ไปออไปติดกัน คนที่ใช้อีซี่พาสก็เข้าไม่ได้ยักแย่ยักยันกัน แอนว่าแย่มากตั้งแต่ขึ้นค่าทางด่วน มันสร้างความทุกข์ใจให้คนใช้ทางด่วนมาก มากจนอึดอัดใจ

สนธิ - ไอ้การทางพิเศษมันขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคม คุณก็ไปดูเอาแล้วกันว่า ใครเป็นเจ้ากระทรวง

กรองทอง - จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

สนธิ - แล้วไง

กรองทอง - จบ

สนธิ - จบข่าวไหม

กรองทอง - จบข่าว

สนธิ - แล้วไปช่วยใครล่ะ ประชา ประสพดี

กรองทอง - จบๆ

จินดารัตน์ - จบข่าว อันนี้จบเลยค่ะ อวสานเลยค่ะ

กรองทอง - แต่อย่างที่คุณสนธิบอก อย่างเมืองนอกเขาจะมีกรณี Class Action ใช่ไหมคะ ทีนี้พอมันมาเกิดกับบ้านเรา เราก็จะมักได้ยินคำว่า ประชาชนฟ้องร้องมันเสียเวลานานนะ เหมือนกรณี ปตท.ที่เฮียเพ้งโทรมาบอกว่า มันเสียเวลา มันกินเวลานาน เดี๋ยวเรารอเงินเยียวยาเลยดีกว่ามันเสียเวลา คือจะเอาคำนี้มาบอกประชาชนตลอด มันก็เลยทำให้ไม่เกิด Class Action อย่างที่คุณสนธิยกตัวอย่างที่เมืองนอก

จินดารัตน์ - และก็ต้องย้อนกลับไปว่า ใครเป็นรัฐมนตรีจบข่าว ก็ได้แต่บ่นๆ ด่าๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซ็งนะคะ บางทีเซ็งมาก ตอนนี้ใหม่บอกว่า ผมโมโหมาก ผมอยากจะเอาบัตรเขวี้ยงหัว คือโมโหจัด แอนก็เลยไปรับพี่อมรบอก โอ้โหไปนี่คนมีปัญหาเยอะมาก ก็ต้องอดทนกล้ำกลืนฝืนทน ในยุคที่มารครองเมืองก็ต้องทำยังไงคุณสนธิ อยากให้ความอดทนคนไทยมันน้อยกว่านี้นิดนึง มันจะได้เปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างเนอะ อดทนอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้

กรองทอง - ใช่ บางทีเวลาที่เราฟังคนแบบว่าหาว่าใครเป็นอีโง่กันแน่ ไปๆ มาๆ เรากลับรู้สึกว่า หรือฉันที่โง่เองนึกออกไหม ก็เหมือนกับว่า ทำไมฉันต้องมาจ่ายค่าน้ำมัน 2 ลิตร 100 ทำไมฉันจะต้องมาถูกริบเงินในอีซีพาส ทั้งๆ ที่รู้ก็รู้แต่ก็ต้องยอม ปรากฏว่า เหมือนให้รัฐบาลกำลังผลักให้เรากลายเป็นอีโง่นั้นแหละ น่าเศร้าค่ะ

จินดารัตน์ - คุณสนธิ พยักหน้านี่รู้เลย มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ

สนธิ - ยังไม่เรียนรู้อีกหรอ อีโง่

จินดารัตน์ - มาอีกเรื่องนึงละกันนะคะ

กรองทอง - ทำไมคะ ดิฉันไปนครรัฐอิตาลีมามันผิดตรงไหนคะ

สนธิ - เราแต่งชุดดำด้วยนะ เหมือนกันเลย

กรองทอง - อยากบอกว่าตั้งใจ ดีไม่ใส่หมวกวันนี้ลงในไทยรัฐเลย ถ่ายจริงลงในไทยรัฐหน้า 1 เลย ใส่อย่างนี้นึกว่าจะไปงานโปโล

จินดารัตน์ - ไปงานโปโลไปเป็นม้าใช่ไหมคะ อีกเรื่องนึงที่เราก็ต้อง แหมมันเป็นข่าวใหญ่ที่มันเบี่ยงประเด็นไปอีกนิดนึง พยายามไปพูดถึงเรื่องแม่ย่านางบนเครื่องบิน หญิงใส่ชุดไทย เพื่อที่จะกลบเกลื่อนไอ้เรื่องที่มันผ่านมาไม่กี่วัน คือคนเขามองอย่างนั้นกันนะคะ แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง พนักงานการบินไทยบอกว่า อันนี้เรื่องจริงนะ คือคนทำงานบนเครื่องเขาก็เชื่อว่า แต่ละเครื่องจะมีแม่ย่านาง เขาจะทำพิธีไหว้เครื่องบินที่มาตั้งชื่ออะไรกันเรียบร้อย จะมีทำพิธีไหว้แม่ย่านาง อันนี้ก็แล้วแต่นะคะว่า

กรองทอง - เป็นความเชื่อ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

จินดารัตน์ - แต่ว่าความผิดพลาดที่มันเกิดขึ้น ก็คงให้คุณสนธิ เพราะคุณสนธิสนิทกับการบินไทย ด่าไอ้เลือกซื้อเครื่องห่วยๆ ซื้อแพงกว่าชาวบ้าน

กรองทอง - แอร์บัส

สนธิ - เรื่องไฟลท์ TG-679 จากกวางโจวมาลงกรุงเทพฯ ผมคิดว่า น่าเห็นใจทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ จริงๆ ผมไม่ตำหนิลูกเรือ ผมเห็นใจเขา และผมคิดว่ากัปตันทำงานได้ดีมาก เพราะว่าไอ้ที่กางล้อถ้ามันไม่กาง ไม่มีใครรู้หรอกว่า มันจะทำงาน หรือไม่ทำงาน

จินดารัตน์ - มันเป็นเหตุสุดวิสัย

สนธิ - มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เครื่องบินให้จำไว้นะ เครื่องบินจะตกมีอยู่ 2 จังหวะ จังหวะขึ้นกับจังหวะลง แค่นั้นเอง ยกเว้นที่มันกรณีพิเศษอย่างกรณีของ สายการบินเลาด้าแอร์ไลน์ ของ นิกิ เลาด้า สมัยก่อน ที่บินอยู่บนอากาศจู่ๆ ระเบิดเลย ที่เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ความผิดปกติของเครื่องยนต์ จู่ๆ วิ่งบินอยู่ เครื่องมันสลับเข้าเกียร์ถอยหลัง มันเลยเกิดพังและระเบิดทันที แต่โดย 99% แล้ว แม้กระทั่งตกหลุมอากาศ ตกหลุมอากาศถ้าทุกคนรัดเข็มขัดเอาไว้จะไม่เป็นไร อย่างมากถาดปลิวว่อน แต่สำหรับสายการบินที่เขาระวังในเรื่องของเซฟตี้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค พอกัปตันบอกว่า เริ่มมี

จินดารัตน์ - สภาพอากาศไม่ดี

สนธิ - สภาพอากาศไม่ดี เขาจะประกาศหยุดบริการทันที ถ้าคุณสั่งน้ำ ให้เขาหยิบน้ำให้ เขาบอกเดี๋ยวรอให้กัปตันกดปุ่มเซฟตี้ออกให้เสียก่อน แล้วค่อยเสิร์ฟให้ แล้วทุกคนจะนั่งหมดเลย จนกระทั่งกัปตันมาประกาศ

จินดารัตน์ - ผู้โดยสารต้องรัดเข็มขัด

สนธิ - ต้องรัดเข็มขัดหมด ประสบการณ์ในการนั่งเครื่องบินของผม ผมไม่เคยนั่งเครื่องบินโดยไม่รัดเข็มขัด ผมรัดตลอดเวลา แม้กระทั่งผมลุกขึ้นมาแล้วผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมยังต้องเกาะเบาะ เก้าอี้ไว้ กันเผื่อไว้ทุกที ด้วยเหตุนี้เวลาเครื่องบินตกหลุมอากาศ เวลามันตก สมมุติถ้ามันตก 100 เมตร มันจะเด้งขึ้นทันที เพราะว่ามันพ้นหลุมอากาศแล้ว พอเจออากาศปั๊บ เนื่องจากเครื่องมันตั้งเครื่องที่จะอยู่ในระดับความสูงเท่านี้ มันก็จะกระโดดตูมทันที เพราะฉะนั้นแล้วจะโดนสองต่อ วูบลงไป แล้วก็วื้บขึ้นมาทันทีเลย

จินดารัตน์ - อย่างล่าสุดที่เกิดขึ้นกับแอร์บัส A330

สนธิ - ที่ไปฮ่องกง เหมือนกัน ยังไงอย่างนั้น ทีนี้หลุมอากาศลักษณะนั้น ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า clear air turbulence .. clear air คือไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยแม้แต่นิดเดียว
ทีนี้มาถึง 679 TG ที่เครื่องลง เมื่อล้อไม่กาง นักบินเขาต้องพยายาม ก็มันลงแล้วไง คือเวลาลงปั๊บ สูตรนักบินเขาจะมีเลย พอลงกดระดับถึงขณะนี้แล้วเปิดแฟลปปีกให้มันลงมา จากที่มันอยู่อย่างนี้ ให้มันลงมาอย่างนี้ แล้วต้องขยับให้ล้อ ตายล่ะล้อไม่กาง ขยับเท่าไรล้อก็ไม่กาง แล้วเครื่องบินมันลงแล้วน่ะ จะทำยังไงดีล่ะ จะเชิดหัวก็ไม่ได้แล้วสิ ก็เลยต้องประคองเครื่องบินไปให้ถึงที่สุด ทีนี้พอประคองเครื่องบินไปแล้วมันเกิดสไลด์ออกไปข้างทาง พอสไลด์ออกข้างทางแล้วมันมีไฟลุกขึ้นมาตรงด้านขวา ผู้โดยสารก็ตกใจคือ emergency plan คนที่เป็นลูกเรือทุกๆ 6 เดือนเขาต้องมีเข้าไปฝึก emergency ใหม่ ไม่ว่าจะฝึกมาแล้ว บินมาแล้วสิบปี ถึงเวลาก็ต้องไปเรียน เพื่อไม่ให้ลืมเรื่องนี้
เพราะฉะนั้นแล้วเขาจะรู้วิธีการว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วต้องทำยังไงบ้าง เครื่องสไลด์ต้องเทพรวดลงไปทันทีเลย แล้วคนเขาก็ต้องลำเลียงผู้โดยสารออกไป ทีนี้ก็มีผู้โดยสารบางคนเขียนในเฟซบุ๊ก ผมอ่านแล้วผมก็ขำ อธิบายแบบประเภทเป็นสีเป็นสันด้วยความโกรธ แล้วก็บอกว่ามีแอร์อยู่คนเดียวเท่านั้นเองที่แต่งชุดไทย คอยอยู่ข้างหลังสุด เป็นคนสุดท้ายที่คอยช่วย แอนต้องเข้าใจนะ เครื่องบินน่ะ ถ้าบินไปฮ่องกง หรือไปกวางโจว ระยะบินมัน 2 ชั่วโมงกว่านิดๆ พอบินกลับมา ก่อนเครื่องจะลงกรุงเทพฯ ประมาณสักครึ่งชั่วโมงก่อนลง แอร์ทุกคนจะเปลี่ยนชุดไทยหมด ไม่มีหรอกชุดไทย นอกจากที่เห็นน่ะคือผี แต่ผมคิดว่าแกดราม่า แล้วทีนี้คนไทยดูหนังมากไป

จินดารัตน์ - ยังไงคะคุณสนธิ

สนธิ - ดูหนังเรื่อง Died Heart มากไป คือมามองว่า พอเครื่องบินมันลงปุ๊บ พอสไลด์ลงมา จะต้องเห็นรถหวอเต็มไปหมดเลย ไฟส่องสว่าง ตำรวจวิ่ง คนวิ่งเข้ามา ร่อนลงจากสไลด์ปรากฏว่ามืดไปหมดเลย ไม่เจออะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ความที่กลัว และเคยดูหนังมามาก ก็บอกว่า เฮ้ยเมื่อกี้เห็นไฟมันแว้บๆ ทางโน้น เดี๋ยวเครื่องบินมันระเบิด วิ่งๆ พี่วิ่งๆ คนแก่ก็วิ่งกัน ถึงกับเป็นลม บางคน ทีนี้ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นก็คือว่า ลูกเรือที่อยู่บนเครื่องเขาทำงานดีมาก ต้องยกให้เขานะ เขาทำงานดีมาก ที่มีปัญหาคือ ground hadling คือพอ transfer จากเครื่องต่อไปยัง terminal แล้ว ตรงนั้นต่างหากที่มีปัญหา
ฉะนั้นเวลาเราพูด เราต้องเข้าใจ ต้องแยกให้ชัดนะ คนที่อยู่บนเครื่องเขาดูแลผู้โดยสารดีแล้ว กัปตันเอาเครื่องลงได้อย่างปลอดภัยที่สุด ลูกเรือบริการผู้โดยสารเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารเป็นโน่นเป็นนี่ ทีนี้ ground handling มันมีปัญหาตรงไหน สมัยปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ground handling พวกกราวนด์ ที่คอยดูแลผู้โดยสาร สมัยก่อนนี้เป็นพนักงานการบินไทย ช่วงหลังเขาไม่รับพนักงานการบินไทย เขาใช้ outsource

จินดารัตน์ - คือจ้างบริษัทนอกเข้ามาทำ

สนธิ - เวลาเราไปสนามบินเห็นมั้ย แอนจะเห็นผู้หญิงที่ใส่เสื้อนอกสีน้ำเงินเข้มๆ กรมท่าเข้มๆ คอปกขาว นั่นล่ะ outsource ถ้าเป็นการบินไทยจะไม่ใส่อย่างนี้ การบินไทยจะใส่ชุดสีม่วง

จินดารัตน์ - สูทสีม่วง

สนธิ - ฉะนั้นพวก outsource ก็จะทำหน้าที่แทน เพราะหนึ่ง มันถูกกว่า สอง เขาเหมาเป็นหัวเลย ทั้งหมดส่งมา 200 คน คิดเดือนเท่าไร สมมุติพวกนี้รับมา 100 บาท ก็มาจ่ายเด็ก 50 บาท อีก 50 บาทเข้ากระเป๋า

จินดารัตน์ - ไม่ต้องแบกรับเรื่องสวัสดิการ

สนธิ - ไม่ต้องแบกรับสวัสดิการ ทีนี้คนพวกนี้จะถูกฝึกในเรื่องของการเป็นกราวนด์ แต่ว่าความเชี่ยวชาญในเรื่องการ handle emergency แบบนี้เขาไม่มี เขาไม่รู้ ถ้าเป็นปัญหา จะเป็นตรงนี้

จินดารัตน์ - ก็อย่างที่การบินไทยเขาออกมาแถลงว่า ผู้โดยสารที่บาดเจ็บ ส่วนใหญ่ก็บาดเจ็บเล็กน้อย 12 คน บาดเจ็บตอนที่ลงจากเครื่องได้หมดแล้ว อาจจะมีเหยียบกันบ้าง ไปโดน ไปหกล้ม ไปสไลด์ลง

สนธิ - สไลด์ลงแล้วก็วิ่ง เดี๋ยวเครื่องบินจะระเบิด แต่ที่หงุดหงิดก็คือว่าดูหนังมากไป

จินดารัตน์ - พอลงมาปุ๊บฉันจะต้องเจอรถหวอ รถพยาบาล

สนธิ - รถหวอ รถพยาบาล รถตำรวจ เต็มไปหมดเลย

จินดารัตน์ - ที่ไหนได้

สนธิ - แล้วต้องมีรถดับเพลิงด้วยนะ ต้องมา เสร็จเรียบร้อยเลย ลงมามืดตึ๊ดตื๋อ

คลิก! อ่านต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น