รองโฆษกรัฐบาลเผยรองนายกฯ ชง ครม. อนุมัติ 264 ล้านช่วยผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เผยอาจเป็นการช่วยเหลือครั้งสุดท้าย ยัน 25 ก.ย.รัฐบาลแถลงผลงานแน่ ยันไม่ได้ให้ท้ายม็อบป่วนมาร์ค อ้างเจ้าตัวดูถูกผู้หญิง ปัด “ถาวร” กล่าวหารัฐแก้ใต้ไร้ยุทธศาตร์ วอน ปชป.อย่าเรียกบีอาร์เอ็นผู้ก่อการร้ายหรือกลุ่มโจร
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติแบ่งความช่วยเหลือเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ วงเงิน 264 ล้านบาท เป็นกลุ่มตกค้างยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดที่แล้วจำนวน 1,175 คน หรือ คนละ 225,000 บาท ส่วนกลุ่มที่ 2 มีมติอนุมัติรายชื่อผรท.จำนวน 4,430 คนวงเงิน 996,750,000 บาท แต่ให้รอฟังรายชื่อเพิ่มเติมจากผู้ผ่านการอุทธรณ์รอบสอง และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรองระดับภาคจำนวน 1,600 คนยื่นอุทธรณ์ต่อ กอ.รมน.จังหวัด ได้อีกครั้งตั้งแต่ 13-30 ก.ย. 56 จากนั้นวันที่ 19 ธ.ค.คณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนผรท.จะประชุมเพื่ออนุมัติรายชื่อเสนอ ครม.โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยของผรท.โดย ตั้งแต่ปี 2524-2554 มีการช่วยเหลือมาแล้ว 3 ครั้ง วงเงิน 2,000 ล้านกว่าบาท การช่วยเหลือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งอาจเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนการแถลงผลงานรัฐบาลต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 ก.ย.นั้น รัฐบาลมีความพร้อมเต็มที่ในการชี้แจง และถือเป็นโอกาสที่ดี ในการอธิบายกับพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้วบ้างเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน นอกจากนี้ขอยืนยันรัฐบาลและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ได้ให้ท้ายหรืออยู่เบื้องหลังกลุ่มมวลชนที่ออกไปกดดัน นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ หรือกลุ่มบุคคลและองค์กรต่างๆ รวมทั้งกรณีกลุ่มสตรี หรือม็อบผ้าถุง ที่ออกมาประท้วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีเหตุผลต้องทำแบบนั้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรโทษรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นผลมาจากการกระทำของนายอภิสิทธิ์เองเพราะใช้ถ้อยคำดูถูกผู้หญิงจึงมีการเคลื่อนไหวของประชาชนที่อาจเห็นว่านายอภิสิทธิ์แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อสตรีในภาพรวม
ส่วนกรณีนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีทิศทางชัดเจนว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ.ที่เข้าร่วมประชุมศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ยังระบุว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลชุดแรกที่มีการบูรณาการแผนการทำงานระหว่างกระทรวงต่างๆ อย่างแท้จริง และอยากขอความร่วมมือพรรคประชาธิปัตย์ อย่าเรียก กลุ่มบีอาร์เอ็นว่าผู้ก่อการร้าย หรือกลุ่มโจร เพราะจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการพูดคุยเพื่อสันติภาพ อย่างไรก็ตามยืนยันรัฐบาลไม่ยังไม่ได้รับข้อเสนอของบีอาร์เอ็น