“ประชา” เผย “ประยุทธ์” เป็นเจ้าภาพประชุม ศปก.กปต.พรุ่งนี้ เพื่อสรุป 5 ข้อเสนอบีอาร์เอ็น รับดวงตราวีซ่าเข้าไทยหายไปจากสถานทูตในมาเลเซีย 300 ดวง นำไปใช้แล้ว 259 ใบ เข้าไทยแล้วถูกจับได้ 9 ใบ เร่งตรวจสอบโยงผู้ก่อการร้ายหรือไม่
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตี กล่าวว่า การประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) เวลา 09.30 น.ที่กองทัพบก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ขอรับเป็นเจ้าภาพและเข้าประชุมด้วย ทั้งนี้จะได้ข้อสรุป 5 ข้อเสนอของบีอาร์เอ็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการหารือกัน
ส่วนท่าทีของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอทั้ง 5 ข้อนั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอพูดคุยกันก่อน เพราะนี่เป็นนโยบายรัฐบาล เป็นแนวทางดำเนินการโดยสันติวิธี
ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายของรัฐบาลจะมุ่งไปทางไหนกับ 5 ข้อเสนอของบีอาร์เอ็น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ความจริงมีความชัดเจนอยู่แล้ว พรุ่งนี้ก็จะมีการพูดคุยในที่ประชุม ศปก.กปต.อีกครั้ง
พล.ต.อ.ประชายังกล่าวถึงกรณีดวงตราวีซ่าเข้าประเทศไทยหายไป 300 ดวงว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้รับรายงานและประสานกระทรวงการต่างประเทศ พบว่า วีซ่าตราประทับของกระทรวงการต่างประเทศที่ออกโดยสถานทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หายไปจำนวน 300 ใบ ซึ่งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทุกจุดได้ตรวจเข้มพบแล้วว่ามีคนนำมาใช้ 9 ใบ โดยทาง ตม.มุกดาหาร พบว่าเป็นชาวแคเมอรูน และกินี 2 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศลาว ผ่านช่องทางมุกดาหาร
ทั้งนี้ จากการตรวจรายละเอียดพบว่า ทั้ง 2 รายไม่ได้เดินทางไปมาเลเซีย แต่มีตราประทับว่ามาจากมาเลเซียได้อย่างไร ทาง ตม.มุกดาหารจึงผลักดันออกนอกประเทศ และนอกจากนี้ยังพบว่ามี 7 รายใช้ตราประทับนี้เข้าทางสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย ปากีสถาน อิหร่าน อินเดีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ขณะนี้ถูกดำเนินคดีที่ ตม.1 สวนพลู สำหรับตราวีซ่าที่เหลือได้ถูกยกเลิกหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจพบมีการเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ยังไม่ทราบ คงต้องตรวจสอบกันต่อไป เมื่อถามว่าการข่าวรายงานว่ามีการนำมาใช้แล้ว 259 ใบ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอยืนยันว่าพบแค่ 9 ใบเท่านั้น ส่วนการสืบสวนหาสาเหตุการหายเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่ขอก้าวล่วงไปจุดนั้น ต่อข้อถามว่าคิดว่ามีความผิดปกติหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ตั้งข้อสังเกตเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นที่สถานทูตที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศคงตรวจสอบประเด็นนี้