xs
xsm
sm
md
lg

ตื่นถกเอ้กบอร์ดวันนี้แก้ไข่แพง ยืนยันแพงจริงไม่ใช่ความรู้สึก !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

"ของแพง"ยังเป็นเรื่องที่ชาวบ้านทั่วไปสัมผัสได้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ว่าเวลานี้ราคาข้าวของทุกอย่างต่างปรับราคาขึ้นไปแบบพรวดพราด ขึ้นไปแบบไม่หยุด จากข้อมูลของ "เอเอสทีวี"ลงสนามสำรวจความจริงจากปากของบรรดา "แม่ค้า"และชาวบ้านที่ต้องจ่ายกับข้าว รวมไปถึงคนเดินดินที่ต้องใช้จ่ายประจำวันได้รับเสียงยืนยันตรงกันว่า "แพงจริง" และยังแพงไปเรื่อยๆ โดยแม่ค้าบางคนบอกว่า แพงแบบที่ไม่เจอมาก่อนปีนี้มีการปรับราคาขึ้นไปไม่ต่ำว่าสามครั้งแล้ว

ขณะเดียวกันคนขับมอเตอร์ไซต์รับจ้างได้บ่นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างหัวเสียว่า "ถ้าเป็นแบบนี้ก็อย่าขึ้นค่าแรงวันละ 300 บาท ซะดีกว่า สู้แบบเดิมแต่ราคาสินค้า ไม่ขึ้นราคายังมีเงินเหลือพออยู่ได้บ้าง" ซึ่งเป็นคำพูดที่สวนทางกับคนในรัฐบาล โดยเฉพาะปลัดกระทรวงพาณิชย์ วัชรี วิมุกตายน ที่ได้ดีมากับพรรคเพื่อไทยพร้อมลูกพี่คือ ยรรยง พวงราช ที่คงได้รับรางวัล "เลียดีเด่น"เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่อ้างว่า "เป็นแค่ความรู้สึก"อย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ดีความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำบิดเบือนกันไม่ได้ เพราะเวลานี้ราคาสินค้าทั้งที่เป็นเนื้อสัตว์ ประเภท หมู ไก่ เนื้อปรับขึ้นราคาไปหมดแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่มีการปรับราคาพลังงาน เช่นแก๊สหุงต้ม และปรับค่าไฟฟ้า เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา แต่ปรับขึ้นไปตั้งแต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี ทักษิณ ชินวัตร ชักใยสั่งการอยู่ทุกเรื่อง และเริ่มดำเนินการตามนโยบายประชานิยม ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงวันละ 300 บาท หรือแม้แต่การบิดเบือนกลไกตลาด แบบไร้วินัยการคลังอย่างการจำนำข้าว หรือก่อนหน้านี้หลังจากที่มีการ "ยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน"ไปพักหนึ่งทำให้ราคาน้ำมันลดลงไปทันที่ลิตรละ 6-7 บาท แต่หลังจากนั้นก็กลับมาใช้วิธีเก็บเงินเข้ากองทุนฯเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือราคาน้ำมันกลับมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะดีเซลทะลุ 30 บาท ซึ่งตอนนี้แหละที่ทำให้ราคาสินค้าพุ่งกระฉูด และดวยธรรมชาติเมื่อ "ราคาสินค้าขึ้นไปแลวไม่มีทางลดราคาลงมา" เพราะแทบทุกรายการขึ้นไปค้างเติ่ง หรือปรับเพิ่มขึ้นไปอีก

สภาพของตนไทยระดับล่างที่เป็นประเภท "ชนชั้นกลางลงมา"ถือว่าได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างหนัก ประกอบกับความผิดพลาดของนโยบายประชานิยมแบบมักง่ายของรัฐบาล ทำให้คนพวกนี้ "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" ประกอบกับซ้ำเติมถลำลึกจากนโยบายรถคันแรกที่ปล่อยออกมา ทำให้ชาวบ้านมีหนี้สินครัวเรือนมากขึ้น ขณะเดียวกันด้วยภาระที่ต้องผ่อนรถยนต์ ค่าน้ำมันเป็นใช้จ่ายประจำทำให้ไม่มีเงินเหลือไหจับจ่ายซื้อของอย่างอื่น กลายเป็นว่าทำให้เศรษฐกิจไม่ได้ขยายตัวอย่างที่รัฐบาลคาดหมายเอาไว้ กลายเป็นตรงข้ามนั่นคือ "หดตัว"และกำลังมีแนวโน้มถดถอย เพราะเมื่อพิจารณาจากตัวเลขการส่งออกทั้งสองไตรมาสรวมครึ่งปีติดลบอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าในช่วงปลายปีจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 อาจผิดคาดซ้ำซาก เพราะยังไม่มีแนวโน้มที่ดีเกิดขึ้นเลย

ในขณะที่ชาวบ้านประสบกับราคาสินค้าแพง ในชนบทชาวไร่ ชาวสวนที่เป็นเกษตรกรกลับขายผลผลิตไม่ได้ราคา ไม่เว้นแม้แต่ข้าวที่รัฐบาลใช้วิธีรับซื้อสูงกว่าราคาตลาดเกือบสองเท่า ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ข้าวโพด หรือแม้แต่ปาล์มน้ำมันพืชพลังงานสำคัญที่ไม่น่าเชื่อว่าในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลับมีราคาตกต่ำมาตลอด นบตั้งแต่ไฟเขียวให้นำเข้าปาล์มน้ำมันมาทุบตลาดภายในจนป่นปี้

ดังนั้นถ้าให้สรุปก็ต้องย้ำว่า "แพงทั้งแผ่นดิน" และ "แพงทุกรายการยกเว้นสินค้าเกษตรทุกตัว" ที่ราคาตรงกันข้าม ไม่ใช่เกิดจาก "ความรู้สึก"แน่นอน และสิ่งที่ยืนยันถึงความแพงดังกล่าวก็คือวันนี้(10 กันยายน) คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่และผลิตภัณฑ์หรือ"เอ้กบอร์ด"ของกระทรวงพาณิชย์ จะประชุมกันเพื่อแก้ปัญหา "ไข่ไก่แพง" ซึ่งจากข้อมูลที่อ้างว่าสาเหตุที่ไข่ไก่มีราคาแพงในช่วงนี้เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าพิจารณาอีกด้านหนึงมันก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าเป็นเพราะสินค้าอย่างอื่น เช่น หมู เนื้อ ไก่แพงคนก็เลยหันมาบริโภคไข่ไก่ที่เป็นโปรตีนที่มีราคาถูกที่สุดแทนก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ย้ำว่าแพงแบบ"บูรณาการ" และข่าวร้ายอีกชิ้นหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือราคาน้ำมันที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดบริษัทเชลล์ ได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลขึ้นไปทะลุเพดานที่ราคาลิตรละ 30.49 บาท ทะลุเพดานแล้วก็ต้องจับตามองว่าเจ้าอื่นจะปรับตามหรือไม่ โดยเฉพาะ ปตท.กับบางจากจะเอาอย่างไร ถ้าเกินลิตรละ 30 บาทก็ถึงคราวหายนะได้เลย !!
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น