สะเก็ดไฟ
ปัญหาราคายางพาราตกต่ำยังเป็นชนวนที่ทำให้รัฐบาล “ก้นร้อน”นั่งไม่ติดอยู่จนถึงวันนี้
แม้ทำท่าว่าจะคลี่คลายไปได้เปลาะหนึ่งแต่ก็ยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียทีเดียวยังมีการยื่นเงื่อนไขของบางกลุ่มพร้อมขู่กันแรงๆถ้าไม่ทำตามจะปิดภาคใต้ให้ประเทศเป็นอัมพาต!!
หากจะเหลียวหลังไปดูการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการภาครัฐที่ผ่านมา พบเหตุการณ์ที่น่าสังเกต และเก็บไปคิดเป็นบทเรียน
ตอนที่มีม็อบมาชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลใหม่ๆที่จ.นครศรีธรรมราช วิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเลือกปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ใช้ความรุนแรง ใช้กำลังที่เหนือกว่าเข้าควบคุม
ปิดล้อมทุบตีม็อบแบบเฉียบพลัน
เห็นม็อบมา300-400 คน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ระดมมาจากภูธรภาค 8-9มีถึง 2,000 นาย จึงร่วมกับพล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ตัดสินใจจู่โจมทันที ไม่รู้ว่าความคิดตอนนั้นคืออะไรแน่
แต่ที่ทราบมาคือมีทัศนคติติดลบกับคนแถวนั้นอยู่แล้วอาจเป็นปฏิบัติการเอาใจรัฐบาล เชลียร์นักการเมือง
แต่มันกลายเป็นการสร้างปัญหาให้รัฐบาลนำไปสู่อาการบานปลายของเหตุการณ์ไปเสียฉิบและจนถึงวันนี้เหตุการณ์ในจ.นครศรีธรรมราช ก็ใช่ว่าจะสงบเรียบร้อยมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เกิดความรุนแรงอยู่เนืองๆ ผสมโรงกันจนมะรุมมะตุ้มไปหมด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีผู้ว่าฯคนนี้นั่งอยู่หรือไม่?
ท่ามกลางปัญหาเดียวกันแต่กลับพบการกระทำที่แตกต่างกันจังหวัดชุมพรเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเช่นเดียวกันแต่ พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า พ่อเมืองชุมพร คิดนอกกรอบมองปัญหาอย่างเข้าใจ
มองว่าชาวบ้านที่มาชุมนุมนั้นมีความเดือดร้อนจริงๆเลือกที่จะใช้ไม้นวมมากกว่าไม้แข็ง แก้ปัญหาอย่างละมุนละม่อมเปิดศาลากลางเชิญชวนให้คนมาชุมนุมเต็มที่
ซ้ำยังจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมเพรียงจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูก เปิดร้านตัดผมฟรี เหมือนตลาดนัดคนยากยังไงยังงั้นไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เหมือนกัน คนนินทากันว่า พีระศักดิ์เป็นคนหนึ่งที่เจ็บปวดกับรัฐบาลชุดนี้ โดนเด้งไปโน่นไปนี่มาหลายรอบแล้วสมัยน้ำท่วมใหญ่ก็โดนหางเลขเด้งออกจากผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
แต่ด้วยความเป็นนักปกครองมืออาชีพไม่มีปริปากบ่น ก้มหน้าก้มตาทำงานเรื่อยมาวันนี้พิสูจน์ชัดถึงการใช้คุณธรรมนำการบริหาร สมควรได้รับการปรบมือยกย่องปัญหาการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ชุมพรได้รับการผ่อนคลายแบบไม่น่าเชื่อ
ชุมพรซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญเป็นประตูสู่ภาคใต้ และเป็นพื้นที่ปลูกยางเยอะพอสมควร กลับไร้ปัญหาความวุ่นวายปัญหาที่หนักก็กลายเป็นเบา จากเบากลายเป็นไม่มีไม่อยากจะนึกภาพหากเกิดความวุ่นวายเหมือนนครศรีธรรมราชอาจเห็นประเทศเป็นอัมพาตไปนานแล้ว
ต้องเรียกว่าพีระศักดิ์ เป็นพระเอกตัวจริง!!
กล่าวกันว่าคนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดก็เปรียบเสมือนส้นตีน ส่วนประชาชนเหมือนต้นหญ้าถ้าส้นตีนกระทืบต้นหญ้าเมื่อไหร่ก็แหลกลาญเมื่อนั้นหากคนเป็นผู้ว่าฯมองประชาชนเหมือนไพร่ที่จะเหยียบย่ำซ้ำเติมเมื่อไรก็ได้ เพียงเพื่อเอาใจนักการเมืองเอาใจรัฐบาล บ้านเมืองก็พร้อมจะลุกเป็นไฟ!!
ต้องขอยกคำคมคำขวัญจากมล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เหลนกรมพระยาดำรงฯมาสกิดใจไว้หน่อยว่า
“ข้าราชการ ต้องไม่ประจบประแจง สอพลอ ในสิ่งที่ไม่ใช่ความเจริญของบ้านเมืองอายุราชการเป็นเรื่องที่มาแล้วก็ไป ไม่ยืนยง ความดีเท่านั้นที่คนรุ่นต่อไปจะกล่าวขานถึง”
แต่ใครอยากให้ประชาชนก่นด่าสาปแช่ง ก็เชิญทำชั่วต่อไปเถอะ...คุณส้นตีนทั้งหลาย