ชุมพร - ชาวสวนยางกว่า 100 ราย บุกศาลากลางยื่นหนังสือให้แก่ผู้ว่าฯ ชุมพร ส่งไปยังรัฐบาล เพื่อทวงถามการช่วยเหลือหลังเคยเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมาแล้วแต่เรื่องราคายางพาราตกต่ำยังไม่ได้รับการแก้ไข
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 ก.ค.) นายสมคิด ไชยวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยาง จ.ชุมพร และกลุ่มตัวแทนชาวสวนยางจากตำบลต่างๆ ในจังหวัดกว่า 100 คน รวมตัวกันเดินทางเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้จังหวัดแก้ไขปัญหาเรื่องราคายางพาราตกต่ำ หลังจากเคยเรียกร้องผ่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ มาแล้วแต่เงียบเฉย โดยมี นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เชิญตัวแทนชาวสวนยางทั้งหมด เข้าไปพูดคุยที่ห้องประชุมเพื่อรับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อน รวมไปถึงข้อเรียกร้องของชาวสวนยางพาราในครั้งนี้ พร้อมกับรับหนังสือข้อเรียกร้องจากแกนนำชาวสวนยางพารา และนำข้อเรียกร้องดังกล่าวเสนอแก่รัฐบาลต่อไป
นายสมคิด ไชยวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยาง จ.ชุมพร กล่าวว่า จากสถานการณ์ยางพาราที่มีราคาตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง โดยราคายางแผ่นดิบในขณะนี้เหลือเพียงกิโลกรัมละ 69 บาท ส่งผลกระทบให้พี่น้องเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งที่ยางพาราเป็นสินค้าเกษตรส่งออกของประเทศไทย จากปัญหาดังกล่าวที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (คชยท.) ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
ซึ่ง คชยท.ได้มีมติให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ โดยกำหนดมาตรการเร่งด่วน 1.กำหนดราคายางพาราขั้นต่ำ ดังนี้ ยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ราคา 101 บาท/กก. ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ราคา 92 บาท/กก. น้ำยางสด ราคา 81 บาท/กก. ยางก้อนถ้วย 100% ราคา 83 บาท/กก. 2.ให้รัฐบาลบริหารจัดการยางพาราในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางในสต๊อก จำนวน 2 แสนตัน ที่มีอยู่โดยเร็วเพื่อให้ราคายางเกิดการขยับตัวสูงขึ้น
ด้าน นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของชาวสวนยางพารานั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล ทั้งนี้ ตนจะส่งหนังสือข้อเรียกร้องทั้งหมดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนต่อไป ส่วนทางจังหวัดจะทำเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดก่อน สวนแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเป็นผู้ตัดสินใจ
