ข่าวปนคน คนปนข่าว
เกมการเมืองในสภากำลังเดินไปอย่างเข้มข้นดุเดือด สุดยอดแห่งการดราม่าหาที่ไหนดูไม่ได้ แต่ตั้งอยู่บนความเบื่อหน่ายของประชาชนคนไทยตื่นเช้ามาดูหน้าหนังสือพิมพ์แล้วเอือมระอา โห่ฮาป่าเถื่อน ถ่อยดิบ ลามกอนาจาร มีครบทุกหลักสูตร
ไม่ต้องไปหาที่ไหนหาได้ที่รัฐสภาแห่งประเทศไทย ตรงข้ามสวนสัตว์ดุสิต!!
เห็นตัวเงินตัวทองเดินเพ่นพ่านในเขาดินแล้วก็พาลให้นึกถึงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสัตว์ประเสริฐในสภา โอ้อนิจจาช่างน่าสังเวชใจจัง การเมืองที่ยังวนเวียนอยู่กับความขัดแย้งถูกลากไปเล่นที่นั่นที่นี่ ข้างถนนบ้าง ในสภาบ้าง ยังไม่รู้จะไปสิ้นสุดตรงไหน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังถกเถียงกันอยู่ในสภาเวลานี้ กลายเป็นการเล่นเกมการเมืองแบบเอาชนะคะคานกัน ไม่สนเนื้อหาสาระ อรรถประโยชน์ใดๆฝ่ายหนึ่งผลักดันเดินหน้า ไม่สนเสียงทัดทาน จะขัดหรือแย้งกับหลักกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
ยิ่งว่ายิ่งเร่งรีบและจะรีบกว่านี้อย่างแน่นอน หลังโดนอีกฝ่ายหนึ่งเล่นเกมเตะถ่วง ยื้อยุดฉุดกระชากไม่ให้เสียงข้างมากลากไปง่ายๆ แต่พฤติกรรมการแสดงออกกลับถ่อยเถื่อน เล่นเกมการเมืองแบบเลิกอาย ทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง ขัดขืน และจะหนักข้อขึ้นทุกวัน ข้าชั่วเอ็งก็เลวไม่แพ้กัน !!
พรรคเพื่อไทยเร่งวันเร่งคืน เพื่อให้รัฐธรรมนูญผ่านไปแต่ละมาตรา ทั้งที่มา ส.ว. การแก้ไขขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ จนในที่สุดก็พลาดพลั้งเร่งร้อนจนเกินไป จนองค์ประชุมไม่ครบ อับอายขายขี้หน้า ไม่มีการเตี๊ยมกันให้ดี จุดนี้ก็เป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาธิปัตย์เล่นเอาล่อเอาเถิดต่อไปได้แบบไม่ต้องเดา
มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วบ้านนี้เมืองนี้ สำนึกที่ดีทำเพื่อประชาชนยิ่งนับวันยิ่งไม่หลงเหลือจับอาการเกมการเมืองยามนี้เห็นชัดว่าทำเพื่อ “ตัวกูของกู”เท่านั้นแล้วไอ้ที่ตอนไปหาเสียงเลือกตั้งจะทำให้ชาวบ้านอย่างนั้นอย่างนี้ วันนี้วาทกรรมเหล่านั้นมันหายไปไหนหมดสุดท้ายก็ดีแต่พูดเหมือนกันทั้งนั้น
วันนี้ปัญหาสำคัญที่สุดน่าจะอยู่ที่เรื่องปากท้องชาวบ้านเศรษฐกิจฟุบยาวโงหัวไม่ขึ้น แต่ก็ยังเล่นเกมการเมืองกันอยู่ได้ ค่าครองชีพถีบตัวสูงอย่างรุนแรง โดยไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจนประชาชนที่หาเช้ารับประทานค่ำ ต้องอดมื้อกินมื้อ คุณภาพชีวิตตกต่ำดำดิ่งดีไม่ดีอาจได้กินแค่วันละมื้อ กลายเป็นโรคขาดสารอาหารไปเสียฉิบ !!
วันนี้อาหารการกินจากเดิมข้าวราดแกงจานละ 30-35 บาท ถีบตัวสูงขึ้นจนเกือบถึงหลักครึ่งร้อย หรือ 50 บาท ตัวเลขดีมานด์ ซัพพลาย ที่ “ปูกรรเชียง”พูดปาวๆ คงต้องไปทบทวนกันใหม่อย่าเพิ่งคิดไปถึงการส่งออก หรือมองความเป็นไปของโลกเลย เอาตัวเองให้รอดบริหารจัดการความเป็นอยู่ของคนไทยก่อนให้ได้เสียก่อนดีกว่าหรือไม่
ตัวเองไม่ช่วยตัวเองแล้วใครจะช่วยกันล่ะ ปัญหาสินค้าเกษตรหลายตัวเป็นผลพวงให้รัฐต้องนำเงินมาอุดหนุน ขาดทุนบักโกรก กระทบลามเป็นลูกโซ่อย่างโครงการรับจำนำข้าวนั่นปะไร หาทางออกไม่ได้ ก็ต้องรับจำนำ เอาข้าวมาเน่าในโกดังรัฐเพื่อรักษาหน้า รักษานโยบายที่เคยทำไว้ได้ดีระดับหนึ่งโดยไม่คิดถึงกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป นโยบายที่เคยใช้ได้อาจเป็นของเน่าของเสียไปแล้ว แต่ก็ยังทู่ซี้ดันทุรังลากกระเตงไปอย่างหน้าไม่อาย
สุดท้ายก็กลายเป็นโมเดล หรือต้นแบบที่ล้มเหลว เมื่อเกิดปัญหาราคายางตกต่ำก็มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบหรือมีมาตรการคล้ายกับที่ทำการรับจำนำข้าว เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วว่ารัฐบาลจะเข้ามารองรับจัดการปัญหาแบกเอาไว้ในอุ้งมือผ่องถ่ายความเดือดร้อนของเกษตรกร
แต่เมื่อวันนี้รัฐบาลออกตัวว่าปัญหาของข้าว กับ ยาง มันแตกต่างกัน มันไม่เหมือนกันในเรื่องของการเก็บเกี่ยวในแต่ละฤดูกาล ข้าว จะมีปีละครั้ง 2 ครั้งแต่ยางมีขึ้นปีละหลายๆ ครั้ง จึงไม่อาจรับประกัน หรือ รับจำนำเอาไว้ได้ไม่สามารถแบกรับเอาไว้ได้ทั้งหมด
จึงถูกคนนินทาหมาดูถูกว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะยางปลูกมากในภาคใต้ เหมือนเป็นสินค้าติดตราโลโก้ของคนใต้ ต่างจากข้าวที่ปลูกในภาคที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย สร้างความเสียใจระคนเจ็บใจให้เกษตรกรชาวสวนยางเหมือนโดนทอดทิ้งปัญหา รัฐบาลพยายามแก้ไขแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด สลัดหนีให้พ้นสถานการณ์ยุ่งเหยิงไปวันๆ ทำให้วันนี้ปัญหาที่ดูเหมือนว่าจะจบคงยังไม่จบง่ายๆ เพราะรัฐบาลพยายามรวบรัดตัดตอนแต่คนบางส่วนยังไม่เอาด้วย บรรทัดฐานและมาตรฐานที่รัฐบาลเคยทำไว้กับโครงการรับจำนำข้าว ที่ไม่ว่าจะเจ๊งยับขาดทุนขนาดไหน ก็ยังลากถูอ้างว่าเป็นสิ่งดีงาม กลายเป็นพิษร้ายที่ทิ่มแทงตัวเองการไม่ยอมรับความจริง และเปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไขวันนี้มันย้อนศรมาทิ่มแทงจนรัฐบาลยังคลำหาทางออกไม่เจอ
ไม่แน่ใจว่าถ้ารัฐบาลยอมโอนอ่อน ถอยจนสุดซอย ยอมแพ้ม็อบสวนยางอนุมัติราคายางจนแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายพอใจในราคาไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้การชุมนุมรามือไปทั้งหมด ในที่สุดรัฐบาลจะต้องชดเชยเม็ดเงินไปอีกสักเท่าไหร่ สถานภาพคงคลังของประเทศจะเป็นอย่างไร
แล้วถ้านึกภาพต่อไปอีกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดมันอาจไม่จบแค่นี้ อาจมีม็อบอื่นๆ ที่ออกมาเรียกร้องถึงภาวะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอีกจะทำอย่างไรจากม็อบยาง อาจเป็นม็อบปาล์ม ม็อบผู้เลี้ยงกุ้ง ที่กำลังประสบปัญหาหนักเหมือนกัน หรือม็อบหมูเห็ดเป็ดไก่อื่นใดยังไม่รู้แน่
แต่ที่รู้คือรัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่รักษาความสมดุลของความพึงพอใจของประชาชน กับสถานะการเงินของประเทศให้ได้อย่าลงตัว มีเพียงมาตรการเฉพาะหน้าที่นำไปสู่ความเสื่อมทรุดในวิกฤติศรัทธาของประชาชนรวมทั้งความเชื่อมั่นจากคนในชาติและต่างชาติ
เหล่านี้คือสัญญาณนับถอยหลังของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างแท้จริงการบริหารบ้านเมืองไม่มีความกระเตื้องคืบหน้า มีแต่อาการทรงตัว และถอยหลังซ้ำยังไปพัวพันเล่นเกมการเมืองเพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่างที่คนนินทาหมาดูถูกว่ากระทำเพื่อใครบางคน
การทุ่มเทให้เกมการเมืองที่มีเป้าหมายผิดจริต ศีลธรรม มันจึงทำให้การบริหารบ้านเมืองที่ควรจะเดินไปในทิศทางที่ควรจะเป็นต้องบิดเบี้ยวเลี้ยวไป
ถ้าไม่รีบดึงกลับมาให้ได้ ก็ไม่ต้องคิดอย่างอื่น นอกจากนับวันถอยหลังสู่ความล่มสลาย และต้องเตือนกันไว้นิดหนึ่งว่ามันอาจเป็นการถอยหลังที่เดินหน้ากลับมาไม่ได้อีกแล้ว !!!