ปชป.ไล่ติง “ค้อนปลอม” สั่งอุ้มคนในพรรค พท.ขุดเหตุ ปชป.ลากเก้าอี้ ปาแฟ้ม “วัชระ” ยันเป็นปากเสียงชาวสวน ฉะเลขาฯ สภาเมินให้ข้อมูล ไม่หวั่นสอบจริยธรรมแต่ขอพ่วง ปธ.สภาฯ ลั่นครั้งหน้าไม่ยอม เจ้าตัวโต้ ส.ส.ไม่ให้เกียรติ “วิชาญ” ฉะไม่ยึดประเพณี “สุเทพ” สวนเป็น รบ.เจอนำกุ๊ยไล่จับ ส.ส.ส่งผลสภาวุ่นพักประชุม ต่อมา ปชป.ขอจ้อปมยาง “มาร์ค” แนะเชิญนายกฯ ถกสภาพรุ่งนี้ ปธ.สภาฯ รับปากประสาน ปชป.ยังบี้ “สุวิจักขณ์” ทำหน้าที่หลังหายหัว
วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยังคงอภิปรายตำหนิการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาควบคุมตัวนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันไปมาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยต่างก็สาวถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเพื่อตำหนิกันไปมา
นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้ถ่ายคลิปย้อนหลังลากเก้าอี้ ถูกขว้างแฟ้มมาฉายซ้ำ และประธานถูกกระทำมาได้ และปัญหาที่เกิดขึ้นจากอะไรจะได้เป็นเครื่องเตือนสติ เพราะส.ส.บางคนก็ไม่เคยเคารพและปฏิบัติตามดังนั้นหากให้ตำรวจมานำตัวออกไปก็ถือว่าชอบอยู่แล้ว
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจประธานทำหน้าที่ให้เข้าตา แต่ตนก็ทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ประชาชนและเรียกร้องการแก้ปัญหา คือเรื่องยางพารา เพราะผู้ชุมนุมถูกยิงตาย และรัฐบาลจะให้เงินเยียวยารวมแล้ว 7.9 ล้านบาทหรือไม่ และรวมถึงขอเอกสารการทุจริตในสภาฯ ไป 2 เดือน ทั้งที่ประธานสภาฯ ให้เลขาธิการสภาฯ ส่งเอกสาร แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยส่งเอกสารให้ตน ทั้งนี้ หากใครให้สอบจริยธรรมตนก็ยินดี ก็ขอให้ตรวจสอบท่านประธานด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ฉุดกระชากตน ได้ทำให้ไมโครโฟนหัก เพราะเอามือไปยึดเอาไว้ และตนยินดีจะชดใช้เงิน 1 พันบาทหากไม่พอมาหักเงินเดือนตนได้อีก
“ผมได้รับทราบว่าท่านฝึกอบรมให้ตำรวจอุ้ม ส.ส.หลายครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่สำเร็จ เพราะตำรวจกระซิบบอกผมว่าท่านใช้อำนาจเผด็จการและผมไม่อยากให้ใช่อีก ครั้งนี้ผมอโหสิกรรมให้ แต่หากครั้งไม่ยอม” นายวัชระระบุ
ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า หากเป็นไปได้ก็จะไม่ใช้ตำรวจ และตนก็อะลุ่มอล่วย มาโดยตลอดตนให้เกียรติสมาชิก แต่ที่เกิดปัญหาเพราะสมาชิกไม่ให้เกียรติพวกตน และไม่อยากให้เกิดปัญหา ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันและยึดข้อบังคับ ส่วนข้อกล่าวว่าหาว่าเผด็จการนั้นฝ่ายค้านก็ว่าตนเป็น ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ให้ยึดข้อบังคับ ไม่ทราบว่าตนจะต้องทำอย่างไร
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ที่มีความขัดแย้งเป็นเพราะประธานอะลุ่มอล่วย เพราะรู้ว่าการพิจารณารัฐธรรมนูญมีมาหลายวัน หากเพื่อนสมาชิกให้ความเห็นตรงกันว่ารัฐธรรมนูญใช้บังคับกับบุคลที่มีการเลือกตั้ง ส.ว.ก็ต้องช่วยกัน แต่ท่านบอกว่าไม่อยากให้รัฐธรรมนูญนี้ออกมา หลายคนประสงค์ไม่ต้องการให้คลอดออกมา สมัยที่ตนเป็นฝ่ายค้าน กฎหมายหลายฉบับเราไม่เห็นด้วยก็อภิปรายไม่เห็นด้วยหรือวอล์กเอาต์ออกไป แต่ขณะนี้รัฐสภาเปลี่ยนวิธีการที่เรียกว่าประเพณีปฏิบัติ ที่ต้องทำตามข้อบังคับการประชุม และท่านประธานใช้ข้อบังคับแต่สมาชิกก็ไม่เชื่อ และเคยไปเชิญออกไม่ออกก็มีวิธีการต่อไปขั้นตอนไปตามรูปแบบ แต่เมื่อสมาชิกไม่ใช้ข้อบังคับแปลว่าไม่เคารพไม่กฎหมาย ดังนั้นที่นี่ก็ไม่ควรออกกฎหมาย ไม่สมควรเปิดประชุมรัฐสภา เพราะที่นี่ไม่สามารถเป็นตัวอย่างได้ และเราจะถูกต่อว่า
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การพูดจาเสียดสีพวกตนทำหน้าที่ไม่ถูกต้องนั้น อยากบอกว่าสมัยที่นายวิชาญเป็นฝ่ายค้านทำยิ่งกว่านี้ ไม่เหมือนพวกตนทำวันนี้ นายวิชาญเอาพวกมาล้อมสภา เอาพวกมาไล่จับกุมตนในสภา พวกตนไม่ได้ทำไม่มีพฤติกรรมที่หยาบช้าเลวทรามขนาดนั้น วันนี้มากล่าวว่าว่าพวกตนขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เป็นความจริง เพราะพวกตนกำลังใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและปฏิบัติตามกติกา ขณะที่นายวิชาญได้ประท้วงให้นายสุเทพถอนคำพูดที่บอกว่าตัวเองเอาคนมาล้อมสภามาจับกุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่นายสมศักดิ์วินิจฉัยไม่ให้ใครถอนคำพูดเพราะทุกคนที่พูดมาตลอดได้พาดพิงลักษณะนี้เหมือนกันหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปล่อยให้สองฝ่ายโต้กันไปมา จนนายสมศักดิ์ต้องขอสั่งพักการประชุมอักครั้งเพื่อไปทำธุระส่วนตัว เมื่อเปิดประชุมมาอีกครั้งนายสมศักดิ์ได้พยายามดำเนินการพิจารณามาตรา 5 อีกครั้ง แต่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านได้เสนอให้โอกาสฝ่ายค้านได้หารือถึงปัญหาราคายางพาราอีกครั้ง โดยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ ได้ทยอยลุกขึ้นอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ตนไม่อยากให้การพูดผ่านไปเฉยๆ หรือบอกว่าจะส่งสิ่งที่พูดมาไปหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล สถานการณ์วันนี้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดภาคใต้เป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ เรามีญัตติที่ยังค้างอยู่ในสภา ดังนั้น อยากให้ประธานใช้ฐานะประมุขสภานิติบัญญัติ ทำหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาร่วมฟังและชี้แจงการอภิปรายของสมาชิก ส.ส.ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) เพราะไม่ว่าผู้ที่จะได้รับมอบหมาย หรือผู้ที่พยายามไปแก้ไขปัญหาจะเป็นใครก็ตาม แต่ถ้าสัญญาณหัวหน้ารัฐบาลบอกเรื่องยางแทรกแซงไมได้ ก็คงไม่มีประโยชน์
“ขอให้รับปากว่าจะประสานงานให้นายกฯมารับฟังพวกเราในวันพรุ่งนี้ สละเวลาเพียงครึ่งวันบริหารจัดการได้อยู่แล้ว และที่มีสมาชิกท้าทายยืนยันว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังการชุมนุมเกษตรกรสวนยาง พวกตนมีหน้าที่ดูแลปัญหาทั้งหมดของประชาชน และต้องการรักษาประโยชน์ส่วนรวม ขนาด ส.ว.สรรหายังลงไปยังพื้นที่เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ทุกวันนี้ผมและนายสุเทพติดตามรายงานข่าวการชุมนุมตลอดเวลา”
ด้านนายอำนวย คลังผา ในฐานะประธานวิปรัฐบาลชี้แจงว่า ยืนยันจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายญัตติเรื่องปัญหาราคายางพาราต่อ และจะประสานให้รัฐบาลมาตอบ แต่นายอภิสิทธิ์ยังจี้ถามให้นายสมศักดิ์ รับปากว่าจะทำหนังสือไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้มาฟังญัตติของฝ่ายค้านในวันพรุ่งนี้ จนในที่สุดนายสมศักดิ์ก็ยอมที่จะทำหนังสือไปตามข้อเรียกร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากใช้เวลาร่วมครึ่งวันในการถกเถียงกันไปมา จากนั้นการประชุมเริ่มจะเข้าสู่วาระการพิจารณามาตรา 5 แต่ปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนได้เรียกร้องให้นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร มาทำหน้าที่ในฐานะเลขานุการประชุมรัฐสภา เนื่องจากตลอดวันที่ผ่านมา นายสุวิจักขณ์ไม่ได้มาร่วมประชุมเลย แต่มอบหมายให้ รองเลขาธิการวุฒิสภามาทำหน้าที่แทน ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภากำหนดให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรเท่านั้นที่สามารถมาทำหน้าที่เลขานุการการประชุมได้ แต่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ยืนยันว่าสามารถทำหน้าที่แทนได้ไม่มีปัญหา
จากนั้นที่ประชุมได้เริ่มเข้าเนื้อหาการพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 5 เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.เมื่อเวลา 14.30 น.