“มาร์ค-กรณ์” ร่วมวงกินข้าว “แบลร์” ชี้หนุนหลักการ ปชป. จี้ รบ.เลิกใส่ร้ายจริงใจแก้ยาง

หน.-รอง หน.ปชป.รับประทานกลางวันร่วมกับอดีตนายกฯ อังกฤษ “มาร์ค” พร้อมแจงเรื่องที่ถกพรุ่งนี้ “กรณ์” FB เผย “แบลร์” รู้จุดยืน ปชป.ไม่ร่วมปาหี่จึงนัดคุย และเห็นด้วยกับพรรค ให้อภัยต้องเคารพสิทธิผู้สูญเสีย ยึดนิติธรรม ย้ำรัฐฯ ไม่จริงใจ ดันนิรโทษฯ ทั้งที่เสี่ยงแตกแยก ชี้เวทีปฏิรูปวงอื่นเหมาะกว่า อย่าทำเพื่อจัดผลประโยชน์การเมือง เชื่อชาวสวนฟังรัฐฯ หากเสนอราคาเหมาะสม จี้จริงใจแก้ปัญหาโดยเร็ว เลิกใส่ร้ายม็อบ

วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่บ้านพักเอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ โดยภายหลังการหารือ นายอภิสิทธิ์กล่าวเพียงว่า ในการพูดคุยกับนายโทนี แบลร์ พูดคล้ายกับที่ได้กล่าวบนเวทีปราฐกถาพิเศษ ส่วนรายละเอียดตนจะเล่าให้ฟังในวันที่ 3 ก.ย.นี้ เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ด้านนายกรณ์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Korn Chatikavanij” ตอนหนึ่งว่า นายแบลร์ทราบแต่แรกว่าเราไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการปาหี่ปฏิรูปของรัฐบาล จึงได้ขอนัดพบเราต่างหาก หลังจากที่ได้ไปบรรยายให้กับฝ่ายรัฐบาลฟังตอนเช้า ซึ่งนายแบลร์เคยเดินทางมาประเทศไทยและพบกับพวกตนครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ในคราวนั้นได้อธิบายให้นายแบลร์ เข้าใจว่าจุดยืนของเราคือการให้อภัยกันเป็นเรื่องจำเป็น แต่ต้องมีการเคารพสิทธิของผู้สูญเสียที่จะได้รับความยุติธรรมก่อน เรามองว่าการรักษาหลัก 'นิติธรรม' เป็นเรื่องจำเป็นในสังคมประชาธิปไตย ซึ่งทั้งหมดนี้นายแบลร์ก็เห็นด้วยและได้สัมภาษณ์ในหลักการเดียวกันด้วย

“วันนี้เราก็จึงได้ชี้แจงกับท่านอีกครั้งว่าเราไม่เข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปของรัฐบาลเพราะรัฐบาลไม่แสดงความจริงใจที่จะปฏิรูปจริง และไม่ยอมที่จะทบทวนความเหมาะสมเรื่องการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งๆ ที่กฎหมายฉบับนี้สร้างความแตกแยกอย่างมาก และหลายฝ่ายมองว่ามีผลในทางลบกับระบอบการปกครองประเทศ ส่วนกระบวนการปฏิรูปที่แท้จริงนั้น มีเวทีอื่นที่เหมาะสมกว่า และเราพร้อมเข้าร่วมเสมอ ต่อเมื่อรัฐบาลพร้อมยอมรับว่าในการปฏิรูปประเทศนั้น ประชาชนทุกภาคส่วนต้องมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน และเวทีนั้นไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อหาความชอบธรรมในการจัดผลประโยชน์ระหว่างนักการเมืองให้ลงตัว ทั้งหมดเป็นการนั่งสนทนากันอย่างเป็นกันเอง คือท่านทูตฯ ได้จัดให้เราสามคนตักอาหารแบบบุฟเฟ่ต์มานั่งทานไปคุยไป ใครบอกว่าอังกฤษทำอะไรต้องมีพิธีรีตองมากมาย จริงๆสมัยนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้วครับ”

นอกจากนี้ นายกรณ์ยังให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงการเข้าพบนาโทนี่แบล์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พร้อมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้ชี้แจงกับนายโทนี่ แบล์ถึงเหตุผลที่ไม่เข้าร่วมการปาฐกถาพิเศษ “ผนึกกำลังสู่อนาคต: เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์ ซึ่งนายโทนี่แบล์ก็เข้าใจ และในการพูดคุยนายโทนี่ แบล์ ได้เน้นว่าหลักนิติธรรมเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความปรองดอง ขณะที่นายอภิสิทธิ์และตน ได้ชี้แจงให้เข้าใจถึงเหตุผลที่ไม่เข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปของรัฐบาล ว่ารัฐบาลไม่จริงใจ โดยยังเดินหน้าพรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งความจริงเวทีปฏิรูปประเทศไทยนั้น รัฐบาลไม่ควรเป็นเจ้าภาพ แต่ควรให้องค์กรอื่นที่เป็นกลาง ซึ่งนายแบล์ก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตามนายโทนี่แบล์ไม่ได้มีการโน้มน้าว หรือเชิญชวนให้ฝ่ายค้านเข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปประเทศแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเดินสายเชิญฝ่ายค้านเข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปประเทศว่า คงเป็นหน้าที่ของนายบรรหารอยู่แล้ว เพราะตอบรับเป็นประธาน ก็คงพยายามที่จะมาพูดคุย แต่จะหวังผลว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ จะเข้าร่วมโต๊ะด้วยคงเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่จะโน้มน้าวให้รัฐบาลปรับท่าที ทั้งเรื่องการผลักดันร่างพรบ.นิรโทษกรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยชะลอเรื่องเหล่านี้ไว้ ซึ่งฝ่ายค้านเห็นว่าควรเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะทำ เพราะหากยิ่งเดินหน้าจะยิ่งสร้างความขัดแย้ง

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ที่สนามบินดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งล่าสุดมีการเสนอขอราคายางไม่ต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัมว่า เชื่อว่าเกษตรกรจะฟังเหตุผลหากข้อเสนอที่เป็นไปไม่ได้ แต่รัฐบาลก็ต้องให้ราคาสมเหตุสมผลกับราคาต้นทุน เพราะที่ผ่านมาการช่วยเหลือเรื่องข้าวก็ให้ราคาที่สูงกว่าราคาต้นทุน ดังนั้น หากรัฐบาลเอาใจใส่จริงจัง ก็สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้ตนเป็นห่วงสถานการณ์ จึงอยากให้มีการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพราะอยู่ในวิสัยที่ยังพูดกันได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอแนวทางแก้ไขไปหลายครั้งแล้ว และขอพบรัฐบาลถึง 3 ครั้ง แต่ไม่มีการตอบสนองหรือรับฟัง จึงอยากให้รัฐบาลจริงใจในการนำเอาข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์ไปปฏิบัติ และขอให้เลิกให้ข่าวใส่ร้ายผู้ชุมนุม