เกาะติด "กองทัพโค่นแม้ว" เปิดฉากถล่มรบ.ยิ่งลักษณ์

ผ่าประเด็นร้อน

เป็นที่จับตามองว่าการชุมนุมของกลุ่มมวลชนในนาม "กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”ที่ประกาศดีเดย์กันเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) จะจุดติด และเขย่าขวัญรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงที่ง่อนแง่น คะแนนนิยมตกวูบได้หรือไม่

ด้วยความไม่ชัดเจนของแผนการชุมนุมที่เหล่าแกนนำในนาม "เสนาธิการร่วม" ปิดลับมาตลอด โดยให้เหตุว่า เป็นกลยุทธ์เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจล่วงรู้แผน แล้วเตรียมทางป้องกันได้ รวมทั้งไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือน "ม็อบ เสธ.อ้าย" หรือกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ภาคแรก ที่นำโดย "พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์"

ตอนนั้นโดนไล่ทุบไล่ตีแต่หัววัน เลยต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปแบบช้ำๆ

"กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”หรือที่ถูกขนานนามว่า "ม็อบอพส.ภาคสอง" จึงเลือกเคลื่อนไหวแบบ "ลับ ลวง พราง"

และก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่า พล.อ.บุญเลิศ จะกลับลำมาถือธงนำทัพเหมือนเมื่อปีกลาย เพราะกอทัพประชาชนฯใช้ "สนามม้านางเลิ้ง" เป็นกองบัญชาการหลัก แต่แล้วเมื่อใกล้ถึงวันชุมนุมก็ชัดเจนว่างานนี้ "เสธ.อ้าย" เป็นกองเชียร์อยู่ห่างๆ เท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ "ราชตฤณมัยสมาคมในพระบรมราชูปถัมป์" ออกประกาศห้ามใช้ "สนามนางเลิ้ง" ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ความมั่นคง ตามประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ของฝ่ายรัฐ

แม้แต่การแถลงข่าวก็ห้ามไม่ให้จัดในพื้นที่ ทำให้ "แผนเอ" ที่เสนาธิการร่วมจะใช้พื้นที่สนามนางเลิ้งในการชุมนุม ก็ไม่สามารถทำได้ จนต้องงัด "แผนบี" เลือกภูมิศาสตร์ ที่อยู่นอกเขตพื้นที่ความมั่นคง จึงมาลงตัวที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 บริเวณหน้าสวนลุมพินี โดยนัดหมายกันช่วงเวลาบ่ายสาม ของวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. ซึ่งเพิ่งประกาศไปเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ส.ค. หรือก่อนหน้าการชุมนุมไม่ถึง 24 ชั่วโมง

แต่เวลาที่กระชั้นชิด ก็ไม่ทำให้มวลชนคนไม่รักแม้วเปลี่ยนใจ ยังทยอยมาจับจองสถานที่นัดหมายตั้งแต่ค่ำคืนของวันที่ 3 ส.ค. จนเต็มพื้นที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ในช่วงบ่ายของอีกวัน

ทั้งๆ ที่มีกระแสข่าวว่า การเข้าร่วมของมวลชนพบกับอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะมวลชนจากต่างจังหวัด ที่ถูกด่านความมั่นคงสกัดไว้ในหลายพื้นที่ หรือรถขยายเสียงที่เช่าไว้ ก็ถูกลอบเผาเครื่องเสียงที่เช่าไว้ เสียหายจนใช้การไม่ได้

และแม้จะนัดหมายกันในช่วงบ่าย แต่บรรยากาศเวทีตั้งแต่ช่วงเช้าก็คึกคักพอตัว มีแกนนำย่อยสลับกันขึ้นปราศรัยปลุกระดมบนเวที โดยส่วนใหญ่จะกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่บริหารงานล้มเหลว

จนถึงเวลาเปิดเวทีอย่างเป็นทางการ ในเวลา 15.00 น. เสนาธิการร่วมก็ขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียง "พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ - พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ - พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัจน์ - พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี - พิเชษฐ พัฒนโชติ - ไทกร พลสุวรรณ" พร้อมเปิดตัว "พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน" ร่วมเป็นเสนาธิการร่วมอีกคน รวมทั้งยังได้เปิดตัวกลุ่ม “V FOR THAILAND” หรือ กลุ่มหน้ากากขาว ที่เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ด้วย

พล.ร.อ.ชัย ได้อ่านแถลงการณ์ว่า การรวมตัวของประชาชนครั้งนี้ เป็นการไม่ยอมรับอำนาจภายใต้ปกครองระบอบทักษิณและทุนสามานย์ พร้อมจัดพิธี "ลั่นระฆัง" ประกาศการต่อสู้โค่นระบอบทักษิณ ยกที่ 1 เริ่มแล้ว

ช่วงนี้เสียงปฏิญาณ “กองทัพประชาชนจงเจริญ ระบอบทักษิณจงพินาศ” 3 ครั้งดังลั่นไปทั่วบริเวณ

ช่วงเย็น เสนาธิการร่วมออกแถลงการณ์อีกฉบับ มีใจความ 4 ประเด็นใหญ่ คือ 1. เราขอลั่นระฆังต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย

2.เราขอคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรมและกฎหมายฉบับอื่นๆที่จะนำมาสู่การล้างความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ 3.เราจะชุมนุมโดยสงบสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ตามวิถีของประชาธิปไตย และ 4.เราขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ทหาร ตำรวจ ทั้งในและนอกราชการ พี่น้องประชาชนที่รักชาติ ประชาธิปไตย และเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เข้าร่วมการชุมนุมเพื่อปฎิรูปประเทศไทย

เบื้องต้น "กองทัพโค่นแม้ว" ประกาศปักหลักชุมนุมที่ลานพระบรมรูป ร.6 แห่งนี้ เป็นเวลา 3 วัน 4-6 ส.ค. โดยจะมีการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ส่วนยุทธวิธีอื่นอย่าง "ดาวกระจาย" ที่จับตามองกันนั้น จะประเมินเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง หรือพร้อมเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา หากสถานการณ์จำเป็น

บทสรุปวันแรกของ "กองทัพโค่นแม้ว" แม้จะยังไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็ถือว่าเป็นการจุดและเลี้ยงกระแสกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้ระดับหนึ่ง