เกาะกระแส
00 วันเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญแล้วสำหรับการชุมนุมของพี่น้องชาวสวนยางและชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ แยก"คลองหนองหงส์"และ "แยกบ้านตูล" อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช หลังจากกัดฟันยื้อมาได้เป็นวันที่ 6 แล้ว ต่อไปนี้ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญ เพราะจะเริ่มมีแรงกดดันอันมหาศาลมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากชาวบ้านในภาคใต้ที่ต้องเดือดร้อนจากการเดินทางสัญจร และที่สำคัญยังมาจากการ "จงใจยุยง"แบบใช้"วิชามาร"ของฝ่ายรัฐ เท่าที่เห็นในตอนนี้กำลังใช้มือไม้ กำนันผู้ใหญ่บ้านสร้างกระแสกดดัน ทางหนึ่งก็เพื่อให้ทั้งมวลชนและแกนนำเกิดความหวั่นไหว แต่อย่างไรก็ดีถ้าเกษตรกรมีความเข้าใจว่านี่คือการเรียกร้องเพื่อปากท้องร่วมกัน เป็นการกดดันให้รัฐบาลหันมาสนใจแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียทีหลังจากก่อนหน้านี้เคยเรียกร้องมานานแล้วและต่อเนื่อง แต่ไม่เหลียวแล และสำหรับแกนนำและชาวบ้านที่สู้รวมกันมานาทีนี้ถือว่า "ถอยไม่ได้" แล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากวิธีการของรัฐที่กำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมและพร้อมจะสลายม็อบทุกเวลา มันก็ยิ่งเสี่ยงต่อการสูญเสีย บานปลาย และถ้าลงมือจริงเชื่อว่า "รัฐบาลนั่นแหละจะอยู่ไม่ได้"
00 เวลานี้สังเกตให้ดีจะพบว่าฝ่ายที่พยายามเน้นย้ำว่าเป็น "ม็อบการเมือง" อยู่ตลอดเวลา ก็คือรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ก็อยากถามสักคำว่าถ้าเป็นการเมืองแล้ว "เมิงไม่ช่วยหรือไงฟะ" แล้วทำไมตั้งแต่แรกทำไมช่วยเหลือทำให้ราคาดีให้ชาวสวนพออยู่กันได้ เคยขอให้ช่วยไปตั้งหลายหน แต่ก็เงียบ ก็ถ้าเป็นการเมืองประชาธิปัตย์แล้วเป็นไง มี สส.ปชป.ไปอยู่ในม็อบแล้วป็นไง มันก็อาจจะใช่ แต่ประเด็นสำคัญก็คือพวกเขาเดือดร้อน และเดือดร้อนจากผลงานของรัฐบาลห่วยๆนี่แหละ จะให้รอวันตายหรือไง ทีเรื่องข้าวไม่อ้างกลไกตลาดโลกยอม"ละลายงบ 6-7 แสนล้านบาทไปซื้อมาเก็บไว้ให้เป็น"อาหารมอดหนูแมลงสาบ" ก็ทำ แต่ทียางพาราสามารถเก็บเอาไว้ได้เป็นปีๆไม่เสียหายกลับไม่ทำ อ้างว่าต้องใช้กลไกตลาด ตลาดบิดาเอ็งละสิแบบนี้ ทุด !!
00 เรื่องม็อบยางทำให้กลบเรื่องสำคัญไปหลายเรื่องแทบสนิท อย่างเรื่องในสภากำลังมีการพิจารณาร่างแก้ไข รธน. เกี่ยวกับที่มาของ สว.และส่อเค้ายืดเยื้อไปอีกหลายสัปดาห์ แต่เท่าที่เห็นแววชัดว่าจะมาแทน "สุชน ชาลีเครือ"ผู้นำสภาทาส สภาชินคนก่อน คราวนี้มีตัวตายตัวแทนแบบ "ด้านได้หายห่วง"กว่า เขาคนนั้นก็คือ "นิคม ไวรัชพานิช" เพราะที่ผ่านมาจากผลงานในวุฒิสภาถือว่าน่าจะเข้าตา ส่วนอนาคตจะเป็นแบบไหนนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
00 ส่วนวง"ลิเกปฏิรูป"ก็คงจะต้องเว้นวรรคหยุดพ่นน้ำลายกันไปชั่วคราว เพราะตามกำหนดการคร่าวๆบอกว่าจะเริ่มอีกทีเดือนกันยา แต่ก็ไม่รู้ว่าวันไหน ก็ไม่รู้ว่า "นักปฏิรูประดับโลก"ระดับจักรวาลอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา จะได้เป็นแม่กองต่อไปหรือไม่ เพราะดูแล้วไม่เป็นโล้เป็นพายตังแต่เริ่มต้น ขณะที่นกรู้อย่าง "อุกฤษ มงคลนาวิน" ที่เห็นอาการไม่เวิร์กตั้งแต่ต้นก็รีบประกาศตั้งแต่ต้นแล้วจะไม่ร่วมใน "สภาปฏิรูป"ทำได้แค่สนับสนุนเท่านั้น มันก็ได้ข้อสรุปทันทีว่าการประชุมวันก่อน "เปลืองน้ำเปลืองไฟเหมียนเดิม" ทุด !!
00 ปลายสัปดาห์นี้ฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้ถาม นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเรื่องค่าครองชีพ สินค้าแพง แต่ชาวบ้านรายได้หดจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทุกตัว จะแก้อย่างไร งานนี้พนัน "ขี้หมากองเดียว" ก็คือ "มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปบูรณาการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำแล้วค้า" พร้อมกับมอบหมายให้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ไปโชว์ห่วยในสภา จบ
00 ดูรูปการณ์แล้ว สิ่งที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดย รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง กำลังลุ้นกันแบบได้เสียมากที่สุดสำหรบการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ในตอนนี้ก็คือ "เงินกู้2ล้านล้านบาท" เท่านั้น เพื่อนำมาโปะรายได้ที่ขาดหายไป รวมทั้งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่หลายรายการ รวมทั้งที่สำคัญที่สุดก็คือจะเป็น "กระสุน"ที่เตรียมเอาไว้สำหรับการเลือกตั้งใหม่ที่กำลังถูกบังคับให้ "นับถอยหลัง"เร็วขึ้น เพราะจะไปหวังพึ่งการส่งออกที่อ้างว่า "ค่าบาทอ่อน"ลงมาแล้วก็คงจะไม่ได้ เพราะ"ค่าเงินอ่อนกันทั้งภูมิภาค" แต่มันก็ไม่หมู เพราะถึงที่สุดแล้วอาจไปเดี้ยงที่ศาลรธน.เพราะเวลานี้มีคนจองกฐินสกัดไว้ล่วงหน้าหลายรายแล้ว
00 หลายคนอาจผิดหวังที่ลุ้นให้ ปปช.ชี้มูลความผิดนายกฯปูเรื่องจำนำข้าวเมื่อวันที่ 27 สค.ที่ผ่านมา เพราะยื้อไปอีก ซึ่งในความเห็นส่วนตัวก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าชี้ว่าผิด ก็อาจเป็นกาาสร้างเงื่อนไขว่า "ถูกกลั่นแกล้ง" เพิ่มความเข้มแข็งให้ "ระบอบทักษิณ"ขึ้นมาอีก ดังนั้นถ้าใครจะว่า "โรคจิต"หรือไม่ก็ตาม แต่บางทีก็ต้องให้บทเรียนกับสังคมให้เรียนรู้ความจริง ว่า "เนื้อแท้ของทักษิณ ชินวัตร"และครอบครัว มันห่วยแค่ไหน ผ่านมาสองปีก็ประจานให้เห็นเรื่อยๆ จนแจ่มชัดแล้วไม่ใช่หรือ รออีกพักเดียวจะได้สิ้นข้อสงสัย หมดข้อแก้ตัวกันเสียที !!