โฆษก ปชป.เผยที่ประชุมพรรคห่วงบ้านเมือง ซัดรัฐบาลเมินแก้ปัญหายางราคาตกต่ำ เชื่ออาจลุกลามบานปลายถึงขั้นยุบสภา พร้อมจับมือทุกกลุ่มต้านรัฐบาล ลั่น ส.ส.ปชป.ไม่ยึดตำแหน่ง เผยเตรียมปรับโครงสร้างพรรค เตรียมจัดเวทีเสวนาปฏิรูปประเทศ ยกข้อเสนอ “อานันท์-ประเวศ-คอป.” ร่วมพิจารณา ตั้งวงเสวนาเชื่อมโยงเครือข่าย ปชช.
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพรรคมีความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง เนื่องจากเกิดวิกฤตการเมืองจากการที่รัฐบาลพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม แก้รัฐธรรมนูญ พยายามใช้สภาผ่านกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่อาจทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมา นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคเป็นห่วงพี่น้องชาวสวนยางที่รัฐบาลยังไม่มีแนวทางคลี่คลายปัญหา แต่กลับใส่ร้ายประชาชนที่ออกมาเรียกร้องตามสิทธิในรัฐธรรมนูญว่ากลุ่มชาวสวนยางถูกจัดตั้งเป็นม็อบการเมือง ข่มขู่ใช้กำลังสลายการชุมนุม ทิศทางอย่างนี้จะเป็นการเติมฟืนบนกองไฟให้รุนแรงมากขึ้น เพราะจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ จึงอยากให้รัฐบาลเอาใจใส่ในการแก้ปัญหาอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าประชาชนจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ทั้งนี้ยังเห็นว่านายกรัฐมนตรี ไม่มีความเข้าใจต่อการแก้ปัญหายางพารา เพราะไม่ทราบแม้กระทั่งว่าไทยคือผู้ส่งออกยางพาราอันดับ 1 ของโลก
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในขณะนี้ถือว่าไทยเดินเข้าสู่วิกฤตการเมือง เศรษฐกิจแล้ว และมีความเป็นไปได้จะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เช่น การยุบสภา ทั้งนี้พรรคยืนยันถึงการต่อสู้เพื่อรักษาความถูกต้องในบ้านเมืองว่าจะเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาอย่างเข้มข้นจนกว่ากฎหมายนิรโทษกรรมจะตกไป นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคยังมีมติอนุมัตแผนการปรับโครงสร้างพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองให้เป็นที่หวังของประชาชนนำพาประเทศหลุดพ้นวิกฤต โดยมีการนำเสนอแผนปรับโครงสร้างพรรคไปยังคณะกรรมการกฎหมายของพรรค เพราะตามโครงสร้างใหม่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนข้อบังคับให้สอดคล้อง ยืดหยุ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนมากขึ้น และให้คณะกรรมการกฎหมายร่างข้อบังคับพรรคภายใน 30 วัน ก่อนส่งกลับมาให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากข้อเรียกร้องของนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค เพราะเป็นเรื่องที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตระหนักมาโดยตลอดว่าทุกองค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาก็เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่เป็นการแสดงจุดยืนของพรรคให้ประชาชนเห็นว่าเป็นที่พึ่งที่หวังในการกอบกู้บ้านเมืองได้
นอกจากนี้ ได้มีการหารือถึงการปฏิรูปประเทศที่ดำเนินการโดยรัฐบาลว่าเป็นการปฏิรูปแบ่งเค้กประเทศไทยของคนในรัฐบาล เพราะจำกัดวงเฉพาะคนที่เห็นด้วยมีผลประโยชน์ร่วมกับรัฐบาล ไม่สามารถเป็นที่หวังของประชาชนอย่างแน่นอน โดยพรรคจะนำเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศไทยที่เคยมีการศึกษาแล้ว เช่น ของนายอานันท์ ปันยารชุน นพ.ประเวศ วะสี และพิมพ์เขียวประเทศไทยของพรรค เพื่อนำเสนอควบคู่ไปกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ อีกทั้งจะจัดการเสวนาเพื่อระดมความเห็นกำหนดแผนแม่บทในการกำหนดนโยบายของพรรคด้วย ซึ่งโครงสร้างใหม่ที่จะมีการปรับเปลี่ยนนั้นจะเปิดโอกาสให้สมาชิพรรคมีส่วนร่วมทำงานเข้าถึงประชาชนมากกว่าเดิม มีกลไกทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น ทั้งการออกแบบนโยบาย หรือการทำงานสอดรับกับพื้นที่และระดับชาติ เพื่อให้เป้าหมายไปถึงชนะการเลือกตั้ง พิสูจน์จุดยืนของพรรคในการรักษาบ้านเมืองและการปฏิรูปประเทศไทย
ส่วนการที่อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้เสนอแนวทางปฏิรูปพรรคต่อสาธารณะไม่เข้าร่วมประชุมวันนี้นั้น นายชวนนท์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาที่จะเดินหน้าพิจารณาโครงสร้างพรรค เพราะองค์ประชุมกรรมการบริหารพรรคครบถ้วนและจะเดินหน้าตามนี้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนายอลงกรณ์หรือบุคคลอื่นในพรรคต้องยอมรับโครงสร้างตามมติของกรรมการบริหารพรรค เพราะเราทำเพื่อประชาชนไม่ได้ตอบสนองความต้องการของบุคลากรคนใดคนหนึ่งในพรรค พร้อมกับยืนยันว่าพรรคไม่เคยยึดติดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีแต่พรรคเพื่อไทยที่ไม่เคยก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ และยังใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จนก่อให้เกิดวิกฤตการเมืองในขณะนี้
สำหรับการเคลื่อนไหวนอกสภานั้นพรรคจะเดินหลายแนวทางเพื่อต่อต้านกฎหมายล้างผิดภายใต้กรอบของกฎหมาย ด้วยการต่อสู้อย่างเข้มข้นในสภา การเคลื่อนไหวนอกสภาร่วมกับมวลชน และการเสนอทางออกที่เป็นรูปธรรมในเชิงนโยบาย โดยเมื่อถึงจุดที่ต้องเคลื่อนไหวนอกสภา ส.ส.แต่ละคนจะพิจารณาเองว่าบทบาทของตนเองจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ เพราะไม่มีใครยึดติดกับตำแหน่ง เนื่องจากหากประเทศชาติไม่เหลืออะไรแล้วการเป็น ส.ส.ก็ไม่มีประโยชน์อะไร และสามารถบอกได้เลยว่าจะไม่มี ส.ส.คนใดตกเป็นผู้ก่อการร้ายแน่นอน
นายชวนนท์ยอมรับว่า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปพบกับสมณะโพธิรักษ์ ผู้ก่อตั้งสันติอโศกและกองทัพธรรม ว่าเป็นการแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่มีแนวคิดตรงกันในการรักษาบ้านเมือง ละทิฐิอคติในอดีต และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกฝ่ายถ้ามีแนวคิดที่จะต่อต้านกฎหมายล้างผิด รักษานิติรัฐประเทศ ไม่ให้ใครกินรวบประเทศไทย ก็สามารถเข้าร่วมต่อสู้กับพรรคได้โดยพรรคพร้อมต่อสู้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานแค่ไหนก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพรรคได้มีการแจ้งนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคผ่านทาง SMS ของกรรมการบริหารพรรคทุกคนรวมทั้งนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นายอลงกรณ์แจ้งถึงการไม่เดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ว่าไม่ทราบว่ามีการประชุมกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้ สำหรับโครงสร้างใหม่ของพรรคนั้นไม่ได้เป็นไปตามพิมพ์เขียวที่นายอลงกรณ์ได้นำเสนอต่อสาธารณชนก่อนหน้านี้ เนื่องจากคณะกรรมการปฏิรูปพรรคได้นำเอาข้อเสนอของทุกฝ่ายมาพิจารณาประกอบกัน เพราะก่อนที่นายอลงกรณ์จะเสนอแผนปฏิรูปพรรคต่อสาธารณะนั้น นายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายให้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี ไปศึกษาเกี่ยวกับแนวทางปรับปรุงพรรคอยู่แล้ว และยังมีข้อเสนอของ ส.ส.คนอื่นๆ เกี่ยวกับแนวทางปรับปรุงพรรคด้วย คณะกรรมการปฏิรูปพรรคจึงพิจารณาทุกแนวทางที่มีการเสนอมารวมทั้งของนายอลงกรณ์ ก่อนที่จะออกมาเป็นโครงสร้างใหม่ดังกล่าว