“นิคม” หักดิบสั่งลงมติมาตรา 1 หลังปล่อยฝ่ายค้านยื้อกว่า 10 ชม. “เทพไท” ออกงิ้ว สาปส่งไปดูไบ “ส.ว.รสนา” เหน็บทำไมต้องรีบ ด้าน “เจริญ” ดอดคุย “เฉลิมชัย” เสนอเลื่อนประชุม ล่าสุดประธานเห็นชอบสั่งพักประชุม นัดถกกันต่อ 9 โมง 21 ส.ค.
ความคืบหน้าการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว.เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 20 ส.ค.หลังจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที ก็ได้มีการเปิดประชุมอีกครั้งหนึ่งโดยนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุม โดยนายนิคมได้สั่งให้มีลงมติมาตรา 1 ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตะโกนคำว่า ขี้ข้า, ออกไป และเป่านกหวีดอยู่ตลอดเวลาบริเวณหน้าบังลังก์ประธานสภาฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30 นายยืนล้อมบังลังก์ของประธานสภาเอาไว้ แต่นายนิคมก็ยังดำเนินการลงมติต่อไปโดยไม่สนใจเสียงคัดค้าน ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการ 330 ต่อ 6 เสียง
จากนั้นนายนิคมได้สั่งให้พิจารณาวาระที่ 2 ทันที ท่ามกลางเสียงประท้วงของนายเทพไท ที่ระบุว่า “นายนิคมขี้ข้า ไม่มีศักดิ์ศรี จะประชุมต่อไปได้อย่างไร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าจะเป็นขี้ข้าไปอยู่ดูไบ ไปเลย ไปอยู่กับทักษิณ ไปติดคุก อย่ามาเสียคนตอนแก่ ปิดประชุมไป สภานี้ไม่มีศักดิ์ศรีเพียงพอ เป็นเผด็จการ รับใช้ทักษิณ”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นประธานทำหน้าที่ภายใต้การไม่ยอมรับของสมาชิกจำนวนมาก อยากให้เลื่อนการประชุมออกไป เพราะบรรยากาศเดินหน้าต่อไปไม่ได้จริงๆ ด้านนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกกฎหมายต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา และหากมีความขัดแย้งก็ต้องมีการใช้ข้อบังคับ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่หากยังเห็นว่าต้องการให้มีการประชุมต่อไป
นายนิคมจึงกล่าวว่า พวกท่านมีเพียง 100 กว่าคน แต่สมาชิกอีกกว่า 300 คนยังต้องการเปิดการประชุม ท่านจะให้ทำอย่างไร
ต่อมานายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้เสนอญัญติให้ดำเนินการประชุมต่อไป จึงทำให้นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ตะโกนกลางห้องประชุมว่า ประธานไม่เป็นกลาง เรียกแต่ ส.ว.เลือกตั้ง ทำไมไม่เรียก ส.ว.สรรหาบ้าง พร้อมกวักมือเรียกนายนิคมลงมาด้านล่าง “ท่านชนะในสภาฯ แต่ท่านจะแพ้สงคราม ท่านเชื่อหรือว่าพวกเขาจะยอม” หลังจากนั้นายสมชายได้แนะนำให้พักการประชุมไปก่อน แล้วค่อยมาเริ่มกันใหม่พรุ่งนี้
ขณะที่สมาชิกส่วนหนึ่งได้เรียกร้องให้นายนิคมเลื่อนการประชุมในวันนี้ออกไป เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของรัฐสภา แต่อีกฝ่ายยังคงยืนยันให้เดินหน้าอภิปรายต่อ
ขณะที่นายนิคมขอต่อรองให้มีการลงมติมาตรา 2 ให้เสร็จสิ้นไปก่อน แล้วจะมีการปิดประชุม แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมรับเงื่อนไข
หลังจากถกเถียงกันอยู่ร่วมชั่วโมง นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนประสานกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์แล้วมีความเห็นควรให้เลื่อนการประชุมออกไป เพื่อประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะได้มีการกำหนดท่าทีในการประชุมกันให้ดีกว่านี้ และสามารถเดินต่อไปให้ได้
ขณะที่นายเฉลิมชัยกล่าวเสริมว่า บรรยากาศที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีใครอยากจะเห็น ตนจึงอยากจะให้มีการพักการประชุม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก็น่าจะพูดคุยกำหนดแนวทางที่จะทำให้สภาเดินหน้าต่อไปได้ และทางรัฐบาลก็สามารถส่งคนมาพูดคุยกับนายจุรินทร์ได้
ด้านนายวิชาญได้คัดค้านข้อเสนอดังกล่าวโดยเห็นว่า ควรจะสั่งพักการประชุม เพื่อให้วิปไปหารือหาทางออก และมีการประชุมต่อ ทำให้ข้อถกเถียงยังคงยืดเยื้อต่อไป
จนกระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เสนอให้ทุกฝ่ายหาทางออก เพื่อบรรยากาศที่ดีและสามารถเดินต่อไปได้
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า ควรเปิดโอกาสให้เสียงข้างน้อยอภิปรายอย่างเต็มที่ เรากำลังกลัวอะไรกันอยู่ เหมือนกับว่าเราเป็นซินเดอเรลลาที่ต้องเร่งให้จบภายในเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นราชรถจะกลายเป็นฟักทองหรือ โดยเฉพาะ ส.ว.เลือกตั้งมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ เราจะต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าประธานอนุญาตให้ 57 คนได้พูด ตนคิดว่าคงจบไปนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน จนถึงเวลา 21.39 น. ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุม และให้วิป 3 ฝ่ายไปหารือกันถึงกรอบการอภิปรายในเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ส.ค. และกลับมาประชุมใหม่ในเวลา 09.30 น.วันเดียวกัน