สุดทึ่ง! ช่างฝรั่งเศส ผลิตร่มขายได้คันละเป็นแสน “เผย” เน้นความสวยงาม - คงทนชั่วลูกชั่วหลาน

เอเอฟพี – โดยปกติแล้วคงจะไม่มีใครมองว่าร่มธรรมดาๆ ที่พังง่ายๆ แถมยังทำหายเป็นประจำ เป็นของใช้โก้หรูอะไร ทว่าสำหรับ มิเชล เออร์โตลต์ ชายชาวฝรั่งเศส ซึ่งร่มแต่ละคันของเขาขายได้หลายพันยูโร มองว่าอุปกรณ์ชนิดนี้เป็นของใช้ที่มีระดับเลยทีเดียว

ช่างฝีมือวัย 48 ผู้นี้เลือกใช้วัสดุที่มีความประณีตสูงสุดในการผลิตร่มกันแดดกันฝน ซึ่งแต่ละคันนั้นออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน และสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้

แม้ร่มในร้านของเออร์โตลต์ ที่กรุงปารีสจะมีราคาแพง แต่ก็สามารถดึงดูดลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกได้ ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหญิงของกาตาร์เดินทางมาเลือกซื้อร่มหุ้มด้วยหนังลายจุด ซึ่งสนนราคากว่า 8,000 ยูโร (ราว 346,540 บาท)

“ผมคลั่งไคล้ร่มมาโดยตลอด” เขากล่าวพลางยิ้มกริ่ม

“ร่มเป็นของเล่นอันโปรดตั้งแต่ผมยังเด็กๆ ผมรู้สึกหลงใหลมัน จนแม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก” เขากล่าว ขณะนึกย้อนไปในอดีต ที่เขาเคยแกะร่มออกเป็นชิ้นๆ แล้วใช้ส่วนประกอบจากร่มสองคันมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นคันเดียวกัน

ถึงแม้เออร์โตลต์จะเพิ่งก่อตั้งกิจการขึ้นมาเมื่อปี 2008 แต่เครื่องมืออุปกรณ์บางอย่างของเขามีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี นอกจากนี้สถานที่ตั้งของร้านก็มีความพิเศษเช่นกัน เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณหนึ่งในซุ้มประตูอันงดงาม ที่สร้างขึ้นใต้สะพานรถไฟสายเก่าทางตะวันออกของกรุงปารีสตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของร้านค้าทันสมัยจำนวนมากที่ของช่างฝีมือที่มีความชำนิชำนาญ

“ร่มพวกนั้นทำในจีนทั้งหมด” เขาบอกขณะมองผู้คนที่เดินกางร่มผ่านหน้าร้านของเขาไปในวันฝนตก ในฤดูใบไม้ร่วง

“ที่นี่ เราทำทุกอย่างด้วยมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์” เออร์โตลต์ ผู้ซึ่งยังรับซ่อมร่ม และคิดค้นประดิษฐ์ร่มให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ด้วยกล่าว

ฌ็อง-อีฟส์ ธีแบรต์ หุ้นส่วนธุรกิจของเออร์โตลต์ เผยว่า ชาวออสเตรเลียและญี่ปุ่นเป็นพวก “บ้าร่มกันแดด” ขณะที่คนอเมริกัน และยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ออสเตรียและเยอรมนีนั้นจะนิยมร่มกันฝนมากกว่า

ร่มสำหรับสุภาพสตรีที่ถูกที่สุดนั้นมีราคา 250 ยูโร (ราว 10,836 บาท) โดยทำด้วยผ้าไหมและมีด้ามจับหุ้มหนัง

ส่วนร่มที่ถูกที่สุดสำหรับผู้ชายมีราคา 490 ยูโร (ราว 21,239 บาท) ซึ่งพวกเขาจะได้ร่มคันสวยงามสำหรับสุภาพบุรุษ ที่ทำด้วยผ้าไหมลายทแยง และมีด้ามจับทำจากไม้เมเปิล “คุณจะไม่พบร่มแบบนี้ที่ไหนอีกแล้ว” ธีแบรต์ยืนยัน

อย่างไรก็ตาม เออร์โตลต์ รู้สึกสิ้นหวังที่พบว่า คนสมัยนี้มีวัฒนธรรมชอบทิ้งของ

“ของใช้เริ่มมีราคาถูกลงเรื่อยๆ ของพวกนั้นไม่คงทน พังเสียหายง่าย และสร้างขึ้นมาแบบใช้แล้วทิ้ง แต่ร่มทีนี่ออกแบบมาให้ใช้ได้ยันรุ่นลูกรุ่นหลาน” เขาบอก

“ในช่วงทศวรรษ 1950 ไม่มีใครทำร่มหาย เพราะพวกเขาดูแลรักษามันอย่างดี” เขากล่าว และชี้ว่า “ทุกวันนี้เด็กสาวซื้อร่มคันละ 10 ยูโร พอทำมันพัง ก็ซื้อคันใหม่ที่มีราคา 10 ยูโรเหมือนเดิม แน่นอนว่าของแบบนี้ใช้ได้ไม่นานหรอก”

ที่ร้านเออร์โตลต์ พวกเขาทำในสิ่งที่ต่างออกไป พวกลูกค้าสามารถเลือกร่มแบบที่พวกเขาต้องการจริงๆ โดยสามารถเลือกด้ามจับ เนื้อผ้า ลวดลาย และไม้แบบที่ชอบ “นี่เป็นของใช้หรูหราอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่สินค้าระดับมาตรฐาน” ธีแบรต์เน้นย้ำ แล้วนำด้ามจับร่มโบราณที่กว้านซื้อมาจากทั่วฝรั่งเศสขึ้นมาโชว์ โดยมีอันหนึ่งทำด้วยงาช้างฝังมุก

นอกจากนี้ เออร์โตลต์ยังทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยเล่าสุดนี้เขาประดิษฐ์ร่มกันแดดให้กับเรื่องซินเดอเรลลา เวอร์ชันที่เคต บลองค์เชตต์แสดงนำ และภาพยนตร์ของวูดดี อัลเลน ซึ่งถ่ายทำในช่วงฤดูร้อนนี้ที่เฟรนช์ริเวียรา ของฝรั่งเศส

“ฝ่ายจัดเสื้อผ้าของภาพยนตร์ย้อนยุคมาหาผม พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะวิธีการทำร่มแบบดั้งเดิมสูญหายไปแล้ว” เออร์โตลต์ ผู้เริ่มงานอาชีพของเขา โดยเป็นผู้จัดหาและจัดทำเครื่องแต่งกายให้ภาพยนตร์เรื่องต่างๆ อีกทั้งทำงานให้โรงละครโอเปรา และเย็บเสื้อโคเซต (เสื้อรัดทรงสตรี) ให้กับแบรนด์คริสเตียนดิออร์กล่าว

เขาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศิลปินเอก (Maitre d’art) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ฝรั่งเศสมอบให้ช่างฝีมือที่มีความชำนาญระดับสูงเท่านั้น

“เป็นเกียรติสูงสุดที่ช่างฝีมือคนหนึ่งจะได้รับ” เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ อีกทั้งเสริมว่า “ผมมองว่านี่เป็นการมอบตำแหน่งที่มีเกียรติ”