“ยุทธศักดิ์” กอดเก้าอี้แน่น ลั่นไม่ลาออกจาก รมช.กลาโหม ชี้มีคนปล่อยข่าวหวังเสียงเก้าอี้แทน ขณะที่ “ประยุทธ์” ของขึ้น เฉ่งพวกไม่ใช่สมองยุทหารมีปัญหากับรัฐบาล จี้หยุดลากทหารเอี่ยว ยันไม่เต้นตาม บอกถ้าแก้ปัญหาด้วยสติปัญญาไม่ได้ก็อย่าเป็นคนไทย เตือนยังมัวทะเลาะกันเรื่องไม่จบ ฉะสื่อเขียนข่าวโยกย้ายมั่ว ยอมรับยังมีเด็กฝาก แต่จะไม่ตั้งคนห่วยๆ เข้ามา ส่วนที่เก่งไม่ต้องวิ่งเต้น ทำดีผงาดเอง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ภาคใต้ ถึงกระแสข่าวจะลาออกจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม ว่ายังไม่คิดเรื่องลาออก มีแต่คนคิดแทนและไปพูดเองกันหมด ตนยังมีงานสำคัญที่ต้องทำอีกมาก ละยังไม่ถึงเวลาจะลาออก ส่วนข่าวที่ออกมาเพราะมีคนปล่อยข่าว และหวังเสียบตำแหน่ง รมช.กลาโหมแทน ทั้งนี้ คิดว่าอาจจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะตนประกาศลาออกจากประธานคณะกรรมการโอลิมปิกปลายปีหน้าก่อนครบวาระ เพราะเป็นมา 4 สมัยแล้ว ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ช่วยงานด้านความมั่นคงในคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) และได้รับมอบหมายให้ประชุม รมว.กลาโหมอาเซียนที่ประเทศบรูไนแทนในสัปดาห์หน้า รมว.กลาโหมจะมาประชุมสภากลาโหมอีกครั้งในวันที่ 30 ส.ค.นี้ โดยการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารจะมีการหารือและน่าจะเสร็จเรียบร้อยวันที่ 10 ก.ย.นี้
พล.ท.ดิฏฐพร ศศะสมิต หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รมช.กลาโหม กล่าวยืนยันว่า ข่าวการลาออกจากตำแหน่งของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นข่าวปล่อย ท่านไม่ตอบโต้ให้เป็นประเด็น ไม่มีอะไรให้ติดตาม ข่าวลือก็คือข่าวลือ ใครอยากปล่อยก็ปล่อยไป แล้วค่อยมาดูกันว่าลาออกหรือไม่ ส่วนกระแสข่าวที่จะลาออกภายใน 2 เดือนนั้น คงไม่ใช่เวลานี้ ท่านขอทำหน้าที่ตามที่ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ในกลุ่มงานด้านความมั่นคงของ กปต. ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก่อน
“หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ท่านก็หัวเราะ ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งท่านมองว่าเป็นความพยายามสร้างข่าวดิสเครดิต หวังจะเลื่อยเก้าอี้เพื่อเสียบแทน ท่านคงไม่แสดงปฏิกริยาตอบโต้ เพราะยืนยันที่จะฟังนายกฯ คนเดียว แต่ยอมรับว่าท่านอึดอัดและต้องทนกับเรื่องต่างๆ เพราะคนปล่อยข่าวหวังจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ หวังเสียบเก้าอี้แทน ส่วนความสัมพันธ์กับ ผบ.เหล่าทัพยังเหมือนเดิม รู้จักกันมานานคุ้นเคยกันดี เรื่องคลิปถือเป็นเรื่องเล็กน้อย”
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ข่าวการลาออกให้ไปถาม พล.อ.ยุทธศักดิ์เอง เพราะตนไม่สามารถตอบแทนได้ โดยวันนี้ (19 ส.ค.) ท่านก็เดินทางร่วมคณะไปด้วยในฐานะที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.จชต.) และต้องไปติดตามความก้าวหน้าของงานด้านต่างๆ
ส่วนที่มองกันว่าจะมีปัญหาในการทำงานนั้น ตนอยากถามกลับว่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็ยังไปทำงานด้วยกัน ทั้งนี้สถานการณ์ขัดแย้งในปัจจุบันทุกเรื่องต้องใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา ถ้ายังพูดให้ทะเลาะกันมากขึ้นปัญหาก็ไม่จบ ไม่มีใครที่ทำลายประเทศไทย นอกจากคนไทยด้วยกัน ถ้าแก้ไขปัญหาโดยไม่ใช้สติปัญญา และกฎหมายก็ไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ ปัจจุบันข้าราชการประจำทำหน้าที่กันอยู่ แต่ยังพยายามทำให้ข้าราชการประจำมีความขัดแย้ง แตกแยกกันทุกระบบ ซึ่งการจะแก้ปัญหาหรือแสดงความคิดเห็นทำได้ทุกคน แต่ไม่ใช่จะออกไปทำอะไรก็ทำได้ หรือนึกว่า จะต้องให้ออกไปข้างถนนก็ต้องออก เมื่อตนไม่ออกก็ด่า ซึ่งมันไม่ถูก
“จำคำพูดไว้ว่า ถ้าแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญากันไม่ได้ก็อย่าอยู่กันเลย ใช้สมองไม่เป็นก็อย่าอยู่กัน ใช้กฎหมายไม่ได้ก็อย่าเป็นคนไทยเลย ไปเป็นโจรป่าห้าร้อยกัน อยากเป็นก็เป็นไป แต่ผมคงเป็นไม่ได้ เพราะยังต้องปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา 2 แสนกว่าคน ต้องทำงานในกรอบรัฐธรรมนูญกรอบ ตามความรับผิดชอบหน้าที่ที่มีอยู่ หากท่านจะแก้ไขก็แก้ตามกระบวนการประชาธิปไตยของท่านไป แต่ต้องใช้สันติวิธี ไม่ขัดแย้งต่อกฎหมาย ที่ผ่านมามีบทเรียนมาแล้ว แต่ท่านก็อยากให้เกิดอีก ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้อย่าลากทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะทหารมีงานและหน้าที่ต้องทำ ไม่ได้หยุด ไม่ใช่มานั่งคอยมองว่าจะไปรบกับใคร ไปปฏิวัติกับใคร พอผมไม่พูด สงบปากคำ ก็หาว่าเป็นพวกนั้นพวกนี้ ยอมเขาไปแล้ว มันเป็นธรรมกับพวกผมหรือไม่ ที่ผมพูดไม่ได้แก้ตัว แต่พูดเพื่อกองทัพและประเทศชาติ ถ้าท่านไม่มีกองทัพ แล้วท่านจะรู้ว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร”
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปีว่า อยากให้เป็นเรื่องภายในกองทัพ อย่าไปตื่นเต้น เห็นเขียนกันไปเรื่อยเปื่อย พอไม่ใช่ก็ไม่เห็นมีใครขอโทษ กองทัพบกไม่ได้ทำงานแค่ 1-2 คน เรามีคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งประเทศไทยยังมีระบบเส้นสาย การฝากอยู่ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ดี ก็ไม่ได้ คงไม่มีใครตั้งคนห่วยๆ ขึ้นมาทำหน้าที่ปกครองกองทัพ ที่ต้องดูแลชีวิตคนและทรัพยากรของกองทัพ
“ถ้าตั้งคนไม่ได้เรื่องขึ้นมาก็ทำงานไม่ได้เรื่อง คนที่ได้เรื่องก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องมีใครช่วยเขาก็เติบโตได้ อย่าไปเขียนกันเรื่อยเปื่อย อย่าไปให้ความสนใจว่าจะแต่งตั้งใครหรือไม่แต่งตั้งใคร สื่อไม่ต้องไปพูดแทนใครทั้งสิ้น ยิ่งไปพูดแทนเขา คนที่พูดถึง ก็ยิ่งไม่ได้เป็น ไม่ต้องไปเชียร์เขา ยิ่งเชียร์ยิ่งไม่ได้เป็น ให้เขาโตของเขาเอง ด้วยความรู้ ความสามารถ ถ้าโตด้วยการวิ่งเต้น กองทัพ ประเทศชาติก็เสียหาย ถ้าคนไม่ได้เรื่องจะทำอะไรเป็น”
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ภาคใต้ ถึงกระแสข่าวจะลาออกจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม ว่ายังไม่คิดเรื่องลาออก มีแต่คนคิดแทนและไปพูดเองกันหมด ตนยังมีงานสำคัญที่ต้องทำอีกมาก ละยังไม่ถึงเวลาจะลาออก ส่วนข่าวที่ออกมาเพราะมีคนปล่อยข่าว และหวังเสียบตำแหน่ง รมช.กลาโหมแทน ทั้งนี้ คิดว่าอาจจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะตนประกาศลาออกจากประธานคณะกรรมการโอลิมปิกปลายปีหน้าก่อนครบวาระ เพราะเป็นมา 4 สมัยแล้ว ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ช่วยงานด้านความมั่นคงในคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) และได้รับมอบหมายให้ประชุม รมว.กลาโหมอาเซียนที่ประเทศบรูไนแทนในสัปดาห์หน้า รมว.กลาโหมจะมาประชุมสภากลาโหมอีกครั้งในวันที่ 30 ส.ค.นี้ โดยการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารจะมีการหารือและน่าจะเสร็จเรียบร้อยวันที่ 10 ก.ย.นี้
พล.ท.ดิฏฐพร ศศะสมิต หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รมช.กลาโหม กล่าวยืนยันว่า ข่าวการลาออกจากตำแหน่งของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นข่าวปล่อย ท่านไม่ตอบโต้ให้เป็นประเด็น ไม่มีอะไรให้ติดตาม ข่าวลือก็คือข่าวลือ ใครอยากปล่อยก็ปล่อยไป แล้วค่อยมาดูกันว่าลาออกหรือไม่ ส่วนกระแสข่าวที่จะลาออกภายใน 2 เดือนนั้น คงไม่ใช่เวลานี้ ท่านขอทำหน้าที่ตามที่ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ในกลุ่มงานด้านความมั่นคงของ กปต. ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก่อน
“หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ท่านก็หัวเราะ ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งท่านมองว่าเป็นความพยายามสร้างข่าวดิสเครดิต หวังจะเลื่อยเก้าอี้เพื่อเสียบแทน ท่านคงไม่แสดงปฏิกริยาตอบโต้ เพราะยืนยันที่จะฟังนายกฯ คนเดียว แต่ยอมรับว่าท่านอึดอัดและต้องทนกับเรื่องต่างๆ เพราะคนปล่อยข่าวหวังจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ หวังเสียบเก้าอี้แทน ส่วนความสัมพันธ์กับ ผบ.เหล่าทัพยังเหมือนเดิม รู้จักกันมานานคุ้นเคยกันดี เรื่องคลิปถือเป็นเรื่องเล็กน้อย”
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ข่าวการลาออกให้ไปถาม พล.อ.ยุทธศักดิ์เอง เพราะตนไม่สามารถตอบแทนได้ โดยวันนี้ (19 ส.ค.) ท่านก็เดินทางร่วมคณะไปด้วยในฐานะที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.จชต.) และต้องไปติดตามความก้าวหน้าของงานด้านต่างๆ
ส่วนที่มองกันว่าจะมีปัญหาในการทำงานนั้น ตนอยากถามกลับว่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็ยังไปทำงานด้วยกัน ทั้งนี้สถานการณ์ขัดแย้งในปัจจุบันทุกเรื่องต้องใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา ถ้ายังพูดให้ทะเลาะกันมากขึ้นปัญหาก็ไม่จบ ไม่มีใครที่ทำลายประเทศไทย นอกจากคนไทยด้วยกัน ถ้าแก้ไขปัญหาโดยไม่ใช้สติปัญญา และกฎหมายก็ไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ ปัจจุบันข้าราชการประจำทำหน้าที่กันอยู่ แต่ยังพยายามทำให้ข้าราชการประจำมีความขัดแย้ง แตกแยกกันทุกระบบ ซึ่งการจะแก้ปัญหาหรือแสดงความคิดเห็นทำได้ทุกคน แต่ไม่ใช่จะออกไปทำอะไรก็ทำได้ หรือนึกว่า จะต้องให้ออกไปข้างถนนก็ต้องออก เมื่อตนไม่ออกก็ด่า ซึ่งมันไม่ถูก
“จำคำพูดไว้ว่า ถ้าแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญากันไม่ได้ก็อย่าอยู่กันเลย ใช้สมองไม่เป็นก็อย่าอยู่กัน ใช้กฎหมายไม่ได้ก็อย่าเป็นคนไทยเลย ไปเป็นโจรป่าห้าร้อยกัน อยากเป็นก็เป็นไป แต่ผมคงเป็นไม่ได้ เพราะยังต้องปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา 2 แสนกว่าคน ต้องทำงานในกรอบรัฐธรรมนูญกรอบ ตามความรับผิดชอบหน้าที่ที่มีอยู่ หากท่านจะแก้ไขก็แก้ตามกระบวนการประชาธิปไตยของท่านไป แต่ต้องใช้สันติวิธี ไม่ขัดแย้งต่อกฎหมาย ที่ผ่านมามีบทเรียนมาแล้ว แต่ท่านก็อยากให้เกิดอีก ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้อย่าลากทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะทหารมีงานและหน้าที่ต้องทำ ไม่ได้หยุด ไม่ใช่มานั่งคอยมองว่าจะไปรบกับใคร ไปปฏิวัติกับใคร พอผมไม่พูด สงบปากคำ ก็หาว่าเป็นพวกนั้นพวกนี้ ยอมเขาไปแล้ว มันเป็นธรรมกับพวกผมหรือไม่ ที่ผมพูดไม่ได้แก้ตัว แต่พูดเพื่อกองทัพและประเทศชาติ ถ้าท่านไม่มีกองทัพ แล้วท่านจะรู้ว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร”
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปีว่า อยากให้เป็นเรื่องภายในกองทัพ อย่าไปตื่นเต้น เห็นเขียนกันไปเรื่อยเปื่อย พอไม่ใช่ก็ไม่เห็นมีใครขอโทษ กองทัพบกไม่ได้ทำงานแค่ 1-2 คน เรามีคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งประเทศไทยยังมีระบบเส้นสาย การฝากอยู่ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ดี ก็ไม่ได้ คงไม่มีใครตั้งคนห่วยๆ ขึ้นมาทำหน้าที่ปกครองกองทัพ ที่ต้องดูแลชีวิตคนและทรัพยากรของกองทัพ
“ถ้าตั้งคนไม่ได้เรื่องขึ้นมาก็ทำงานไม่ได้เรื่อง คนที่ได้เรื่องก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องมีใครช่วยเขาก็เติบโตได้ อย่าไปเขียนกันเรื่อยเปื่อย อย่าไปให้ความสนใจว่าจะแต่งตั้งใครหรือไม่แต่งตั้งใคร สื่อไม่ต้องไปพูดแทนใครทั้งสิ้น ยิ่งไปพูดแทนเขา คนที่พูดถึง ก็ยิ่งไม่ได้เป็น ไม่ต้องไปเชียร์เขา ยิ่งเชียร์ยิ่งไม่ได้เป็น ให้เขาโตของเขาเอง ด้วยความรู้ ความสามารถ ถ้าโตด้วยการวิ่งเต้น กองทัพ ประเทศชาติก็เสียหาย ถ้าคนไม่ได้เรื่องจะทำอะไรเป็น”