“เทือก” เมินข้อเสนอ “สนธิ” อ้างจำเป็นต้องสู้ในสภา แย้มสเต็ปปลุกม็อบ-ค้านนิรโทษ

“สุเทพ” เผยแผนเผด็จศึก ตั้งเวทีถี่ แย้มนัดประชาชนหยุดงาน ปฏิเสธอำนาจรัฐ ไม่ซื้อสินค้าพวกแดง ระบุสู้นิรโทษในสภาคู่ขนาน บอกถ้าผ่านค่อยกล่อมวุฒิสภา ถ้าไม่ได้ก็ยื่นศาล รธน. บอกสภาปฏิรูปถ้าไม่ถอนร่างปล่อยคนคุกก็ไม่คุย ย้ำพวก “แม้ว” โทร.ชวนร่วมตลอด ยันยังไม่คิดล้มรัฐบาล แต่ถ้านิติรัฐถูกทำลายโดยสมบูรณ์ค่อยลุกขึ้น เมินข้อเสนอ “สนธิ” บอกจำเป็นต้องสู้ในสภา อ้างถ้าออกพิจารณารวดเดียวจบ แถมยังมีอีกรายกฎหมายที่ต้องซัก ปัดแตกหักกับใคร เชื่อรัฐไปก่อน ต.ค.

วันนี้ (19 ส.ค.) หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้ตีพิมพ์รายงานพิเศษสัมภาษณ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในหัวข้อ “ไม่รับเงื่อนไข พธม.ถอดสูทสู้แบบอารยชน” โดยระบุถึงการเคลื่อนไหวต่อกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า การเคลื่อนไหวรอบนี้ไม่ใช่การต่อสู้ที่ทำให้บ้านเมืองย่อยยับเหมือนกับคนเสื้อแดงที่ได้ทำในปี 52-53 ซึ่งจากนี้จะค่อยๆ คิดไป อาจมีการชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด พร้อมๆ กัน อาจจะนัดหยุดงานทั้งประเทศ ปฏิเสธการใช้อำนาจรัฐ ปฏิเสธสินค้าบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของรัฐบาล และจากนี้ไปจะจัดเวทีผ่าความจริงทั่วทุกเขตในกรุงเทพมหานคร ก่อนจะถึงวาระ 3 ของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และหากคราวหน้าเขาประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง ทั้งกรุงเทพมหานคร เราก็ชุมนุมจังหวัดใกล้เคียงที่ศาลากลาง แต่ถ้าประกาศทั้งประเทศ ก็ค่อยคิดกันว่าจะทำอย่างไร

นายสุเทพ ยังระบุถึงสาเหตุที่ทำไมต้องรอให้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมพิจารณาจนถึงวาระ 3 ว่า ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ดังนั้นจะตั้งเวทีถี่ขึ้น เราต้องให้เวลาให้สถานการณ์สุกงอม ตนได้ประกาศว่า ถ้าถึงเวลาพ่ายแพ้ ในวาระ 3 ก็จะเป่านกหวีด หมายความจะยกระดับการเคลื่อนไหวที่แข็งแรงยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันในสภาเราก็จะต่อสู้คู่ขนานไปด้วย ไปคุยกับวุฒิสมาชิกให้รับฟังความเห็นเหตุผลที่พรรคคัดค้าน ถ้าวุฒิสภาเขาแก้ไขกลับมาที่สภาฯ เราก็สู้ต่อ ถ้าผ่านไปโดยที่เราแก้ไขอะไรไม่ได้ เราก็ไปสู้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในอีกด้านเราก็จะเริ่มขยับขยายกำลังมวลชนก็คิดยกระดับการต่อสู้ไป ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะนัดหยุดงานหรือไม่ฟังคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งพรรคประเมินแล้วระยะเวลาที่กฎหมายไปถึงวุฒิสภากับเวลาที่เราเตรียมตัว เตรียมมวลชน คงใช้เวลาพอกันๆ

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการร่วมสภาปฏิรูปของรัฐบาลว่า ตนจะไม่เข้าไปร่วมการปฏิรูปจอมปลอมนี้ ของนายกรัฐมนตรี อย่างแน่นอน เพราะไม่มีความเชื่อไม่มีความศรัทธา ตนเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า นายกฯ และคนในรัฐบาลนี้ไม่มีความจริงใจที่จะปฏิรูปประเทศ ตนจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้กับคนกลุ่มนี้

“ที่ผ่านมาไม่เคยคิดล้มรัฐบาลเลย เพียงแต่ออกมาต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม แต่นายกฯ ยิ่งลักษณ์พูดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า พวกเราต้องการล้มรัฐบาลเพื่อต้องการเป็นรัฐบาล ทนเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ เป็นการพูดที่เกินไป เป็นการกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง ที่ทำมาทั้งหมดไม่ต้องการเป็นรัฐบาล ถ้าต้องการเป็นรัฐบาลก็ตอบรับคำเชิญของคุณแล้ว ทั้งคุณและพี่ชายคุณ เชิญเราอยู่ตลอดเวลา บอกเป็นคนๆ ก็ได้ว่ามีใครบ้างที่ติดต่อมาและมาคุยอะไรกัน เราปฏิเสธไปแล้วว่าไม่สามารถไปให้ความร่วมมือ หรือสนับสนุนระบอบทักษิณได้ เราคำนึงถึงความสวยงามของประชาธิปไตย ที่มีทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ถ้าไปทิ้งการทำหน้าที่ไปรับใช้ระบอบทักษิณก็เป็นการทรยศประชาชน” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ต้องการล้มรัฐบาล ยังไม่คิดล้มรัฐบาล ถ้าคิดล้มรัฐบาลก็ต้องพบความชัดเจนแล้วในการกระทำของรัฐบาลในการทำลายนิติรัฐนิติธรรมสำเร็จสมบูรณ์แล้วถึงเวลาเราก็ลุกขึ้นประกาศล้มรัฐบาลก็ตอนนั้น ถ้าในขั้นตอนแปรญัตติว่านิรโทษกรรมให้ประชาชนที่เดินตามมาก็ยุติ แต่ถ้ายังคงร่างไว้เหมือนเดิมหรือแปรเรื่องอื่นเพิ่มเข้ามาก็ต้องเจอกัน

ส่วนข้อเรียกร้องของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ลาออกมาร่วมต่อสู้นั้น สุเทพ กล่าวว่า วิถีทางในการต่อสู้เป็นทางเลือกของแต่ละกลุ่ม แต่ละขบวนการ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ใครจะมากะเกณฑ์ว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คงไปบังคับใครกันไม่ได้ วันนี้มี 11-12 กลุ่มที่ลุกขึ้นมาที่จะล้มระบอบทักษิณ แต่ละกลุ่มก็มีแนวทางของตัวเอง ซึ่งพรรคเคารพแนวทางของแต่ละกลุ่ม ไม่เข้าไปแทรกแซง หรือเข้าไปก้าวก่าย พรรคก็มีแนวทางของตัวเอง แม้แต่คนในพรรคเมื่อถึงสถานการณ์จริงๆ ก็ต้องพิจารณาว่า แต่ละคนจะแสดงบทบาทอย่างไร เราไม่พูดจาแทนคนทั้งพรรค ไม่พูดจาอะไรล่วงหน้า ให้การกระทำพิสูจน์ด้วยตัวเอง เราจะทำตามที่เราเห็นสมควร ตามช่วงเวลาที่เห็นว่าเหมาะสม เรารับฟังคนที่วิพากษ์วิจารณ์ เราเปิดกว้างแต่เราก็ต้องฟังมวลชนของเรา ประชาชนของเราว่าคิดอย่างไรด้วย

“เราจำเป็นต้องสู้ในสภา เรามีน้อยอยู่แล้ว ถ้าลาออกมาก็จบ เขาพิจารณา 3 วาระรวดได้เลย และโดยข้อเท็จจริงในสภายังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่ต้องต่อสู้กัน เช่น กฎหมายกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนจะเคลื่อนไหวอย่างไรเราก็ค่อยๆ ปรึกษากันไป ยังไม่แตกหักกับฝ่ายใดทั้งสิ้น เราเคลื่อนไหวเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นไม่เปลี่ยน ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสำคัญ เรื่องของพรรคยังเป็นเรื่องรอง” นายสุเทพ กล่าว

นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังประเมินสถานการณ์ด้วยว่า ตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้ แต่จะไปก่อนเดือน ต.ค.ตามที่หมอดูทำนายหรือไม่ยังไม่รู้ แต่เมื่อประชาชนมวลชนทั้งหลายตื่นตัวลุกขึ้นมาเป็นจำนวนมากในประเทศ เชื่อว่ารัฐบาลอยู่ไม่ได้อับอายขายหน้าแน่นอน