“ธีรัตถ์” เผยเวทีปาหี่เริ่ม 2 ก.ย. ยิงสด อดีตผู้นำอังกฤษ-ฟินแลนด์แจม ครม.สัญจรครั้งหน้าลพบุรี 19-20 ก.ย. ลงพื้นที่ 4 จว. ให้ “ยุทธศักดิ์” ช่วยรับผิดชอบเหตุทหารแยะ รับ นายกฯ สั่ง กต.ดูแลคนไทยถูกจับในไนจีเรีย งดวีซ่า 3 ชาติ สั่งตั้งกองทุนกู้เกาะเสม็ด เพิ่มค่าครองชีพอัยการ แจง “ปลอด” ชี้น้ำไม่ต่างปีก่อน พายุอูตอร์กระทบไม่มาก “วราเทพ” คาดถก พ.ร.บ.งบฯ 3 วัน
วันนี้ (13 ส.ค.) ทื่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การเชิญบุคคลระดับผู้นำต่างประเทศ บุคคลที่มีชื่อเสียง เข้าร่วมปาฐกถาพิเศษภายใต้ Uniting for the future : Learning from each other's experiences โดยกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสถาบันเทวะวงศ์วโรปการ ร่วมกับสถาบันความมั่นคงและนานชาติศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการหลัก เพื่อถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ บทเรียนและแนวปฏิบัติที่ดีในการสร้างความปรองดอง มาถ่ายทอดให้ประชาชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยได้รับทราบ เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในสังคมไทย โดยเชิญทุกภาคส่วนของไทย ประมาณ 300 คน ทั้งตัวแทนภาครัฐ กลไกภายใต้รัฐธรรมนูญ ภาคเอกชน ภาควิชาการ โดยงานจัดให้มีขึ้นในวันที่ 2 ก.ย.
นายธีรัตถ์กล่าวว่าโดยช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวเปิดงาน จากนั้นจะเป็นการปาฐกถาจากวิทยากรระดับสูง ได้แก่ นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นายมาร์ตี อาห์ติชารี อดีตประธานาธิบดีฟินแลนด์ นางพริซิลลา เฮย์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านและที่ปรึกษาอาวุโสขององค์กร Center for Humanitarian DIALOGUE (HDC) โดยจะถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ จากนั้นในช่วงบ่าย เป็นการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ได้แก่นายไมเคิล วาทิคิโอทิส ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของ HDC นายเคนท์ ฮาร์สเต็ดท์ สมาชิกรัฐสภาสวีเดน นายเยนส์ ออร์บัค เลขาธิการ Olof Palme Intermational Centre ซึ่งเป็นสถาบันด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสันติภาพของสวีเดน ศาสตราจารย์สตีเฟน สเตทแมน อดีตผู้อำนวยการ Global Commission on Elections,Democracy and Security
พร้อมด้วย นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมและอดีตกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขานุการคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) โดยมีนายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันความมั่นคงและนานาชาติศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดเสียงทางวิทยุภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากนั้น จะได้เปิดโอกาสให้องค์ปาฐกถาและผู้เชี่ยวชาญได้พูดคุยกับภาคส่วนกลุ่มต่างๆ
นาลธีรัตถ์แถลงต่อว่า ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีการแจ้งในประชุมซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ถึงการประชุม ครม.สัญจรในครั้งต่อไปโดยจะจัดขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ จ.ลพบุรี ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นพื้นที่ 4 จังหวัดประกอบด้วย จ.ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท และได้มีการมอบหมายให้นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะเขตพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีทหารอยู่มาก ทั้งนี้ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการเสนอให้พัฒนาพื้นที่เขตทหารใน จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย ซึ่งจะให้มีการเสนอในที่ประชุมครม.เพื่อมีการพิจารณาต่อไป
นายธีรัตถ์กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สั่งใหนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ให้ดูแลคนไทยที่ถูกจับกุมตัวที่ประเทศไนจีเรีย ซึ่งขณะนี้ผู้ที่จับกุมได้ติดต่อมาแล้วและทราบว่ายังไม่ถูกทำร้าย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไป
นายธีรัตถ์กล่าวอีกถึงการพิจารณาการงดเว้นการตรวจลงตราวีซ่าข้าราชการและหนังสือเดินทางทางการทูตด้วยว่า ที่ประชุมได้พิจารณางดเว้นใน 3 ประเทศประกอบด้วย ประเทศทาจิกิสถาน ปากีสถาน และไนจีเรีย โดยเฉพาะประเทศทาจิกิสถาน และปากีสถานที่ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางเยือนในวันที่ 19-21 ส.ค. ดังนั้นในการประชุม ครม.วันที่ 20 ส.ค.จึงมีการมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม เนื่องจาก นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางร่วมกับนายกรัฐมนตรีด้วย
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยนั้น นายธีรัตถ์เปิดเผยว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานในที่ประชุม ครม.ว่า จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายให้ข้อมูลที่ตรงกัน และมีการรายงานทุกวัน และมีการกำหนดเส้นตายในการรายงานข้อมูลที่เกี่ยวกับน้ำในการนำเสนอข้อมูลที่ตรงกันในทุกวัน ในช่วงเวลาก่อน 16.00 น.ทุกวัน แต่ขณะนี้ย้ำว่าข้อมูลเรื่องน้ำไม่ต่างจากปี 2555 ส่วนผลจากพายุอูตอร์ ซึ่งเป็นพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาในประเทศไทยไม่น่าจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก อาจจะมีฝนตกบ้าง และที่มีรายงานว่ามีพื้นที่น้ำท่วมนั้น ส่วนใหญ่เป็นน้ำที่ไหลบ่าเข้ามาซึ่งจะแห้งภายใน 3 วัน และน้ำไม่ท่วมขัง
นายธีรัตถ์กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งเพิ่มเติมที่อยากให้มีการให้ข้อมูลทางเทคนิคกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการใช้ข้อมูลทางแรงงาน ซึ่ง กบอ.จะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลทางภาพรวม ส่วนข้อมูลทางเทคนิคจะเป็นข้อมูลที่ผู้ว่าฯหรือนายอำเภอจะเป็นผู้ที่รายงานข้อมูลให้กับประชาชนในท้องถิ่น รวมถึงการแจ้งเตือนให้เข้าใจว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้ให้ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลในพื้นที่ที่มีจุดเสี่ยง เช่น จ.เชียงราย ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ศีรษะเกษ และอุบลราชธานี
ทั้งนี้ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานในที่ประชุมครม.ถึงการประชุมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2557 ว่า จะเริ่มประชุมในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) เวลา 09.30 น. คาดว่าอาจจะใช้เวลาในการประชุมเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งอาจจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะให้ข้อมูล และไม่มีการตั้งกระทู้ถามสด
ส่วนมาตรการกู้ภาพลักษณ์ของเกาะเสม็ด หลังเกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วลงทะเลนั้น นายธีรัตถ์กล่าวว่า นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า จำเป็นต้องมีการสร้างกองทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานแจ้งให้ทาง ปตท. และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจัดตั้งกองทุนขึ้นมา ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็พร้อมที่นำข้อมูลดังกล่าวไปสร้างความเชื่อมั่นเพราะเห็นว่า กองทุนที่จะตั้งขึ้นมาจะสามารถตอบแทนกับพื้นที่ได้
นายธีรัตถ์เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยังได้อนุมัติการใช้เงินงบกลางเพื่อเบิกจ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการอัยการ ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสูด รองอัยการจังหวัด อัยการประจำกอง อัยการจังหวัดผู้ช่วย และอัยการผู้ช่วย จำนวนทั้งสิ้น 144 ล้านบาท ตามที่ สำนักงานอัยการสูงสุด เสนอ โดยจะอนุมัติย้อนหลังไปถึงวันที่ 1 ม.ค.55 เนื่องจาก ครม.ได้เพิ่มข้าครองชีพชั่วคราวข้าราชการตุลาการ และดะโต๊ะยุติธรรม ตามระเบียนคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เมื่อทางฝ่ายตุลาการได้รับเงินเพิ่ม ทางอัยการเลยขอเข้ามาบ้าง