ปากปรองดอง? “สุรนันทน์” ซัดพวกขวางปาหี่ปฏิรูปอยากเป็นกบในกะลา

เลขานายกฯ เหวี่ยงใส่ ปชป.อ้างรัฐอยากปรองดอง แต่ฝ่ายค้านขวางไปหมด ถามกลับจะให้เป็นกบในกะลาหรือไง โวยยื่นจดหมายสถานทูต-ผู้นำ อย่าบิดเบือนไปจากรัฐบาล

วันนี้ (12 ส.ค.) นายสุรนนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐบาลเล่นป่าหี่ทางการเมือง ทาบทามนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองทางออกประเทศไทย ผ่านโครงการ Uniting for the future: Learning from each other's experiences ว่า รัฐบาลตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้ารับตำแหน่ง ดำเนินการสร้างความปรองดองมาอย่างต่อเนื่อง ข้อแนะนำต่างๆ รัฐบาลให้ความสำคัญทุกข้อแนะนำทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ฝ่ายเดียว บางข้อแนะนำอะไรที่ทำได้ก็ทำ บางข้อก็ต้องไปพูดคุยกันก่อน ในครั้งนี้รัฐบาลเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลจะทำสภาผู้แทนราษฎรมีส่วนสำคัญในการสร้างความปรองดอง และเมื่อมีการบอกว่าเวทีสภาอาจทำให้ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ก็พร้อมเปิดเวทีในการถกเถียงพูดคุยกัน ดำเนินการโดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ มีแนวคิดที่จะทำเวทีเสวนานานาชาติ เชิญบุคคลต่างๆ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็น ความขัดแย้งทางการเมือง ประชาธิปไตย การปรองดอง เพื่อคนไทยได้เรียนรู้และนำบทเรียนเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ดังนั้น เจตนารัฐบาลชัดเจนในการสร้างความปรองดอง แต่ฝ่ายค้านไม่ว่าจะเวทีไหนค้านไปหมด ในเวทีสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่ทำให้ก้าวไปสู่ความปรองดอง เหมือนต้องการทำลายกระบวนการสร้างความปรองดอง และทำลายกระบวนการเรียนรู้จากต่างประเทศ ไม่รู้ว่าพรรคฝ่ายค้านต้องการอะไร หรือต้องการให้คนไทยเป็นกบในกะลา เพื่อที่จะติดกับในวังวนความขัดแย้งที่พรรคฝ่ายค้านได้ประโยชน์ในการแสวงการกลับมามีอำนาจ ไปร่วมใช้เวทีบนท้องถนนสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งรอบใหม่ วันนี้อยากเรียนร้องพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบ หากเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้

ส่วนที่พรรคประชาธิปตย์จะทำจดหมายยื่นไปยังสถานทูตและผู้นำต่างๆ เพื่อชี้แจงข้อมูลอีกด้านนั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่าถ้าเกิดพรรคประชาธิปัตย์ให้ข้อคิดที่เป็นเหตุเป็นผล รัฐบาลก็มีกระบวนการชี้แจง แต่พรรคประชาธิปัตย์อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็สร้างความเสียหายให้กับประเทศไปรอบหนึ่งแล้ว ด้วยการส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปประจานกระบวนประชาธิปไตยของประเทศในทางเสียหายทั่วโลก วันนี้จะมาทำจดหมายถึงต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศคงรับฟังตามหลักประชาธิปไตย รัฐบาลคงไปห้ามอะไรไม่ได้ และยืนยันไม่ได้เป็นการเดินเกมคู่ขนานกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในสภา แต่ทุกอย่างเป็นกลไกที่รัฐบาลเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องไปสู่ความสงบสุขที่แท้จริง ทุกกลไกรัฐบาลผ่อนผัน พยายามใช้เหตุใช้ผลมาตลอด เมื่อมาถึงจุดที่จำเป็นมันก็ต้องช่วยกันผลักดัน