โฆษกเพื่อไทยตีฝีปากเช่นเคย “เด็จพี่” เผยนายกฯ วุฒิภาวะเหมาะสม เลิก พ.ร.บ.มั่นคงก่อนกำหนด วอน ปชป.หัดเจียมตัว เสียงส่วนใหญ่ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษ อย่าเอามาล้มรัฐบาล “อดีตดีเจแดง” เย้ยม็อบส่ง ส.ส.ไม่ถึงหมื่น แนะซ้อมไว้เผื่อเข้าคุก แนะปาหี่ปฏิรูปด้วยกัน ป้อง “จ่าประสิทธิ์” ชูรองเท้า ฝ่ายค้านก็เคยป่วน
วันนี้ (9 ส.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก่อนกำหนด สะท้อนถึงวุฒิภาวะที่เหมาะสม ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เท่าที่จำเป็น ไม่ลุแก่อำนาจ ใช้เพื่อดูแลสถานการณ์ให้สงบเรียบร้อย ป้องกันความวุ่นวาย และมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ไม่กระทบภาพลักษณ์การลงทุน แต่กลับทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่านายกฯ หนีการประชุมสภาไม่มาร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ยืนยันว่า นายกฯ ให้ความสนใจ โดยวันที่ 7 ส.ค.นายกฯ ได้เดินทางมาที่สภา จากนั้นก็ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้นำฝ่ายบริหาร ตามที่วางกำหนดการไว้ก่อนหน้านี้ ตนไม่อยากให้ฝ่ายค้านหาเรื่อง หรือโยนบาปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อหวังผลทางการเมือง เพราะจะเข้าลักษณะขี้แพ้ชวนตี
“วันนี้เมื่อเสียงส่วนใหญ่ของสภามีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ก็อยากให้เปิดใจรับฟังบ้าง จะค้านก็ควรเป็นไปด้วยเหตุด้วยผล ถ้าใจกว้างพิจารณาดูเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้วจะเห็นว่า ส.ส.กำลังหาทางช่วยเหลือประชาชนผู้เป็นเหยื่อทางการเมืองด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากยังติดใจสงสัยก็ไปว่ากันในชั้นของกรรมาธิการได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขอร้องพรรคประชาธิปัตย์อย่ามุ่งแต่เอาปมเงื่อนของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นี้ มาล้มรัฐบาล โดยไม่มีหลักยึด” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ ส.ส.ทุกคนที่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เชื่อว่าประชาชนที่ได้ติดตามคงจะได้เห็นว่า ส.ส.ของท่านทำอะไรบ้าง ใครที่พยายามทำเพื่อประชาชน พยายามปลดล็อกความขัดแย้ง หรือใครที่พยายามถ่วงความปรองดองของชาติ และเติมเชื้อไฟขัดแย้งให้คุกรุ่นตลอดเวลา การพยายามค้านอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าแม้แต่กองเชียร์ของพรรคประชาธิปัตย์เองหลายคนก็ทนดูไม่ได้ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากไปอยู่ในจุดที่ตกต่ำไปกว่านี้ กลับตัวกลับใจวันนี้ก็ยังถือว่าไม่สายเกินไป ควรหันหน้ามาขับเคลื่อนกระบวนการปรองดองไปด้วยกัน
ซึ่งเบื้องต้นยินดีที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมในชั้นกรรมาธิการ แม้จะดูรายชื่อแต่ละคนต้องยอมรับว่าเหนื่อยหนักแน่ แต่ก็ถือว่าให้ความร่วมมือ ไม่ตีรวนเหมือนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หวังว่ากระบวนการสภาปฏิรูปการเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ควรจะเข้าร่วมเช่นกัน อย่าทำให้ประชาชนที่เดินมาส่งต้องผิดหวัง เพราะถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญที่บุคคลระดับอดีตนายกรัฐมนตรีถึง 2 คน ลงมาปลุกม็อบข้างถนนนำเดินด้วยตัวเองยังได้มวลชนไม่ถึงหมื่น ดีที่ครั้งนี้เดินกันไม่ไกลมาก ก็ขอให้ทุกคนซ้อมไว้ เผื่ออนาคตต้องเดินไปส่งกันที่เรือนจำ เพราะคดีความต่างๆ ก็รุกคืบใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณีมีข้อเรียกร้องให้เอาผิดกับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยการชูรองเท้าระหว่างการประชุมสภา ว่า แม้การกระทำดังกล่าวจะไม่เหมาะสม แต่ก็ถือเป็นพฤติการณ์ส่วนตัวของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าคิดทำคนเดียว ไม่มีใครมีส่วนร่วม แต่ต้องไม่ลืมว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมระหว่างการประชุมสภา ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ หากเรียกร้องให้เอาผิด ทำไมถึงไม่ไปดูการกระทำของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บ้าง ทั้งการส่งเสียง โห่ ฮา ตะโกน โหวกเหวก ซึ่งน่าจะเป็นการวางแผนการมาป่วนอย่างเป็นระบบ หรือเรียกว่าป่วนอย่างเป็นกระบวนการ จึงอยากให้ตั้งคำถามเอาผิดกันบ้าง ตนไม่สนับสนุนพฤติกรรมของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ แต่อยากเรียกร้องให้การเอาผิดนั้นควรเสมอภาคเท่าเทียมกันด้วย