ปธ.ส.ส.กทม.ปชป.อัดนายกฯ เชิญถกปฏิรูปการเมือง หวังดิสเครดิต ปชช.ต้านนิรโทษฯ ซัดใส่ร้ายโยงเห็นต่างไม่รับ ปชต.หวังปฏิวัติ เย้ยคนเขียนสคริปต์ทำเป็นตัวตลก ซัดอ้างปรองดองปล่อยสาวกโชว์กุ๊ย ชี้ไม่ถอนร่างปิดทางออกชาติ จี้ สขช.หาข่าวคน รบ.มุ่งทำร้ายปชช. ท้าจริงใจยิงสดล้างผิด อุบไต๋ยื่นศาล รธน. เผยไม่ได้กำชับพฤติกรรมในสภา จี้ ปธ.สภาฯเป็นกลาง รับฟังคำแนะ พธม. ไขก๊อก ส.ส.ลุย แต่ไม่ทำตามอารมณ์
วันนี้ (4 ส.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงข้อเสนอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่จะเชิญบุคคลต่างๆ มาพูดคุยในสภาปฏิรูปการเมือง เพื่อหาทางออกให้ประเทศ ว่าประชาชนหลายฝ่ายไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจเนื่องจากยื่นข้อเสนอนี้มาในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสม จึงมองว่าเป็นการเสนอเพื่อทำลายความชอบธรรมสร้างกระแสกลบการเคลื่อนไหวของประชาชนผู้ที่มาชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงหวังที่จะลดกระแสการต่อต้านและเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมให้หันมาสนใจหาทางออกของประเทศ อีกทั้งสาระที่นายกฯ เสนอมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายส่วน ทั้งกล่าวหาและชี้นำว่าผู้คัดค้านไม่ยอมรับประชาธิปไตยจะนำสู่ความรุนแรง นำสู่การปฏิวัติรัฐประหาร นอกจากนี้ นายกฯ และรัฐบาลยังมีพฤติกรรมพูดอย่างทำอย่าง บอกอยากเห็นความปรองดองในชาติ แต่ 2 ปีที่ผ่านมากลับปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงก่อกวนเวทีผ่าความจริงฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ และขัดขวางการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ
“อยากให้กุนซือผู้เขียนสคริปต์ให้นายกฯ อ่าน ไปทำการบ้านให้มากกว่านี้ เพราะทำให้นายกฯ กลายเป็นตัวตลกในสายตาประชาชน ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการปรองดองและหาทางออกประเทศ แต่การที่นายกฯ ไม่ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภาฯ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของสภาฯ เท่ากับเป็นการปิดทางออกประเทศด้วยน้ำมือของนายกฯ เอง อยากให้นายกฯ มีความจริงใจในการหาทางออกให้ประเทศ ไม่ใช่เป็นการสร้างภาพให้เห็นว่านายกฯ มีทางออกให้ประเทศแล้ว แต่เมื่อคนกลุ่มหนึ่งไม่สามารถเข้าร่วมหารือ นายกฯ ก็จะโยนบาปให้กับบุคคลที่ไม่เข้าร่วมหารือว่าเป็นอุปสรรคในการหาทางออกให้กับประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้นายกฯ ส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้มาชุมนุม ที่ทำตามกฎหมายและอยากให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ช่วยหาข่าวว่ามีบุคคล คณะบุคคลในรัฐบาลมุ่งสร้างเงื่อนไขต่อผู้ชุมนุม เพื่อใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม หวังสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมเพื่อเติมหรือไม่” นายองอาจกล่าว
นายองอาจยังเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงใจด้วยการถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ ในวันที่ 7 ส.ค.ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้คนไทยได้รับฟังเหตุผลของทุกฝ่าย ไม่เป็นการปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน และแสดงความจริงใจว่าไม่มีจุดประสงค์ที่จะปิดประตูตีแมวในการรวบรัดการประชุมด้วยการไม่ให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง และจะไม่พิจารณา 3 วาระรวด ทั้งนี้การที่วิปรัฐบาลกำหนดแปรญัตติในวาระ 2 เพียง 7 วัน ชี้ให้เห็นว่าตั้งใจจะพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว จึงไม่มั่นใจว่าในวันที่ 7 ส.ค.จะมีการพิจารณา 3 วาระรวดหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลเอง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าคัดค้านอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตีความกฎหมายนี้หรือไม่ เพราะต้องดูว่ากฎหมายนี้จะออกมาในลักษณะใด แต่กฎหมายฉบับนี้อาจไม่สามารถใช้บังคับได้เพราะมีข้อบกพร่องอยู่มาก
นายองอาจกล่าวอีกว่า พรรคไม่ได้กำชับไปยัง ส.ส.ว่า ควรจะมีพฤติกรรมในการประชุมสภาฯ อย่างไรหรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา มีเหตุผลและมีที่มาที่ไป และขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของประธานที่ควบคุมการประชุมสภาฯ หากมีการปิดกั้นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ไม่ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ถ้าไม่มีการจุดชนวนการประชุมก็คงเป็นไปอย่างเรียบร้อย จึงอยากให้ประธานที่ประชุม ทำหน้าที่ถูกต้องเหมาะสม อย่าทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อช่วยเหลือรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาได้
ส่วนที่กล่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ลาออกจาก ส.ส.เพื่อมาคัดค้านร่วมกับผู้ชุมนุมข้างถนนนั้น พรรครับฟังข้อเสนอของทุกฝ่าย แต่จะดูถึงความเหมาะสม ไม่ทำตามอารมณ์ความรู้สึก โดยเรายึดหลักดำเนินการตามกรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าจะไม่ทำให้เสียแนวร่วมในการคัดค้าน เพราะเชื่อว่าแนวร่วมจะเข้าใจจุดยืนของพรรค ทั้งนี้ ในการเปิดเวทีปราศรัยผ่าความจริงฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 5-6 ส.ค.นี้ จะมีการตั้งเวทีปราศรัยบริเวณใกล้ทางด่วนยมราช ซึ่งเป็นจุดพื้นที่หวงห้ามตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง
