“ประยุทธ์-ภราดร” ประสานเสียงเจรจาโจรใต้ต่อ มีบีอาร์เอ็นประกาศยุติการพูดคุย

“ประยุทธ์” รอผลการตรวจสอบข่าวบีอาร์เอ็นยุติเจรจาสันติภาพกับไทย เผยนัดถกร่วม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” เพื่อหาข้อสรุปสัปดาห์หน้า ย้ำการเจรจาโจรใต้ยังต้องมีต่อไป ด้านเลขาฯ สมช.ระบุรอผู้ประสานงานมาเลเซียแจงบีอาร์เอ็นยกเลิกเจรจาจริง พร้อมย้ำเดินหน้าพูดคุยต่อ


วันนี้ (9 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 07.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่คลิปขบวนการบีอาร์เอ็นขอยุติการเจรจาสันติภาพกับคณะตัวแทนจากรัฐไทยว่า เท่าที่ตรวจสอบยังไม่มี เป็นเพียงการพูดออกมาในคลิป ซึ่งตนได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4สน.)ตรวจสอบกับหน่วยราชการอื่นแล้วยังไม่ได้ยืนยันในจุดนี้ คงต้องรอเวลาสักเล็กน้อยว่า ข้อสรุปคืออะไร เท่าที่ทราบทางนายกรัฐมนตรีในฐานะรมว.กลาโหม ได้เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.จชต.) ในสัปดาห์หน้าเพื่อหาหนทางในการปฏิบัติที่ดีที่สุด

พล.อ.ประยุทธ กล่าวต่อว่า ซึ่งตนไม่อยากให้พวกเราตื่นเต้น เพราะเขาจะพูดอะไรก็พูดได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่า เขาพูดอะไรมาก็ตื่นเต้นตามเขา เราเป็นรัฐ เป็นเจ้าหน้าที่ เราเป็นประเทศ ไม่ว่า ใครจะพูดอะไรก็ตาม เราต้องหนักแน่น และยืนหยัดในหลักการของเราว่า ยืนหยัดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย และการปฎิบัตงานราชการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยึดแนวยุทธศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ในวันนี้เรามี 6 กลุ่มงานเข้ามาปฏิบัติ เราก็ยืนหยัดในตรงนี้

“คิดว่า การพูดคุยคงจะมีต่อไป แต่จะมีอย่างไร และเอาประเด็นไหนมาพูดคุยก็ต้องมาตั้งหลักกันตรงนั้น ในวันนี้ได้มีการหารือกันหลายระดับทั้งด้านการบูรณาการ การประสานงานการปฏิบัติที่ได้พูดคุยกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปบ้างแล้ว ที่ผ่านมา ทางพล.อ.ขวัญชัย กล้าหาญ เลขานุการ รมว.กลาโหมได้มารับฟังบรรยายสรุป สถานการณ์ต่างๆ แม้ท่านจะเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ แต่ท่านรู้ดีพอสมควร เพราะในตอนนั้นท่านก็เป็นแม่ทัพ 4 อยู่ ท่านก็รับว่างานที่กองทัพบก และกอ.รมน. ทำอยู่นั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหา แล้วจะนำเสนอนายกฯในฐานะรมว.กลาโหมให้ประสานสอดคล้องกันทั้งในส่วนรัฐบาลและในส่วนของความมั่นคง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนตัวผู้เจรจาจาก นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นบุคคลอื่นจะส่งผลกระทบต่อการพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากเปลี่ยนตัวก็เป็นคนอื่น แต่ถ้าเขาหยุดการพูดคุยก็ไม่มีการพูดคุย คำตอบมีอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาเลิกคุย เราก็หาคนอื่นมาพูดคุย ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่อยากให้เอาอะไรต่างๆมาพันกัน เขาจะทำอะไรก็ให้เขาทำกันไป เรามาตั้งหลักพูดคุยกัน เพราะการพูดคุยมี 2 ฝ่าย เขาก็มีหลักของเขา และเขาจะไปพูดที่ไหนก็พูดได้ ในวันนี้เขามีช่องทางที่จะพูดเขาก็พูด เราเป็นรัฐพูดอะไรต้องระมัดระวัง เพราะมีผลกระทบทั้งสิ้น ขอว่าอย่าไปเพิ่มน้ำหนัก และศักดิ์ศรีให้มันเท่ากัน เราเป็นรัฐ อีกพวกเป็นคนส่วนหนึ่งที่เห็นต่าง เราต้องทำความเข้าใจ บางอย่างที่พูดคุยกันได้ก็พูดคุยกันไป บางอย่างพูดคุยไม่ได้ก็เป็นกฎหมายที่ต้องไปหาทางแก้ปัญหากันให้ได้ ต้องแยกแยะให้ออกว่า อะไร คือ กฎหมาย อะไร คือ การพูดคุยและอะไรคือรัฐ อะไรไม่ใช่รัฐ อย่านำมาปนกัน

ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การดำเนินการสิ่งใดจะต้องมีการเห็นพ้องด้วยกันทั้ง 3 ฝ่ายตามข้อตกลง ระหว่างกลุ่มบีอาร์เอ็น ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย และทางการไทย การเปลี่ยนตัวผู้เจรจาพูดคุยจะต้องได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยความสะดวก คลิปวิดีโอของกล่มบีอาร์เอ็นที่ออกมาว่าจะเปลี่ยนตัวบุคคลในการเจรจานั้นยังไม่ถือว่าเป็นทางการ ซึ่งบางครั้งเมื่อหัวข้อพูดคุยเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนตัวบุคคลตามปกติของหลักการพูดคุยได้ โดยในวันที่ 18 สิงหาคมนี้จะได้กำหนดความชัดเจนในรายละเอียดการพูดเพื่อความชัดเจน และยืนยันว่าไทยได้ปฏิบัติตามหลักการตลอดมา

ส่วนสถานการณ์ใต้ที่มีการก่อเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่อง จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเปลี่ยนกลุ่มคุยหรือไม่ แต่ต้องรอการประสานผ่านผู้อำนวยความสะดวกก่อน

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า แม้มีข่าวนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ประกาศยกเลิกการพูดคุยสันติภาพกับไทย แต่หลักของการพูดคุยแม้ว่าฝ่ายบีอาร์เอ็นจะยืนยันมาอย่างไร แต่เราก็ต้องยึดหลักรอการยืนยันจากผู้อำนวยความสะดวก คือ มาเลเซีย ซึ่งจะต้องเห็นพ้องต้องกันทั้ง 3 ฝ่าย ดังนั้น ณ เวลานี้ยังเป็นเพียงข่าวสารในเบื้องต้นเท่านั้น

ส่วนหากมีการเปลี่ยนตัวคนเจรจาของบีอาร์เอ็นก็จะไม่กระทบการพูดคุยสันติภาพใช่หรือไม่นั้น พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ตอนนี้เราถือว่ายังไม่มีการเปลี่ยน เพราะจะเปลี่ยนก็ได้ แต่ต้องเห็นพ้องกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยผ่านมาเลเซีย ขณะเดียวกัน ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะแต่ละประเด็นที่มีการพูดคุยในหัวข้อต่างๆ นั้นอาจมีความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแปลงก็ได้ ทั้งนี้ถือเป็นหลักการที่ตกลงกันไว้ในการพูดคุย ตอนนี้เราถือว่ายังไม่เป็นทางการ กระบวนการทุกอย่างผ่านผู้อำนวยความสะดวกคือมาเลเซีย ตอนนี้ถือว่ายังเดินไปตามหลักการอยู่

พล.ท.ภราดรกล่าวว่า จะมีการกำหนดการพูดคุยสันติภาพครั้งต่อไปโดยรอหลังวันที่ 18 ส.ค. ซึ่งจะมีการสื่อสารกำหนดวันเวลาอีกครั้ง เมื่อถามว่าความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องจึงควรจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เจรจาหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป