ปชป.นัดรวมพลผู้ชุมนุมเดินเท้าจากเวทีผ่าความจริงเข้าสภา แสดงสัญลักษณ์ต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ด้านรอง ผบช.น.ไม่ห่วงเหตุวุ่น เน้นเจรจา มั่นใจควบคุมสถานการณ์ได้
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคว่า ที่ประชุมมีการกำหนดแนวทางการต่อสู้คัดค้านการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของรัฐบาล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.ซึ่งในเย็นวันนี้จะมีการระดม ส.ส.ของพรรค ปราศรัยบนเวทีผ่าความจริง บริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วนอุรุพงษ์จนถึงเวลา 09.00 น.ของวันที่ 7 ส.ค.จากนั้น ส.ส.ทุกคนของพรรค จะร่วมเดินไปรัฐสภา พร้อมกับเชิญชวนประชาชนให้ร่วมเดินทางไปด้วย และเมื่อไปถึงเขตพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว ก็จะต้องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ ในการที่จะเข้าไปในสภา ซึ่ง ส.ส.สามารถเข้าไปทำหน้าที่ในสภาได้อยู่แล้ว แต่ส่วนของประชาชนเราก็ไม่สนับสนุนให้ทำผิดกฎหมาย จึงต้องไปขออนุญาตเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่ก่อน เพื่อเข้าไปส่ง ส.ส.ของพรรคไปทำหน้าที่ในสภาได้หรือไม่ ซึ่งการอนุญาตหรือไม่ก็เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งคืนนี้ก็จะมีการตกลงกับประชาชนให้ชัดเจนว่าพรุ่งนี้จะเดินไปอย่างไร ไปถึงแค่ไหน หากเข้าพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคงไม่ได้จะทำอย่างไรต่อไป ทั้งนี้การเดินไปสภาครั้งนี้เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสู้กฎหมายนิรโทษกรรมทั้งในและนอกสภา
“ผมเชื่อว่าจะไม่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง เพราะเชื่อว่าคนที่ไปสุภาพพอที่จะเจรจากับเจ้าหน้าที่ ไม่มีลักษณะของการไปก่อให้เกิดความรุนแรง เป็นเพียงการเดินปกติเพื่อให้กำลังใจ ส.ส.ไม่ได้ไปในลักษณะก่อความรุนแรงใดๆ ไม่ได้บุกรัฐสภาจับตัว ส.ส. จับตัวประธานสภาเหมือนที่คนเสื้อแดงเคยทำในอดีต ซึ่งเราก็หวังว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ตื่นตูม จนทำอะไรที่ผิดกฎหมายก่อน”
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า เราต้องต่อสู้ 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือต้องเดินนอกสภา ซึ่งต้องเป็นไปภายใต้ระบอบกฎหมาย และอีกด้านก็ต้องสู้ในสภา ซึ่งที่ประชุมหารือกันถึงเรื่องแนวทางที่จะต่อสู้ในสภา โดยให้ ส.ส.ทุกคนในพรรคลุกขึ้นอภิปราย แต่ยังไม่มีการพูดถึงว่าหากกฎหมายนี้ผ่านวาระ 2 และวาระ 3 แล้วจะลาออกจาก ส.ส.มาสู้นอกสภาหรือไม่ โดยหลักการต่อสู้พรุ่งนี้ก็จะต้องเรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากสภาก่อนเป็นลำดับแรก และยังมีอีกหลายประเด็น เพราะเรายังกังวลเรื่องการเลื่อนกฎหมาย เพราะมีกฎหมายฉบับของนายพีรพันธุ์ พาลุสุข และกฎหมายฉบับสุดซอยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน อยู่ในวาระด้วย ซึ่งเรากังวลว่าจะมีการยัดไส้ จึงต้องมีการเตรียมตัวไว้
เมื่อถามว่าการเดินไปสภาจะเกิดเหตุซ้ำรอยกรณีกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในครั้งนี้มีการอ้างว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเดินเข้าไปในพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคง แต่ครั้งนี้เป็นการเดินนอกเขตความมั่นคง และพอไปถึงพื้นที่ที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เราก็ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยบอกว่ามีการซื้อเสื้อแดง 5,000 ตัว และกังวลว่าจะเป็นกลุ่มที่มาก่อเหตุเป็นมือที่ 3 หรือไม่นั้น เรื่องนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เป็นคนออกมาพูดคนแรก ซึ่งก็ต้องออกมารับผิดชอบและควบคุม และตนคิดว่า ผบช.น.คงคุยกับคนเสื้อแดงได้ไม่ยาก เพราะสนิทสนมกันดี และหากจะมีมือที่ 3 ก่อเหตุจริง ก็มีกำลังตำรวจถึง 3 หมื่นนายในพื้นที่อยู่แล้ว แต่ในส่วนของเราเองก็มีการควบคุมอย่างเต็มที่
อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าการข่าวไม่มีการเคลื่อนไหวของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่จะเดินทางมายังอาคารรัฐสภา ซึ่งเหตุการณ์ยังคงเป็นไปตามปกติ และในวันนี้ได้เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภาเพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ประจำการปฏิบัติหน้าที่บริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภา พร้อมระบุ ว่าการวางกำลังคงเป็นไปตามปกติตามที่วางไว้ คือแบ่งกำลังออกเป็น 4 จุดรอบรัฐสภา คือ ภายในอาคารรัฐสภา 1 กองร้อย และกำลังเสริมอีก 4 กองร้อย นอกจากนี้ในแต่ละจุดมีการตั้งแท่งปูน และรั้วลวดหนาม ไว้ทั้ง 4 จุด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพกอุปกรณ์ประจำตัว ประกอบด้วย โล่กำบัง หมวกกันกระแทก สนับเข่าสนับแข้ง ส่วนแก๊สน้ำตานั้นจะมีเฉพาะชุดกองกำลังพิเศษเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ระบุว่ามีจำนวนเท่าไร อย่างไรก็ตาม คาดว่าพรุ่งนี้จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง เพราะทุกคนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นใช้วิธีการเจรจากับผู้ชุมนุมหากมีการเดินทางมายังรัฐสภาจริง และจะไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน
