รอง ผบช.น.เผยการข่าวแจ้งม็อบเตรียมตัวตัวเคลื่อนไหวสบุกรัฐสภา 7 ส.ค.นี้ แต่ตั้งแนวรับไว้แล้วยังไม่มีการเพิ่มกำลังพลรองรับแต่อย่างใด
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า สถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. จากการรายงานของตำรวจทราบว่าผู้ชุมนุมได้ย้ายพื้นที่ชุมนุมเข้าไปที่สวนลุมพินีแล้ว พร้อมให้เหตุผลว่ากลุ่มรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมดูแลลำบาก ทั้งนี้ ตำรวจได้ส่งชุดสายตรวจเข้าไปดูแลเพิ่มเติมด้วย ภายหลังมีเหตุการณ์คนบุกขึ้นเวทีปราศรัยวานนี้เพื่อป่วนการชุมนุม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การข่าวระบุหรือไม่ว่าจะมีการบุกมาที่รัฐสภาในวันที่ 7 ส.ค.นี้ พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า มี การข่าวแจ้งว่าอาจจะมีการเข้ามาปิดล้อม แต่ตำรวจก็เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว และดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าผู้ชุมนุมจะชุมนุมด้วยความสงบ
เมื่อถามอีกว่า มีการประสานขอกำลังเพิ่มเติมหรือไม่ หลังมีคนบุกขึ้นเวที พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า ไม่มีการประสานเข้ามา เพราะเป็นเพียงชายคนเดียวที่ขึ้นไป และทางผู้ชุมนุมไม่เอาเรื่อง ตำรวจก็ควบคุมตัวไว้เท่านั้น ส่วนที่ว่าจะมีผู้ชุมนุมทยอยมาร่วมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ก็ต้องประเมินด้านการข่าววันต่อวัน
เมื่อถามต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ตั้งเวทีผ่าความจริงที่ใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ ซึ่งใกล้กับพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 จะทำให้ตำรวจทำงานยากหรือมไม่ พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า ไม่กังวล เพราะอยู่นอกพื้นที่ควบคุม และการตั้งเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ส่วนเรื่องการดูแลความเรียบร้อยตำรวจก็เข้าไปดูแลอยู่ ทั้งสายตรวจและนอกเครื่องแบบ หากผู้ที่มาฟังพรรคประชาธิปัตย์ตั้งเวทีจะบุกเข้ามาในพื้นที่ควบคุม ตำรวจก็จะต้องแจ้งเตือนก่อน โดยให้ตำรวจสกัดกั้น รวมถึงดูแลความปลอดภัยด้วย ขณะนี้ได้จับกุมผู้กระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.มั่นคงภายในฯ ได้แล้วบางส่วน โดยเป็นข้อหาพกอาวุธเข้ามา และส่งฟ้องศาลดำเนินคดีลงโทษปรับ และจำคุกไป 1 เดือนแล้ว
เมื่ถามอีกว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ตำรวจจะเพิ่มกำลังในวันที่ 7 ส.ค. โดยเฉพาะพื้นที่รอบรัฐสภา พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า ยังไม่มีการเพิ่มกำลัง คิดว่ากำลังที่มีอยู่ก็เพียงพอแล้ว แต่ก็มีกำลังที่พร้อมสนับสนุนอยู่ ส่วนที่ว่าจะเสนอให้รัฐบาลประกาศยืดเวลาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในฯ ออกไปอีกหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าจะมีเหตุให้ต้องทำหรือไม่ แต่ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าปกติอยู่