xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” ระแวงหนักเพิ่มวงจรปิด-รปภ.เข้ม “เด็จพี่” มุกใหม่ปูดแดงเทียมทำเสื้อ 5 พันตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกเพื่อไทยเผยพรุ่งนี้ถกนิรโทษกรรมฉบับวรชัย พร้อมชี้ทางเข้า-ออกสภาฯ ปูด นักการเมือง อ. มียศ สั่งซื้อเสื้อแดง 5 พันตัวหวังป่วน “ภูมิธรรม” ไม่ห่วงม็อบโค่นทักษิณ ยืนกรานไม่ถอนร่างนิรโทษกรรมอ้างคนละเรื่องกับเวทีปฏิรูปฯ อีกด้านพรรคเพื่อไทยเพิ่มกล้องวงจรปิดรวม 11 ตัว พร้อมจัด รปภ.เข้ม

วันนี้ (5 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 14.30 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงวาระการประชุมพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้ว่า จะมีการพูดถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย โดยเชื่อว่าพรรคจะยืนยันตามมติเดิมเพียงฉบับเดียวเท่านั้น โดยจะมีคณะกรรมาธิการวิสามัญ 35 คน ซึ่งจะแปรญัตติภายใน 7 วัน โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยผู้ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 19 ก.ย. 2549 ถึง 19 พ.ค. 2554 ทั้งนี้ จะมีการพิจารณากำหนดบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมาธิการวิสามัญในส่วนพรรคเพื่อไทย จำนวน 17 คน ว่าจะเป็นคนใดบ้าง นอกจากนี้ จะหารือกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยในเรื่องของการเดินทางเข้าไปร่วมประชุมสภาฯ โดยทางพรรคจะมีการแจ้งรายละอียดให้ทราบถึงเส้นทางการเข้า–ออกรัฐสภา ขณะเดียวกันจะมีการหารือกันเรื่องกฎหมายอื่นๆที่จะมีการพิจารณาในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพรรคจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคและประชุมตามระเบียบวาระ ในเวลา 13.30 น. และประชุมสมาชิกพรรคในเวลา 14.00 น.

เมื่อถามว่า ส.ส. ที่เป็นห่วงเสถียรภาพของรัฐบาลในการเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าจะฟังความเห็นหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคก็ยังยึดมติเดิมที่สนับสนุนร่างของนายวรชัย เพราะสภาบรรจุเป็นวาระที่ 1 แล้ว เชื่อว่าเรื่องนี้คงจะมีการพูดคุยกันในที่ประชุม ส่วนใครจะแสดงความเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ที่จะเสนอความคิดเห็นให้ถอนหรือไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น และเชื่อว่าทุกคนจะเคารพมติของพรรค และเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการเสนอกฎหมายโดยพรรคแต่เสนอตามเอกสิทธิ์ ส.ส. ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ปฎิรูปประเทศ ให้ทุกฝ่ายหันมาร่วมกันหาทางออกประเทศ โดยยืนยันว่าเป็นคนละเรื่องกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการสร้างความปรองดองให้แก่คนในชาติให้มีความสมานสามัคคี

นอกจากนี้ ตนยังได้รับรายงานว่ามีกลุ่มเคลื่อนไหวสั่งทำเสื้อสีแดงจำนวน 5 พันตัวจากโรงงานแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะใช้ โดยจากการสอบถามแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พบว่าไม่มีใครสั่ง ซึ่งสอดคล้องกับคำแถลงของนายไทกร พลสุวรรณ โฆษกคณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ระบุว่าจะมีม็อบฮาร์ดคอร์ 5 พันคนเข้ามาป่วนการชุมนุม ซึ่งตนทราบมาว่ามีนักการเมืองอักษรย่อ อ. และมียศนำหน้า เป็นคนสั่งซื้อเสื้อสีแดงกว่า 5 พันตัว ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนสวมใส่ โดยเชื่อว่ามีความพยายามจะสร้างแดงปลอมหรือกลุ่มแดงเทียม และได้ข่าวมาอีกว่าได้มีการรวมคนใต้อีกหลายจังหวัด ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางมารวมตัวอยู่ที่จังหวัดชุมพรแล้ว และจะให้มีการสวมใส่เสื้อสีแดงเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยจะอ้างว่าเข้ามาช่วยสนับสนุนรัฐบาลและคัดค้านกลุ่มต้านรัฐบาล ซึ่งตนได้แจ้งให้ฝ่ายความมั่นคงทราบแล้ว ว่าอาจจะมีการสร้างสถานการณ์เป็นมือที่สามได้ ซึ่งตนได้ประสานไปยังแกนนำนปช.และแกนนำแดงกลุ่มอื่นๆขอให้อยู่ในที่ตั้ง อย่าออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงทั้ง 3 เขต

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เท่าที่แกนนำพรรคได้ประเมินสถานการณ์ชุมนุม เมื่อวันที่ 4 ส.ค. เห็นว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีการกระทำใดๆเกินกว่าสิทธิทางกฎหมาย แต่คงต้องติดตามดูสถานการณ์กันต่อไป ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ปฏิเสธจะร่วมวงปฏิรูปประเทศตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี โดยยื่นเงื่อนไขให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภาก่อนนั้น ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นคนละเรื่องกับการปฏิรูปประเทศ และภายในพรรคก็ไม่มีใครเสนอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตอนนี้ต้องคุยถึงเรื่องอนาคตประเทศว่า จะมาหาทางออกให้บ้านเมืองอย่างไร ไม่อยากคุยเรื่องอดีตว่าใครผิดหรือถูก คุยไปก็ไม่จบ แม้หลายฝ่ายจะปฏิเสธไม่เข้าร่วมหารือ ก็ต้องเดินหน้าต่อ ตามที่นายกฯ บอกว่า แม้จะมีความหวังแค่เปอร์เซ็นต์เดียวก็ต้องเดินหน้า

ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบบทักษิณ ว่า เท่าที่ดูไม่มีอะไรใหม่ มีเพียงเป้าหมายหลักที่ต้องการล้มรัฐบาล แต่ยังขาดการนำและวิธีการที่จะทำให้สังคมยอมรับได้ และหากจับตาดูการเคลื่อนไหวของเวทียั่วยุปลุกระดมของพรรคประชาธิปัตย์ก็ชวนสับสน ไม่รู้จะออกมาร่วมกับกองทัพประชาชนวันไหน พูดอย่างทำอีกอย่าง เลื่อนไปเรื่อย จึงทำได้แค่พยายามสร้างความวุ่นวาย พอให้เห็นความเคลื่อนไหวนอกสภาเท่านั้น ซึ่งจำนวนคนหลักร้อย สองเวทีรวมกันไม่ถึงพัน คนจัดต้องคิดแล้ว เพราะอะไร ช่วงนี้ฝนตกหนัก ฟืนเลยเปียก จุดไม่ติด จึงขอแนะนำให้รวมเวทีสวนลุมเข้ากับเวทีผ่าความจริงจะได้บริหารจัดการ ดูแลความเรียบร้อยได้ง่าย สะดวกต่อการดูแลเรื่องความปลอดภัย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลุ่มพันธมิตรของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ออกมา เมื่อโวยวายกันเอง ความวังเวงจึงคืบคลานเข้ามา ที่พูดไม่ใช่เย้ยหยันหรือยั่วยุ ปิดพื้นที่หลายจุด ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันหมด รถก็ติด ฝนก็ตก ถ้าประชาธิปัตย์ จะสื่อสารกับแนวร่วมได้ ขอให้เป่านกหวีดหมดเวลาการชุมนุมจะเหมาะกว่า อย่าได้ซ้ำเติมประเทศชาติและประชาชนอีกเลย

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายไทกร ระบุว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาล ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วางแผนกับเพื่อนร่วมรุ่น และนายทหารที่ใกล้ชิดระดับ 5 เสือ ทบ. เตรียมการ ปฏิวัติรัฐประหาร ว่า ก่อนอื่นสังคมต้องหาข้อมูลก่อนว่านายไทกร เป็นใคร เพราะคนไม่รู้จัก รู้จักแต่ ไทกอ ซึ่งก็น่าจะใกล้เคียงกัน เพราะพวกนี้เป็นโรคป่วนเมืองเรื้อรัง สมัครผู้ใหญ่บ้านไม่รู้ได้คะแนนถึง 10 คะแนนหรือเปล่า ข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร นายไทกร มาเล่าผิดฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถูกกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยล้มล้าง และก็ยังพยายามตามมาดำเนินการต่อให้เบ็ดเสร็จ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าประชาชนไม่โอบอุ้มไว้ ป่านนี้คงเหลือแต่ชื่อ เมื่อถูกกระบวนการปฏิวัติรัฐประหารทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ จะฝักใฝ่ระบบนี้ได้อย่างไร ถ้านายไทกร เอาข่าวทหารเตรียมการปฏิวัติรัฐประหาร ไปบอกพวกที่ป่วนเมืองรอส้มหล่น และเคยเสนอขอนายกฯมาตรา 7 อาจจะสร้างความสุขให้พวกเขาได้มากกว่า ตอนนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดูอยู่ว่า การออกมาประกาศล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการการเลือกตั้ง การพยายามระเบิดประตูค่ายทหารให้ออกมาตบเท้าปฏิวัติรัฐประหาร เข้าข่ายความผิดในลักษณะใด ไม่ใช่สักแต่ว่าพูดเลอะเทอะไปวันๆ แล้วไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อสังคม มันใช้ไม่ได้

สำหรับบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ในวันเดียวกันนี้ทางพรรคได้ให้เจ้าหน้าที่นำร้ำแผงเหล็กกั้นทางขึ้นลงบริเวณพรรคออก เพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ แต่ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมายืนคอยสอดส่งดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าที่ทำการพรรคตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่ม ช่วงกลางวันปกติมี 17 คนเพิ่มมาอีก 2 คนรวมเป็น 19 คน ช่วงเวลากลางคืนปกติมีเพียง 8 คนทางพรรคได้เพิ่มเข้าไปอีก 5 คนรวมเป็น 13 คนและยังได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสันให้คอยจัดกำลังมาดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังมีติดกล้องวงจรปิดที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้บริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพิ่มจาก จากเดิมที่มีอยู่ 5 ตัวติดเพิ่มเข้าไปอีก 6 ตัวรวมเป็น 11ตัวเฉพาะบริเวณหน้าพรรค


กำลังโหลดความคิดเห็น