ยิ่งกว่าละครหลังข่าว “หมอเหวง” จินตนาการบรรเจิด อ้างกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณวางแผนลับจับตัวนายกฯ พร้อม ปธ.-รอง ปธ.สภาฯ ไม่ให้ประชุมพิจารณาร่างนิรโทษฯ ด้านโฆษกเพื่อไทยยื่น กกต.ยุบ ปชป.สัปดาห์หน้า อ้างปลุกล้มรัฐบาลเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ยันเดินหน้าพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษฯ “วรชัย” ปลุกระดมเสื้อแดง 1 ล้านคน หากมีการขัดขวางร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เผยไต๋วุ่นมากๆ รัฐบาลยุบสภาเลือกตั้งใหม่
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า ตนได้รับรายงานจากสายข่าววงในของกลุ่มดังกล่าวว่า มีการวางแผนลับในการจับตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เพื่อไม่ให้มีการประชุมสภาในวันที่ 7 ส.ค.ที่จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จึงอยากเตือนไปยังกลุ่มดังกล่าวว่าอย่าทำตามแผน เพราะจะเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ข้อ หาวางแผนประทุษร้าย เข้าข่ายกบฏ และอยากให้หน่วยงานรักษาความปลอดภัยของบุคคลทั้งสี่ เข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่เป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้แผนลับดังกล่าวดำเนินการได้สำเร็จ
นพ.เหวงกล่าวอีกว่า นอกจากนี้กลุ่มกองทัพประชาชนฯ ยังวางแผนให้การจราจรในกรุงเทพฯ เป็นอัมพาตทั้งเมือง โดยจะทำให้เกิดความโกลาหล โดยเฉพาะในจุดที่อยู่นอกเขตที่ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้วย ทั้งนี้ หากกลุ่มกองทัพประชาชนฯ กังวลใจในเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว อยากเสนอให้กลุ่มกองทัพประชาชนฯ ไปคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการเพื่อร่วมพิจารณาร่างดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนประเมินแล้วว่าในการประชุมสภา วันที่ 7-8 ส.ค.ไม่น่ามีอะไร เพราะวิปรัฐบาลได้วางกรอบจะโหวตรับหลักการวาระ 1 ในคืนวันที่ 7 ส.ค.แล้ว จึงไม่อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงตกใจ และหากมีความรุนแรงอะไรไม่ต้องออกมา ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล จะเหมาะสมกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาให้ข่าวว่าคนในครอบครัวชินวัตร และคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางออกนอกประเทศ ระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเหตุการณ์อาจส่อเค้ารุนแรง ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เป็นการให้ข่าวที่มั่ว เลอะเทอะ ไร้สาระ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน คนในครอบครัวชินวัตรไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามสถานการณ์น้ำมันรั่วทันทีที่กลับจากปฏิบัติภารกิจในแอฟริกา จึงไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองลักษณะกุข่าวเพื่อหวังผลควบคู่ไปกับการปลุกระดมประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล ถ้ามีหลักฐานให้นำมาแสดง อย่ากลาวหาลอยๆ
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า จากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ไฟเขียวให้ ส.ส.ของพรรคร่วมชุมนุม พร้อมปราศรัยปลุกระดมล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย เข้าลักษณะความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 จะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ในสัปดาห์หน้า
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขอยืนยันจุดยืนเดิมที่จะเดิหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทราปราการ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยจะไม่มีการนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับอื่นที่มีเนื้อหาคล้ายกันมาร่วมพิจารณาแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบเป็นมติพรรคเพื่อไทยและมติพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว จะต้องเดินหน้าพิจารณาต่อไป
นายวรชัย เหมะ กล่าวว่า ยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีเนื้อหาที่จะนิรโทษกรรมให้กับทุกประชาชนกลุ่ม ทุกสีเสื้อ ยกเว้นแกนนำและผู้อำนาจสั่งการ ยืนยันว่าพ.ร.บ.นี้มีประโยชน์กับประชาชนทุกสีเสื้อ ช่วยสร้างความปรองดอง ที่ผ่านมามีความพยายามจากพรรคประชาธิปัตย์อยู่ตลอดเวลาที่จะทำลายความชอบธรรมในการพิจารณา และมีข่าวในวันที่ 7 ส.ค. มีความพยายามที่จะสกัดกั้นไม่ให้ ส.ส.เข้ามาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่รัฐสภา ซึ่งถ้าเกิดเรื่องนี้สร้างความวุ่นวายเดือนร้อนมาก ก็ขอให้รัฐบาลยุบสภาแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ ให้ประกาศชัดเจนไปเลยว่าออก พ.ร.บนิรโทษกรรมฯ ให้ใคร อย่างไร และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะเอาอย่างไร เพราะขณะนี้ปัญหาดังกล่าวกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจของประเทศหยุดอยู่กับที่
นายวรชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ยังทราบข่าวว่ามีการเตรียมบ้านพักในค่ายทหารพร้อมที่จะจับตัวแกนนำหากสถานการณ์ไปถึงจุดนั้น ก็คือมีความพยายามจะใช้องค์กรอิสระเข้ามาจัดการกับรัฐบาล และเมื่อมีการประท้วงของประชาชน ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวาย จากนั้นทหารก็จะเข้ามาจัดการ โดยอ้างเหตุผลเพราะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น ทั้งหมดอีกฝ่ายได้เตรียมการไว้หมดแล้ว และหากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อถึงตอนนั้นคนเสื้อแดง 1 ล้านคน จะออกมาต่อสู้ทันที
“จึงอยากเตือนคนที่คิดจะทำลายประเทศชาติให้รู้ว่ามีประชาชนพร้อมจะลุกขึ้นมาต่อสู้ถ้ามีการยึดอำนาจล้มรัฐบาล ประชาชนจะออกมาต่อสู้อย่างหนักหน่วงที่สุด ซึ่งการจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทางที่ดีที่สุดคือขอให้เปลี่ยนแปลงตามระบบรัฐสภา ตามระบอบประชาธิปไตย” นายวรชัยกล่าว
