ผบช.ทัพเรือภาคที่ 1 เผยจัดกำลังพลนับร้อยกำจัดคราบน้ำมันเกาะเสม็ดต่อเนื่อง ผบ.ทร.สั่งช่วยเต็มที่ ปตท.ออกเงินให้ ปัดใช้ภาษีประชาชน พร้อมตรวจสุขภาพหลังปฏิบัติงานเสร็จ
วันนี้ (2 ส.ค.) พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งกำลังพลเข้าไปให้ความช่วยเหลือเก็บกู้ซากน้ำมันดิบที่รั่วไหลในพื้นที่อ่าวพร้าว จ.ระยอง ว่า ทางทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดส่งกำลังพลเข้าไปช่วยเหลือประมาณวันละ 200-300 นายต่อวัน โดยในจำนวนนี้เป็นเพียงกำลังพลที่ขนย้ายเก็บคราบน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในเรือที่ออกมาปฏิบัติการ และกำลังพลที่อยู่บนแพต่างๆ โดยล่าสุดได้มีการนำเรือหลวงอ่างทองเข้ามาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย โดยมีกำลังพลประมาณ 150 นาย รวมถึงเรือมันใน และเรือเล็กๆ ที่ออกปฏิบัติการตามจุดต่างๆ วันหนึ่งจะมีกำลังพลปฏิบัติภารกิจประมาณ 400-500 นายต่อวัน ทั้งนี้เรือหลวงอ่างทองจะมาปฏิบัติภารกิจดังกล่าวประมาณ 2-3 วัน
พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ กล่าวต่อว่า พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้ทัพภาคที่ 1 ใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีอยู่ รวมถึงยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไปสนับสนุนภารกิจดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อคืนสู่สภาพธรรมชาติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การขนคราบน้ำมันทางเรือถือว่าเร็วกว่าที่จะเคลื่อนย้ายบริเวณท้องถนน หากคราบน้ำมันตกใส่ถนนจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการทำบันทึกอยู่ในรายละเอียดอยู่ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทาง ปตท.จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยืนยันว่ากองทัพเรือที่ไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าวไม่ได้นำเงินภาษีของประชาชนมาใช้ตามที่มีการกล่าวหาในโซเซียลมีเดีย
“กำลังพลทุกคนที่ออกมาปฏิบัติงานเมื่อเสร็จแล้วก็จะต้องมีการตรวจสุขภาพ เพราะกำลังพลที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่อาจจะได้รับสารน้ำมันดิบเข้าไปในร่างกายได้ ดังนั้นเมื่อเสร็จภารกิจจะต้องดูแลให้เต็มที่ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยค่าใช้จ่ายจะประกอบด้วยยุทโธปกรณ์ต่างๆ และกำลังพลที่ออกมาปฏิบัติภารกิจในแต่ละวัน โดยทัพเรือภาคที่จะส่งรายละเอียดไปยังกรมเจ้าท่า ในฐานะที่เป็นคนรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด ก่อนที่จะนำเสนอไปยัง ปตท.ในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน” พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ กล่าว
