“ศรีสุวรรณ” ระบุนำเด็กร่วมขจัดคราบน้ำมัน สุ่มเสี่ยงเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ เข้าข่ายละเมิดกฎหมายคุ้มครองเด็ก วอนยุติการกระทำดังกล่าว จี้ “ปู” ตั้ง กก.สอบสวนชี้แจงต่อสาธารณชนภายใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ส.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร่อนแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ขอให้ยุติการนำเด็กมาร่วมขจัดคราบน้ำมันอันเป็นละเมิดกฎหมายคุ้มครองเด็ก ความว่า ตามที่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้นำพนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐมาดำเนินการขจัดคราบน้ำมันบริเวณพื้นที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง หลังจากที่ถูกคราบน้ำมันดิบรั่วไหลและแพร่กระจายลอยมาจากทุ่นรับน้ำมันดิบ(Single Point Mooring) มาปนเปื้อนบริเวณชายหาดดังกล่าว จนกลายเป็นทัศนอุจาด (Visual Pollution) อับอาย ขายหน้า แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้วนั้น
จากการติดตามการทำงานเก็บกวาดและขจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวของกลุ่มพนักงานของบริษัท PTT GC เจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลุ่มจิตอาสาต่างๆ ในพื้นที่ดังกล่าวพบว่า มีเด็กหรือเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้ามาช่วยทำหน้าที่ตักเก็บ ทำความสะอาดคราบน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ซึ่งคราบน้ำมันเป็นสารอันตราย ประเภทสารประกอบไฮโดรคาร์บอน สารอินทรีย์ระเหยง่าย และสารปรอท เมื่อสัมผัสและสูดดมไอระเหยเข้าสู่ร่างกาย จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ เพราะสารต่างๆ ดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งด้วย ซึ่งเด็กและเยาวชนย่อมมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอ ย่อมมีโอกาสได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่านัก อีกทั้งพบว่าเด็กดังกล่าวไม่มีระบบป้องกันร่างกายที่ถูกต้องแต่อย่างใด
การปล่อยให้เด็กและหรือเยาวชนเข้ามาช่วยขจัดคราบน้ำมันดังกล่าว ย่อมเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 (6) โดยชัดแจ้ง ซึ่งกฎหมายดังกล่าวห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ในการใช้ จ้าง หรือวานเด็กให้ทำงานหรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต หรือขัดขวางต่อการพัฒนาการของเด็ก หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นอำนาจของ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ รมว.กระทรวงมหาดไทย รมว.กระทรวงศึกษาธิการ รมว.กระทรวงยุติธรรม รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จะต้องปฏิบัติการคุ้มครองเด็กให้เป็นไปตามกฎหมายนี้โดยเคร่งครัด นอกจากนี้ยังถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกโดยชัดแจ้งอีกด้วย
กรณีดังกล่าว สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจึงใคร่ขอให้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ยุติการนำเด็กมาร่วมขจัดคราบน้ำมันอันเป็นละเมิดกฎหมายคุ้มครองเด็กดังกล่าวโดยทันที และให้นายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบสวน 4 รัฐมนตรีข้างต้น รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดระยองด้วยว่าเหตุใดจึงปล่อยให้มีการกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้น ทั้งนี้ต้องมีคำตอบต่อสาธารณชนภายใน 7 วันนับแต่วันนี้