“ก่อแก้ว” เรียกร้องดีเอสไอทบทวนการให้ประกันตัว “อภิสิทธิ์-สุเทพ” หลังปลุกระดมมวลชนชุนนุมค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขณะเดียวกันแนะ ปตท.ซื้ออุปกรณ์แก้น้ำมันรั่วมาใช้ในประเทศไทย
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. แถลงถึงการที่กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) นัดชุมนุมวันที่ 4 ส.ค.นี้ เและอาจถึงวันที่ 7 ส.ค.ที่มีการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาวาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า อพส.มีสิทธิชุมนุมได้ แต่หากจะต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ขอให้คิดด้วย เพราะถ้ากฎหมายบังคับใช้ประชาชน ส่วนหนึ่งที่อยู่ฝ่ายเดียวกับ อพส.ก็ได้ประโยชน์ และหากกังวลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์ก็ต้องรอดูคณะกรรมาธิการฯ ให้พิจารณาเนื้อหาเรียบร้อยก่อน ซึ่งการประชุมสภาฯ ในวันที่ 7 ส.ค.อยู่ในขั้นตอนรับหลักการวาระแรกเท่านั้นจึงไม่ควรมาคัดค้าน ทั้งนี้ตนอยากให้การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ควรขยายกรอบเวลาให้รวมถึงสิ้นปี 2555 ด้วย เพราะมีกลุ่ม อพส.ที่ชุมนุมในช่วงนั้นด้วย
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ปลุกระดมประชาชนให้ออกมาต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ นายก่อแก้วกล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตและคำถามไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้ต้องหาคดีทำให้ประชาชนเสียชีวิตและได้รับการประกันตัวนั้น กลับมีการพูดเข้าข่ายปลุกระดมเช่นนี้ ดีเอสไอต้องพิจารณาเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ และควรกำหนดเงื่อนไขให้อยู่กรอบเช่นกัน
นายก่อแก้วยังกล่าวถึงการจัดการปัญหาน้ำมันดิบรั่วที่ จ.ระยอง ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีปัญหาส่งผลกระทบต่อประชาชนในบริเวณดังกล่าวที่มีอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ปัญหานี้เกิดจากน้ำมันดิบทำให้แก้ปัญหาได้ยาก ซึ่งต้องทบทวนว่าอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศไทย มีความพร้อมในการจัดการปัญหาเพียงพอแล้วหรือไม่ เพราะพบว่าเมื่อเกิดเหตุ ปตท.ต้องไปยืมอุปกรณ์การจัดการแก้ไขปัญหาจากศูนย์ของ ปตท.ในสิงคโปร์ ทำให้แก้ปัญหาไม่ทันการ ซึ่งตนในฐานะที่เคยเป็นวิศวกรด้านพลังงานมาก่อนขอแนะนำให้ ปตท.เป็นแกนนำร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมข องกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (ไออีเอสจี) ลงทุนซื้ออุปกรณ์เพื่อแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ได้ทันท่วงที
