“เจ๊ติ่ง” แฉ พท.สั่ง ขรก.โกหก ปชช. บอก พ.ร.บ.นิรโทษฯ ไม่ยัดไส้ล้างผิด หลังนายใหญ่สั่งลุย หวังตัดกำลังม็อบ เย้ยถกวุ่น กลัวซ้ำรอยแดงบุกสภา ดักอย่าใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ แบบวิถีโจรคุม ปชช.เหมือน อพส. ขู่ “อดุลย์-ภราดร-แจ๊ด” เจอดี โชว์แผนลับโค่นระบอบทักษิณที่มีในวอร์รูมรัฐฯ ซัดจิตนาการสุดมั่ว บี้แจงความจริงเหตุน้ำมันรั่ว ฟังนักวิชาการแนะ พร้อมประสาน กมธ.เกี่ยวข้องถก จี้ตั้ง คกก.สอบเยียวยาผลกระทบ
วันนี้ (30 ก.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ว่าขณะนี้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสั่งให้ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละจังหวัดไปโกหกประชาชนว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะไม่มีการยัดไส้เพื่อช่วยใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ประชาชนออกมาชุมนุมคัดค้านต่อต้านการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางไปที่ฮ่องกงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และตำรวจ ชัดว่าภารกิจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งมาคือการเดินหน้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทำให้รัฐบาลต้องเรียกรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ฝ่ายความมั่นคง และข้าราชการ มาประชุมอย่างเอิกเกริก เพราะมีความหวาดผวาการชุมนุมของประชาชนที่จะมีขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยกลัวว่าผู้ชุมนุมจะมีพฤติกรรมเหมือนคนเสื้อแดงเคยทำ ที่มีการบุกสภาในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการออกมาคัดค้านเรื่องนี้ของ พรรคประชาธิปัตย์ และภาคประชาชนนั้น สามารถทำได้ตามสิทธิ์ และเป็นไปตามครรลองกฎหมายทุกอย่าง แต่รัฐบาลเองกลับพยายามผลักดันกฎหมายดังกล่าว
“ตอนนี้รัฐบาลกำลังเตรียมใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฉบับเดียวกับที่ใช้ในการควบคุมผู้ชุมนุม กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 48 ราย มาควบคุมผู้ชุมนุมที่คัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลอย่าเอาวิถีโจรมาควบคุมผู้ชุมนุม อย่าใช้โจรในเครื่องแบบมาควบคุมการแสดงออกของประชาชน อย่าใช้อำนาจแฝง หรือใช้คนไม่หวังดีแฝงตัวในกลุ่มเจ้าหน้าที่ และอย่าใช้วิธีที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ใน พ.ร.บ.ความมั่นคงควบคุมผู้ชุมนุม ซึ่งอยากให้รัฐบาลตระหนักว่าตำรวจ ผู้สั่งการ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการชุมนุมกลุ่มอพส.นั้น ยังมีคดีอยู่ในการพิจารณาของศาล และคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
น.ส.มัลลิกากล่าวอีกว่า ตนอยากให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รวมทั้ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ช่วยทำตัวเป็นข้าราชการที่เป็นกลางทางการเมือง และใช้เครื่องมือที่มีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ฟังคำสั่งที่ชัดเจน ซึ่งหากปฏิบัติตามก็อาจทำให้ต้องถูกตรวจสอบใน ป.ป.ช.ได้ ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีทีมที่ติดตามพฤติกรรมของข้าราชการ เพื่อหัวตัวข้าราชการที่ไม่ทำตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.มัลลิกาได้แสดงแผนผังที่ระบุว่า “แผนลับโค่นล้มระบอบทักษิณ (ครั้งสุดท้าย)” โดยมีการเชื่อมโยงถึงบุคคลต่างๆ อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม. พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ กลุ่มเสนาธิการร่วม เป็นต้น โดย น.ส.มัลลิการะบุว่าเอกสารชุดนี้ถูกเผยแพร่ในวอร์รูมฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาล ถือเป็นการมั่วข้อมูลและให้ร้ายสร้างตัวละครขึ้นมา โดยใช้จิตนาการของตัวเองอย่างไร้ข้อเท็จจริง
น.ส.มัลลิกายังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเหตุการณ์ท่อรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เกิดรั่วไหล ทำให้น้ำมันดิบไหลลงทะเลว่า 1. รัฐบาลควรสะท้อนข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน และแสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน 2. ควรรับฟังข้อเสนอแนะของนักวิชาการด้านประมงและสิ่งแวดล้อม 3. พรรคประชาธิปัตย์จะประสานคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง 4 คณะ ได้แก่ คระกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม คณะกรรมาธิการการพลังงาน คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม และคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า และ 4. รัฐบาลควรตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นตรวจสอบ และตั้งกองทุนสำหรับเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว