“ปู” เตรียมโดดหนีม็อบต้านนิรโทษฯ งัด พ.ร.บ.มั่นคง หาก ปชช.ลุกฮือ

ดันร่างนิรโทษฯ “ปูนิ่ม” ลอยตัว พท.วางหมากส่งทัวร์ ตจว.หนีม็อบต้าน สั่งฝ่ายปกครองท้องถิ่นเร่งกรอกหู ปชช.ว่ารัฐฯ ทำเพื่อพี่น้อง เผยเตรียมออก พ.ร.บ.มั่นคงรับมือม็อบหากรุนแรง ด้าน “พล.ต.ท.วิโรจน์” โอ่การอภัยเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ไม่น่าจะต้องมาคัดค้านกันเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (29 ก.ค.) ว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) กำหนดประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าระหว่างวันที่ 8-9 ส.ค. ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ซึ่งในวันที่ 8 ส.ค. นายกฯ พร้อมคณะจะเดินทางออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงด้วยขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ ปกติการประชุมจะมีเดือนละ 1 ครั้ง มีกระทรวงต่างๆ หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ล่าสุดประชุมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมครั้งนี้ระหว่างวันที่ 8-9 ส.ค.จึงถูกกำหนดขึ้นอย่างกะทันหัน หลังจากที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. พิจารณาเป็นลำดับที่ 1 ในวันที่ 7 ส.ค.ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าม็อบฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจะเคลื่อนไหวคัดค้านรุนแรงและฝ่ายค้านจะต้องอภิปรายอย่างเข้มข้นในสภา สถานการณ์อาจยืดเยื้อทีมงานนายกฯ จึงกำหนดยุทธศาสตร์ให้นายกฯ ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการประชุมสภาฯ และให้ไปปฏิบัติหน้าที่ยังต่างจังหวัด

ส่วนการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 ส.ค. เน้นเรื่องการรับมือในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป็นหลัก ทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อมรับมือม็อบที่อาจจะมีการชุมนุม โดยนายจารุพงศ์ได้บอกในที่ประชุมว่าได้ให้เครือข่ายการปกครองระดับท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฯ ว่าเป็นการกระทำเพื่อพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมทางการเมือง ไม่ได้ช่วยใครคนใดคนหนึ่ง ไม่มีการสอดไส้หมกเม็ดเรื่องอื่น จึงไม่อยากให้พี่น้องประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านด้วยเพราะความเข้าใจที่ผิดๆ

ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในที่ประชุมได้หารือกันถึงการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ซึ่งก็เป็นการช่วยเหลือประชาชน ผู้ชุมนุมทางการเมืองทุกฝ่าย ก็มีทั้งที่ยังถูกขังอยู่ และระหว่างดำเนินคดี ถ้าใครไม่เคยถูกขัง ไม่เคยขึ้นศาล ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกตรงนี้ การอภัยให้กันนั้นเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ไม่น่าจะต้องมาคัดค้านกันเลย

“เท่าที่ประเมินไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรรุนแรง ก็เป็นเพียงการแสดงความเห็นกันไป แต่หากจะมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง กระทบความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กระทบพี่น้องประชาชน เราก็มี พ.ร.บ.มั่นคงฯ เตรียมไว้สามารถประกาศใช้ได้ ซึ่ง พ.ร.บ.มั่นคงฯ เป็นกฎหมายรักษาความสงบ ไม่ใช่กฎหมายปราบปราม ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร เราเตรียมไว้ หากไม่มีเหตุการณ์อะไรก็ไม่ต้องประกาศใช้ แต่ถ้ามีเหตุการณ์กระทบความสงบเรียบร้อยก็ต้องปรับใช้ กฎหมายมีอยู่ก็ต้องใช้” พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าว