“เด็จพี่” ชี้ บินเชลียร์ “แม้ว” เรื่องปกติ ซัด ปชป.คืนคำไม่เชื่อสภา ใช้ม็อบต้านล้างผิด

โฆษก พท. อ้างเรื่องปกติคนไทยบินเชลียร์นายใหญ่ถึงฮ่องกง พรรคไม่ห้าม ตอก ปชป.มองแต่แง่ร้าย สวน “มาร์ค” ยันร่างนิรโทษฯไม่เลวร้าย ไม่ยัดไส้ล้างผิด “นช.แม้ว” ซัด คิดถึงคนที่สูญเสียบ้าง จวก “น้องเดียว” บิดเบือนปลุกม็อบต้านล้างผิด 1 ส.ค.ยัน รบ.เริ่มถก 7 ส.ค.ยกคำ “ชวน” สวน เคยบอกเชื่อมั่นระบบสภา ชี้ อพส.พวกหน้าเดิมล้ม รบ.รับงานป่วน เชื่อ ตร.เอาอยู่ แฉจ้างหัว 2 พันชุมนุม

วันนี้ (28 ก.ค.) พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดินทางไปฮ่องกง พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เป็นเรื่องปกติของคนไทย ที่จะไปพบปะเยี่ยมเยียนกับคนที่เคารพรัก เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีคำสั่งห้าม ส.ส.หรือสมาชิก เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพ และไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่อยากให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เอาเรื่องนี้มาเล่นการเมืองมากเกินไป คนจะมองว่าก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ตน และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมากเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก การจะไปขอคำปรึกษามาปรับใช้ในการทำงานล้วนเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เอาแต่มองโลกในแง่ร้าย คิดในมิติๆ เดิมว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นศัตรู หรือคู่แข่ง แค่ได้ยินชื่อก็ตกใจต้องออกมาค้าน ออกมาด่าไว้ก่อน อยากให้มองคนในแง่ดีบ้าง พรรคประชาธิปัตย์ควรเอาเวลาที่วนเวียนอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปดูแลประชาชน และทำการบ้านเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปมากกว่า

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปเปิดเวทีผ่าความจริงที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 27 ก.ค.โดยระบุว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่จะนำเข้าพิจารณาในสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป จะทำให้บ้านเมืองร้อนระอุ รวมทั้งเรียกร้องให้คนออกมาต่อต้านนั้น ตนขอปฏิเสธว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่นายอภิสิทธิ์พยายามจินตนาการ และบิดเบือน ทำให้ประชาชนสับสนว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือแกนนำ เพราะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เขียนไว้ชัดเจนว่าจะนิรโทษให้เฉพาะประชาชนที่เป็นเหยื่อทางการเมือง ทุกสี ทุกกลุ่ม ไม่มีการช่วยเหลือแกนนำ หรือผู้สั่งการ ฉะนั้นจะไม่มีการสอดไส้ตามที่นายอภิสิทธิ์ระบุ และตนเชื่อว่าเมื่อผ่านวาระแรกไปแล้ว ในชั้นกรรมาธิการก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหมกเม็ดแต่อย่างใด ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์มองโลกแง่ดี

“อย่าเป็นพวกตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ หวังปลุกระดมเพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น ควรคิดถึงจิตใจของญาติผู้ที่เสียชีวิต และคนที่ถูกขังคุกอยู่บ้าง ควรสำนึก และไถ่บาป โดยหันมาสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะนำไปสู่การปรองดองดีกว่า” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ปลุกระดมให้ประชาชนเก็บกระเป๋าแล้วเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ร่วมเวทีผ่าความจริงพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่าสภาผู้แทนราษฎรจะทำการคิดแทรกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาเป็นวันที่ 1 ส.ค. 2556 นั้น ตนมองว่านายสาทิตย์เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด เรื่องนี้วิปรัฐบาลมีมติชัดเจนว่าจะพิจารณากันในสัปดาห์ที่ 2 หลังเปิดสมัยประชุมสภา หรือวันที่ 7 ส.ค.สำหรับวันที่ 1 ส.ค.จะเป็นแค่กระทู้ถามทั่วไปและกระทู้สด ตนมองว่าสิ่งที่นายสาทิตย์พูดเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพียงเพื่อให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมกับพรรคประชาธิปัตย์ที่จะจัดหลายเวที แทนที่สภาเปิดแล้วจะช่วยกันเอาปัญหาไปแก้ไขในระบบรัฐสภา แต่กลับออกมาเล่นการเมืองข้างถนนอีก อยากถามว่าสิ่งที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เคยพูดว่าเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย วันนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ลืมหลักการ และคำพูดที่สวยหรูไปหมดแล้วหรือ ตนขอเรียกร้องให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หันมาเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ในระบบรัฐสภา ถ้าจะเล่นนอกสภาตั้งเวทีปลุกระดมประชาชนเพื่อหวังล้มรัฐบาล ก็ควรจะลาออกจากส .ส.ไปเป็นแกนนำม็อบจะดีกว่า

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม 2 ที่มีการเปิดตัว นายประพันธ์ คูณมี นั้น มองว่าเป็นตัวละครเดิมๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล กรณีที่บอกว่าจะนัดชุมนุมวันที่ 4 ส.ค.โดยพยายามอ้างเงื่อนไขต่างๆ ตนมองว่าเป็นการตั้งธงเพื่อล้มรัฐบาลมานานแล้ว วันนี้แม้รัฐบาลจะทำดีแค่ไหน ได้รับการยอมรับจากประชาชนจากผลสำรวจโพลต่างๆ คนพวกนี้ก็ทำเป็นหูหนวกตาบอด ไม่รู้ไม่เห็น อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง จะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ตนมองว่าคนพวกนี้น่าจะรับงานมาก่อกวนรัฐบาล พยายามทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในวังวนความขัดแย้งไปเรื่อยๆ จะได้มีตัวตนในสังคม เพราะหากวันใดที่บ้านเมืองสงบ คนพวกนี้ก็จะไร้ค่า อยากฝากประชาชนให้ดูพฤติกรรมคนเหล่านี้ว่าที่ผ่านมาเคยทำประโยชน์อะไรให้สังคมบ้าง วันนี้คนไทยต้องการความรัก ความสามัคคี ปรองดอง แต่คนพวกนี้เอาแต่สร้างความขัดแย้ง ขณะเดียวกันยังทราบว่ามีกลุ่มคนไปว่าจ้างประชาชนให้มาร่วมม็อบหัวละ 2,000 บาท ขอถาม