“พร้อมพงศ์” สงสัยผู้ใหญ่ใน ปชป.อยู่เบื้องหลัง“ชวนนท์” ปลุกระดมขวางนิรโทษกรรม จี้หยุดจุดเชื้อไฟความขัดแย้ง พร้อมดัน ป.ป.ช.เร่งสอบทุจริตโรงพักฉาว หลังจากพบปลอมลายเซ็นบิ๊กตำรวจรเบิกเงิน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงตอบโต้กรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนออกมาต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเข้าสภาในวันที่ 7 ส.ค.นี้ว่า ยืนยันว่าทางพรรคมีจุดยืนที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์บิดเบือนข้อเท็จจริงและปลุกระดมประชาชนถือเป็นการกระทำที่น่าเกลียดและขัดต่อระบบของรัฐสภา กฎหมายรัฐธรรมนูญ และหลักประชาธิปไตย ตนต้องการถามว่าผู้ใหญ่ในพรรคอยู่เบื้องหลังการให้ข่าวของนายชวนนท์หรือไม่
ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้หยุดจุดชนวนเชื้อไฟความขัดแย้งอีก เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการสั่งฆ่าประชาชน 99 ศพ คือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคหยุดกล่าวหาว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นการล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจเพราะได้รับข่าวมาว่ามีกลุ่มบุคคลได้เดินทางลงพื้นที่ในปริมณฑลซึ่งมีหลายพันชุมชน โดยเชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านร่างนิรโทษกรรมและปิดล้อมรัฐสภาก่อนเปิดประชุมในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายของกลุ่มคนที่คิดต่างกับรัฐบาล และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายดังนั้นตนจะแจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้มีการออกมาชุมนุม เพราะจะทำให้เกิดความสูญเสีย
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศว่า ล่าสุดทางธนาคารออมสินแห่งประเทศไทยได้ออกมาแจ้งความกับบริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้ปล่อมลายมือชื่อตำรวจตั้งแต่ระดับ พล.ต.ท.ถึง พ.ต.อ.จำนวน 1,500 นาย เพื่อเบิกเงินงวดงานจำนวน 579 ล้านบาท ถือเป็นการประจานโครงการไทยเข้มแข็งและนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นการดำเนินโครงการที่ผิดมาตั้งแต่ต้นที่มีการรวมสัญญาสร้างความอัปยศให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ทำไม่ได้ แต่ต้องเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่และกลุ่มการเมืองร่วมด้วย
ฉะนั้น ตนขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ซึ่งมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นตรวจสอบแล้วให้เร่งดำเนินการ และให้ดีเอสไอเปิดเผยรายชื่อตำรวจทั้ง 1,500 นาย นอกจากนี้ เรียกร้องให้ฝ่ายค้านทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมฝ่ายค้านและกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าพวกท่านเลือกปฏิบัติ เพราะเรื่องดังกล่าวถือว่ามีใบเสร็จที่ชัดเจนแล้ว และขอให้ตำรวจที่ถูกปลอมลายมือชื่อเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีด้วย
