xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานนอกระบบร้องศาลปกครอง สั่งเดินหน้า “กองทุนการออมแห่งชาติ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แรงงานนอกระบบฟ้องศาลปกครอง สั่งหน่วยงานรัฐออกกฎกระทรวงเพื่อเดินหน้ารับสมัครสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ หลัง พ.ร.บ.มีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 54 ชี้ปีกว่ากลับเพิกเฉยส่งผลแรงงานนอกระบบเสียโอกาส ประธาน คบช.ระบุ ฟ้องคดีหวังเร่งใช้กฎหมายภายในปีนี้ เผยเล็งฟ้องอาญามาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบอีก

วันนี้ (29 ก.ค.) สมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา โดย น.ส.อรุณี ศรีโต นายกสมาคม และสมาคมวิถีทางเลือกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย นางอรพิน วิมลภูษิต กับพวกรวม 27 คน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานภาคประชาชนและสมาชิกศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งชาติ ร่วมกันยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรี, ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 กรณีไม่ดำเนินการเปิดให้รับสมัครสมาชิก เมื่อได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) พ.ศ.2554 ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 พ.ค.54 ซึ่งตามกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดรับสมาชิกหลังจาก 360 วันที่ได้มีการประกาศใช้กฎหมายแล้ว คือวันที่ 8 พ.ค.55 โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษา สั่งผู้ถูกฟ้องทั้งสาม ร่วมกันให้มีการออกกฎกระทรวง และประกาศต่างๆ รวมทั้งดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการรับสมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติโดยด่วน และให้ร่วมกันดำเนินการใดๆ ที่เป็นการคืนสิทธิในการเข้าเป็นสมาชิก กอช.ให้กับผู้ใช้แรงงานนอกระบบด้วย

นางอรุณี ศรีโต นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนฯ และประธานเครือข่ายบำนาญภาคประชาชน (คบช.) กล่าวว่า ที่ยื่นฟ้องครั้งนี้ เนื่องจากกรณีที่รัฐบาลไม่เปิดรับสมาชิกตาม พ.ร.บ.กองทุนการออมฯ ถือว่าเป็นความเสียหายต่อประชาชนที่เป็นแรงงานนอกระบบในวงกว้าง เนื่องจากมีกฎหมายตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งมีผลบังคับใช้โดยประชาชนสามารถสมัครสมาชิกได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.2555 แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้จนล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้ว ทำให้บุคคลที่ควรจะมีสิทธิก็เสียสิทธิ เช่น กลุ่มผู้มีอายุใกล้ 60 ปี ก็เสียโอกาสในการได้รับหลักประกัน รวมถึงกลุ่มประกอบอาชีพอิสระและกลุ่มผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่มีอยู่กว่า 12 ล้านคน ซึ่งต้องเสียโอกาสในการสะสมเงินเข้ากองทุน เนื่องจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ไม่ดำเนินการ เพราะจากที่มีการประชุมพิจารณางบประมาณประจำปี 2557 นายกิตติรัตน์ ได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการตัดเรื่องการจัดสรรงบประมาณปี 2557 ให้กองทุนการออมแห่งชาติ

ทั้งนี้ จากข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (มท.) เมื่อปี 2554 พบว่าประเทศไทยมีผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปรวมทั้งหมด 7.79 ล้านคน หรือ 12.38% ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเป็น 17.5% ในปี 2563 และ 25.1% ในปี 2573 เพราะประชากรเกิดน้อยลง ผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่า ผู้สูงอายุกว่า 31% ไม่มีการเก็บออม และผู้สูงอายุ 42% มีปัญหารายได้ไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต แม้ว่ารัฐจะจัดสรรให้ 500 บาทต่อเดือน ก็ยังไม่เพียงพอ ทำให้ที่ผ่านมาผู้สูงอายุจะพึ่งพิงลูกหลาน แต่อนาคตข้างหน้าจะเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ยังพบว่ามีกลุ่มแรงงานนอกระบบระหว่างอายุ 15-50 ปี อีกว่า 18 ล้านคน จะได้ประโยชน์จากกองทุนนี้ และจะเสียประโยชน์หากรัฐบาลยังไม่เร่งดำเนินการ ดังนั้น สังคมไทยจำเป็นต้องพึ่งพาระบบบำนาญ

“ที่รัฐบาลไม่เร่งดำเนินการ พ.ร.บ.กองทุนการออมฯ เพราะเห็นว่าปัจจุบันมี พ.ร.บ.กองทุนประกันสังคม พ.ศ.2533 ในมาตรา 40 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบของภาครัฐและเอกชน สามารถส่งเงินสมทบร่วมกับภาครัฐได้ ทำให้กระทรวงการคลังออกมาปฏิเสธกองทุนเงินออม และที่ผ่านมาแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายสนับสนุนให้แรงงานนอกระบบเข้าเป็นผู้ประกันตนตาม พ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ให้ครบ 2.6 ล้านคน ในปี 2556 แต่ปัจจุบันมีผู้ประกันตนเพียง 1.2 ล้านคน เท่านั้น ส่วนอีก 50% จ่ายเงินไม่สม่ำเสมอ จึงถือเป็นความล้มเหลวในการทำให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงสวัสดิการต่างตามสิทธิที่ควรได้รับ” นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชน กล่าวและว่า ที่ผ่านมาเคยเดินทางไปเรียนร้องต่อรัฐบาลหลายครั้งแล้ว และไปพบนายกิตติรัตน์ มา 2 ครั้งแล้ว จนต้องมาพึ่งศาลปกครอง และพึ่งตุลาการให้ช่วยดำเนินการ ขณะที่อนาคตอาจจะมีการฟ้องร้องตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการเปิดรับสมาชิกกองทุนการออมฯ ให้ได้ภายในปี 2556” น.ส.อรุณี กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น