“ปลอด” โต้ “ชวนนท์” โง่คิดไม่เป็น อ้างไม่ทำประชาพิจารณ์เหตุยังไม่รู้สถานที่โครงการ

“ปลอดประสพ” ตั้งโต๊ะสวดยับโฆษก ปชป.หลังโดนแฉหมกเม็ดประชาพิจารณ์ จวกพวกโง่คิดไม่เป็น โบ้ยท่วมใหญ่คราวก่อนก็ฝีมือ ปชป.ยันเมืองจันทบุรี-ตราด ยังไม่วิกฤต

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) แถลงข่าวตอบโต้ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า รัฐบาลทำประชาพิจารณ์โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 2555 และเป็นการฝืนคำสั่งศาลปกครองกลาง ว่า เป็นการโกหกพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด เนื่องจากในวันที่ 10 ม.ค.นั้น คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสมควรกู้เงิน เพื่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างครบวงจร ที่แบ่งเป็นต้น กลาง และปลายน้ำ โดยจะดำเนินการพร้อมกันทุกส่วน ซึ่งเป็นเชิงนโยบายที่ทำความเข้าใจกับประชาชนในวงกว้าง และขณะเดียวกัน ตอนที่เป็น กบอ.ก็ยังไม่รู้สถานที่ก่อสร้างโครงการ แล้วจะทำประชาพิจารณ์ได้อย่างไร

ส่วนที่ นายชวนนท์ กล่าวหาไม่จำเป็นต้องมีเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพียงแต่นำเงินไปให้ตามกระทรวง ทบวง กรม เนื่องจากเป็นโครงการที่มีอยู่แล้วในหน่วยงานเหล่านั้น ขอชี้แจงว่า เงินกู้ดังกล่าวมีมิติการทำงานสองแบบ คือแบบแรก ภารกิจ โครงการป้องกันน้ำ ทั้ง ต้น กลาง และปลายน้ำ ที่ใช้เวลา 5 ปี ซึ่งใช้พื้นที่เป็นตัวกำหนดที่ภารกิจปกติไม่สามารถทำได้ ส่วนที่สองคือ ภารกิจของแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ที่นำมาเชื่อมต่อกับโครงการและดำเนินการพร้อมกัน โดยใช้เวลา 5 ปีเช่นกัน ซึ่งเป็นโครงการรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีขึ้นมาก่อนในประเทศ

“เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องดำเนินโครงการ ประชาธิปัตย์คิดโง่ๆ คิดอะไรใหม่ๆ กันไม่เป็น น้ำท่วมครั้งที่แล้วก็เพราะประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ พยายามให้เกิดความคิดที่แตกแยก ผมขอร้องผู้บังคับบัญชาของนายชวนนท์ ให้เห็นแก่ส่วนรวม และความเสี่ยงของประเทศ อย่าจับประเทศเป็นตัวประกัน” นายปลอดประสพ กล่าว

นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ยังระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ ตราด ว่าเนื่องจากปริมาณน้ำฝนเกินกว่า 100 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าอยู่ในปริมาณนี้น้ำท่วมแน่นอน แต่ยังเป็นปกติไม่น่าวิกฤต อีกส่วนมาจากทั้ง 2 จังหวัดมีพื้นที่อยู่ริมทะเล และเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนจะส่งผลให้ระบายน้ำไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศเราเข้าสู่ฤดูฝนอย่างแท้จริงแล้ว และจะเป็นอย่างนี้ไปอีกประมาณ 3 เดือน เนื่องจากมีร่องมรสุมพัดผ่านประเทศขึ้นลงไปมา แต่ถ้าโชคร้ายมีพายุก็จะส่งผลให้ฝนตกหนักกว่านี้