พะเยา - รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือ ยันรัฐบาลเตรียมทำประชาพิจารณ์โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านตามศาลสั่ง 39 จังหวัดใน 3 เดือน เริ่มสิงหาคมนี้ ก่อนปรับแผนตามความต้องการของประชาชน
วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พะเยาว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือในช่วงหยุดยาวเข้าพรรษา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และความคืบหน้าการดำเนินนโยบายสำคัญ ซึ่งระหว่างที่ลงพื้นที่ จ.พะเยาได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนากว๊านพะเยา การบริหารจัดการน้ำและแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย โครงการรับจำนำข้าว และโครงการพัฒนาเมือง โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 นายไพโรจน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา เขต 3 พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุมที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา
นายปลอดประสพกล่าวถึงโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า ตามที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ทำประชาพิจารณ์ ล่าสุดรัฐบาลเตรียมดำเนินการตามคำสั่งศาล ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2
โดยกำหนดทำประชาพิจารณ์ราวสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคมรวม 39 จังหวัด ระยะเวลา 3 เดือน โดยสถาบันทางการศึกษา 3 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นจะปรับแผนงานต่อไป
วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พะเยาว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือในช่วงหยุดยาวเข้าพรรษา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และความคืบหน้าการดำเนินนโยบายสำคัญ ซึ่งระหว่างที่ลงพื้นที่ จ.พะเยาได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนากว๊านพะเยา การบริหารจัดการน้ำและแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย โครงการรับจำนำข้าว และโครงการพัฒนาเมือง โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 นายไพโรจน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา เขต 3 พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุมที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา
นายปลอดประสพกล่าวถึงโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า ตามที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ทำประชาพิจารณ์ ล่าสุดรัฐบาลเตรียมดำเนินการตามคำสั่งศาล ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2
โดยกำหนดทำประชาพิจารณ์ราวสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคมรวม 39 จังหวัด ระยะเวลา 3 เดือน โดยสถาบันทางการศึกษา 3 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นจะปรับแผนงานต่อไป
