“ถวิล เปลี่ยนศรี” เตรียมแก้อุทธรณ์นายกฯ โยกย้ายไม่เป็นธรรมต่อศาลปกครองสูงสุด 26 ก.ค.นี้ วอนเร่งตัดสินก่อนเกษียณ หวังเป็นบรรทัดฐานป้อง ขรก.วันหน้า โชว์แมนไม่ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด ม.157 “ยิ่งลักษณ์” ยื้อไม่คืนตำแหน่ง ระบุไม่หวังสะใจ คอยรัฐบาลเจ๊งจากการทำงานล้มเหลวดีกว่า
นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ตัวแทนไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ให้นายถวิลพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า ขณะนี้ทางศาลปกครองสูงสุดได้ให้ตนส่งคำร้องแก้อุทธรณ์กลับไป คาดว่าจะนำไปยื่นในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดยในคำแก้อุทธรณ์ดังกล่าวจะไม่มีประเด็นใหม่ เพราะคำอุทธรณ์ของนายกฯที่โต้แย้งมาก็เป็นประเด็นเดิมๆ ที่ผ่านการพิจารณาของศาลปกครองกลางมาแล้ว
นายถวิลกล่าวว่า ในการยื่นคำแก้อุทธรณ์ครั้งนี้ตนจะขอให้ศาลปกครองสูงสุดเร่งรัดการพิจารณาคดี เพราะคดีนี้ถือว่าไม่ได้มีความซับซ้อนเหมือนหลายๆ กรณีที่ผ่านมาในอดีต อีกทั้งอายุราชการของตนเหลือเพียง 1 ปีเศษ หากมีการพิจารณาแล้วเสร็จภายหลังจากที่ตนเกษียณ หรือมีการเยียวยาใดๆ ออกมาในตอนนั้น ก็จะถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อระบบราชการ อีกทั้งยังเป็นบรรทัดฐานให้ฝ่ายบริหารใช้ช่องทางกฎหมายในการยื้อเวลาและไม่คืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการอย่างแท้จริง และไม่เป็นประโยชน์หากมีกรณีกลั่นแกล้งหรือโยกย้ายไม่เป็นธรรมในอนาคตข้างหน้า เพราะส่วนใหญ่ข้าราชการที่ได้รับความไม่เป็นธรรมมักเป็นข้าราชการระดับสูงที่ใกล้เกษียณอายุราชการแล้วทั้งนั้น
ส่วนแนวคิดในการยื่นขอเอาผิดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากนายกฯไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพูดกันว่าตนท้าทายอำนาจนายกฯ หรือฝ่ายบริหาร ซึ่งไม่เป็นความจริง เพียงแต่ตนเห็นว่าถูกกลั่นแกล้งและได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจึงยื่นคำร้องต่อศาลตามสิทธิโดยชอบตามกฎหมาย สำหรับการยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.นั้น ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิด เพราะแม้ว่าจะสามารถเอาผิดนายกฯฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แต่เห็นว่าการเอาผิดต่อรัฐบาล นายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ควรจะเป็นเรื่องการบริหารประเทศผิดพลาดล้มเหลว เช่น เรื่องการบริหารจัดการน้ำ โครงการรับจำนำข้าว หรือการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทมากกว่า เพราะบทบัญญัติของมาตรา 157 ระบุว่า หากมีการชี้มูลความผิดนายกฯ และ ครม.จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งคณะทันที
“ถ้าเอาความสะใจผมคงยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว แต่ผมมีสามัญสำนึกความเป็นข้าราชการกว่า 30 ปีที่เห็นว่าคงเป็นเรื่องตลกหากนายกฯ หรือ ครม.ทั้งคณะต้องมาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตายน้ำตื้นเพียงเพราะความผิดพลาดในการโยกย้ายข้าราชการคนเดียว ซึ่งเป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องตลก”