xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” จี้รัฐแถลงการณ์โต้บีอาร์เอ็น หวั่นนานาชาติเข้าใจผิด ติดกับดักโจรใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
ผู้นำฝ่ายค้านฯ เรียกร้องรัฐบาลออกแถลงการณ์ตอบโต้บีอาร์เอ็นกล่าวหาไทยละเมิดลดความรุนแรงช่วงรอมฎอน หวั่นต่างชาติเข้าใจผิด ติดกับดักโจรใต้ พร้อมแต่งตั้งโฆษกสู้ ขณะเดียวกันต้องทบทวนการแก้ปัญหา อย่ามุ่งแต่หาเสียงทางการเมือง



นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังไม่มีแถลงการณ์ตอบโต้กลุ่มบีอาร์เอ็นที่ออกมากล่าวหารัฐบาลไทยว่าเป็นผู้ก่อความรุนแรง ผิดข้อตกลงที่จะลดความรุนแรงในช่วงรอมฎอนว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือต้องพูดคุยกับทางมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวก หรือผู้ประสานงานว่ากติกาของการทำงานควรเป็นอย่างไร เพราะตนดูแล้วว่ามีปัญหาตลอดเวลาแทนที่การพูดคุยจะทำให้สองฝ่ายมาทำงานร่วมกัน กลายเป็นว่าต่างฝ่ายต่างทำและช่วงชิงความได้เปรียบกันอยู่หรือไม่ ซึ่งจะไม่ช่วยในเรื่องการนำความสงบกลับมา

“รัฐบาลต้องวางแนวทางการสื่อสารคงไม่ใช่เรื่องที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หรือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี จะต่างคนต่างตอบคำถาม พูดจากันเองภายในประเทศแล้ว แต่ต้องแสดงจุดยืนท่าทีที่ชัดเจนให้โลกภายนอกเข้าใจด้วย เพราะเวลาที่บีอาร์เอ็นไปกล่าวหารัฐบาลไทย หวังผลในการที่จะให้โลกภายนอกเข้าใจผิดต่อสถานการณ์เพื่อยกระดับของปัญหา ควรจะมีการแต่งตั้งโฆษกมาทำหน้าที่หรือจะเป็นการแถลงข่าวอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องทำคือต้องมีจุดยืนของรัฐอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่ารัฐบาลไทยไม่ก่อความรุนแรงอย่างไร ตรวจสอบเหตุการณ์อย่างไรเพื่อให้มีความหนักแน่นในการสื่อสารอย่างเป็นทางการ”

ส่วนที่ พล.ท.ภราดรมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาอย่างหนึ่งของรัฐบาลคือการไม่คำนึงถึงความละเอียดอ่อน เหมือนกรณี อ.สะเดา ตนก็ไม่ทราบว่าปล่อยไปได้อย่างไร แม้ว่าจะพยายามมาพูดภายหลังว่าไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีความละเอียด ตั้งใจ ใส่ใจ คำนึงถึงความละเอียดอ่อนของปัญหาจะไม่มีท่าทีอย่างนี้ จึงควรปรับท่าที และการสื่อสารของรัฐบาลไทยต้องหนักแน่น เช่น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายในการใช้ความรุนแรง ยิงประชาชน และมีการตรวจสอบให้เกิดความมั่นใจอย่างไรว่าให้ทุกคนปฏิบัติตามนโยบาย รวมถึงมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วผลเป็นอย่างไร ต้องมีการชี้แจงให้หนักแน่นออกมา

“ผมคิดว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความละเอียดอ่อนของปัญหาน้อยเกินไป และไปกังวลกลัวภาพจะไม่ดีว่ากระบวนการพูดคุยยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงพยายามแสดงท่าทีว่าไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่ผมเห็นว่ารัฐบาลต้องเร่งทำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาของบีอาร์เอ็นโดยเร็วโดยต้องทำควบคู่ไปกับการประท้วงการรวมอำเภอสะเดาเข้าไปในพื้นที่ไม่สงบด้วย เพราะผู้ก่อความไม่สงบสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว”

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเจรจาผ่านมาประมาณ 5 เดือนแล้ว กลุ่มบีอาร์เอ็นประสบความสำเร็จตามลำดับ ขณะที่ไทยกลับอยู่ในภาวะที่เสี่ยงมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลต้องทบทวนตลอดเวลาว่าวิธีการแก้ปัญหาจะทำอย่างไร ตนเห็นด้วยว่าการพูดคุยเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา แต่ต้องคิดว่าการพูดคุยในรูปแบบใดที่จะแก้ปัญหาได้มากกว่าการพูดคุยที่รัฐบาลพยายามใช้เป็นเรื่องหาเสียงทางการเมือง ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามใช้เป็นบันไดไปสู่การยกระดับปัญหา เพราะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาให้ประชาชน

อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นยังยกระดับปัญหาไม่สำเร็จ และประเทศไทยต้องยืนยันว่าเป็นเรื่องภายในประเทศดึงเรื่องกลับมา เพราะในขณะนี้องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี ซึ่งติดตามสถานการณ์ภาคใต้มาโดยตลอด เริ่มออกมามีบทบาทในเรื่องนี้มากขึ้น ยิ่งต้องทำให้รัฐบาลมีความชัดเจน หนักแน่น มีความพร้อมในการนำข้อเท็จจริงออกมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ล่าสุดที่มีการฉีดสีข้อความขับไล่ทหารออกนอกพื้นที่กระทบต่อความพยายามที่จะลดความรุนแรงในพื้นที่ช่วงรอมฎอนอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในที่สุดต้องรอให้ครบหนึ่งเดือนแล้วมาประเมินอย่างเป็นระบบกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นฝีมือใคร เกิดด้วยเหตุผลอะไร เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งในระหว่างนี้ตนเสนอว่าต้องมีคณะทำงานที่ประสานงานกับฝ่ายบีอาร์เอ็นตลอดเวลา เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าอะไรเกิดขึ้น จะป้องกันแก้ไขอย่างไร ทำความเข้าใจให้ตรงกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น