กุนซือ กม. “นช.แม้ว” แจงลูกพี่บินออกเขมรแล้ว หลังร่วมงานศพ “พ่อฮุนเซน” ยันไร้นัย เผยปักหลักจีนหลายวัน รับมีคนบินพบนายบ่อย ปัดเป็นศูนย์สั่งงานการเมือง ย้ำเลิกจัดงานวันเกิดตามแผน ซัด ปชป.เลิกหมกมุ่นคลิปฉาว อ้างนายถูกคดีจากความอยุติธรรม ออก กม.ล้างผลพวงรัฐประหารไม่ถือว่าล้างผิด ชี้ไม่ฟ้องคลิปฉาว เหตุ ปชช.ไม่ติดใจ ไร้สาระ แผ่เมตตาไทยสปริง นายไม่ติดใจถูกด่าป่วยทางจิต แนะกลุ่มต้าน รบ.อดทนรอเลือกตั้งใหม่
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาแล้ว หลังเดินทางเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพบิดาของสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นการเดินทางมาสั้นๆ แค่วันเดียว ไม่มีนัยการการเมืองหรือหารือข้อราชการใดๆ โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางต่อไปพำนักยังประเทศจีนต่อเนื่องหลายวัน เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีภารกิจในประเทศยุโรป และแอฟริกา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีคนบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้ใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการในการประสานงานทางการเมืองกับใคร เพราะสมัยนี้ก็มีการสื่อสารกันง่ายขึ้น ทั้งนี้ นายนพดลระบุด้วยว่า งานวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ เดิมมีกำหนดการจัดงานในประเทศแถบเอเชียได้ยกเลิกเป็นที่แน่นอนแล้ว
นายนพดลกล่าวต่อถึงประเด็นคลิปเสียงคล้ายการสนทนาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม โดยยืนยันว่าเป็นเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ และผ่านการตัดต่อ จึงอยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกหมกมุ่นและก้าวข้ามเรื่องคลิปเสียง รวมทั้งหยุดคาดการณ์เรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณเกิดจากความอยุติธรรม 2 ขั้น คือ คณะรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ และตั้งคณะบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ขึ้นมาสอบสวน คดีที่ดินรัชดาฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณเทียบเคียงไม่ได้กับคดีบุกรุกป่าสงวน ฉะนั้นการจะออกกฎหมายใดย่อมไม่ใช่การล้างผิด เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ผิดมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งหากจะผลักดันร่างกฎหมายใดก็ตามเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า การจะเสนอ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมสามารถทำผ่านสภากลาโหมได้หรือไม่ โดยอ้างเหตุเรื่องความมั่นคง นายนพดลตอบว่า โดยหลักการการเสนอกฎหมายควรผ่านสภา ซึ่งเป็นการพูดเชิงหลักการ แต่จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าแสดงว่าช่องทางการนำทักษิณกลับบ้านต้องเสนอเป็นกฎหมายผ่านเข้าสภาฯ นายนพดลตอบว่า ถ้ามีการล้างผลพวงรัฐประหารได้จะเป็นช่องทางให้พา พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านง่ายขึ้น
“เราไม่เคยคิดล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ต้องการอภิสิทธิ์ใดๆ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณในการกลับประเทศ ขอให้แก้ไขเป็นไปตามหลักนิติธรรม เพราะท่านไม่ได้รับความยุติธรรมหลังการรัฐประหาร ดังนั้น หากลบล้างผลพวงรัฐประหารได้ พ.ต.ท.ทักษิณก็สามารถกลับประเทศได้ เเต่ยืนยันว่าเป็นการล้างผลพวงรัฐประหาร ล้างความอยุติธรรม ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การลบล้างความผิดตามแนวคิดที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวอ้าง” นายนพดลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้เสียหาย ไม่ยอมแจ้งความต่อตำรวจเพื่อให้พิสูจน์คลิปว่ามีการตัดต่อจริงหรือไม่ นายนพลตอบว่าประชาชนไม่ติดใจเรื่องนี้ อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาประเทศ เพราะไม่ใช่เรื่องมีสาระ ถ้าใครเห็นว่า ไม่ใช่เสียงตัดต่อก็ต้องไปพิสูจน์เอง พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวร้ายเป็นประจำ ดังนั้นเรื่องที่ไม่สำคัญก็ต้องปล่อยผ่านไปบ้าง เชื่อว่า ประชาชนเข้าใจ แม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นผู้เสียหาย แต่อยากใช้หลักรัฐศาสตร์ในการแก้ไขมากกว่าหลักนิติศาสตร์ เพราะเป็นแค่การพาดพิงทางการเมือง ไม่ได้กล่าวหาว่าทุจริต จึงต้องไปฟ้องร้อง แต่ไม่ได้หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับว่า สิ่งที่ถูกกล่าวหามีความถูกต้อง
นายนพดลกล่าวด้วยว่า กรณีที่กลุ่มไทยสปริงจัดการชุมนุมระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณป่วยทางจิตนั้น ล้วนเป็นกลุ่มคนหน้าเดิม คือ นายแก้วสรร อติโพธิ ที่เคยรับใช้คณะรัฐประหารตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายต่อตระกูล ยมนาค ที่เคยโจมตีการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ จนเวลานี้สนามบินสุวรรณภูมิกลายเป็นสนามบินนานาชาติติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากบอกว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้แผ่เมตตาให้คนเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากถามไปยังคู่แฝดบันลือโลก นายแก้วสรร เเละนายขวัญสรวง อติโพธิ รวมถึง พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และนายต่อตระกูลว่าสมบัติผู้ดีที่เรียนมาลืมไปแล้วใช่หรือไม่ จึงใช้ถ้อยคำหยาบคายโจมตีผู้อื่นแทนที่จะวิพากษ์นโยบายตามข้อเท็จจริง
นายนพดลกล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้กลุ่มไทยสปริง รวมถึงกลุ่มหน้ากากขาวหรือผู้ที่ต้องการจ้องล้มรัฐบาล เลิกการจัดกลุ่มล้มรัฐบาลก่อนครบวาระ 4 ปี เพราะจากนี้รัฐบาลนำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะใช้เวลา 2 ปีที่เหลือผลักดันงาน 4 สร้าง คือ 1. สร้างประชาธิปไตย และความยุติธรรม 2. สร้างระบบน้ำผ่านโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท 3. สร้างระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศผ่าน ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และ 4. สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน ผ่านโครงการจำนำข้าว กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นต้น
“ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้อดใจจนรัฐบาลอยู่ครบวาระ เชื่อว่าไม่เกินเดือน ก.ค. 2558 จะมีการเลือกตั้งใหม่ และหากใครไม่พอใจรัฐบาลก็ขอให้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดก็ได้ แล้วมาแข่งขันทางนโยบาย พรรคเพื่อไทยยินดียอมรับหากพรรคพวกท่านชนะการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากในสภา อย่ามาด่าทอผ่านโซเซียลมีเดีย ฟังแล้วสังเวชใจที่มาด่าถ้อยคำเสียหาย” นายนพดลกล่าว