“ณัฐวุฒิ” ยังอ้างจีทูจีขายข้าวเป็นความลับ โวยพวกโจมตีจำนำหวังล้มรัฐบาล สั่งทีมกฎหมายพาณิชย์จ่อเล่น ชี้เรื่องคลิปเสียงฉาวแค่ฝ่ายค้านหาเรื่องไปวันๆ
วันนี้ (14 ก.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลการขายข้าวแบบจีทูจี ว่า การขายข้าวแบบจีทูจีเป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลทำเป็นการภายในโดยเฉพาะตัวเลขราคา เป็นสิ่งที่ประเทศผู้ซื้อบางประเทศขอให้ปิดเป็นความลับด้วยซ้ำไป ข้อมูลอื่นที่เปิดเผยได้ทางกระทรวงพาณิชย์พร้อมเปิดเผยถ้าเป็นข้อมูลที่ไม่กระทบต่อราคา ไม่กระทบต่อข้อตกลงระหว่างประเทศ ยิ่งในครึ่งปีหลังที่กระทรวงพาณิชย์วางแผนการระบาย ทั้งในประเทศด้วยการเปิดประมูลและการขายข้าวแบบจีทูจี ก็จะเป็นการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ แต่เวลานี้มีการขยายผลจากการระบายโจมตีมากขึ้นทุกวัน ทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาลผ่านโครงการรับจำนำข้าว ปล่อยข่าวข้าวมีสารพิษ ทั้งที่ความจริงไม่มีผู้ประกอบการรายไหนทำแบบนั้นแน่ ข่าวข้าวถุงร้านถูกใจเน่าก็เหมือนกัน จะมีรัฐบาลไหนในโลกที่เก็บข้าวไว้พอข้าวเน่าเอาใส่ถุงออกขายประชาชน มันเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นมีคนไปซื้อข้าวแล้วมาทิ้งข้างถนนให้เป็นประเด็นการเมือง อันนี้เข้าข่ายน่าสงสัย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นับวันยิ่งขาดสำนึกความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองมากขึ้น ทำเป็นขบวนการจากกลุ่มเดิมที่อยากล้มรัฐบาล เพียงแต่ 2 ปีที่ผ่านมาใช้หลายวิธีแล้วไม่ได้ผล คราวนี้ก็หันมาเล่นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ไม่เลือกวิธีการทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล สิ่งที่ทำกันมาผลกระทบที่เกิดขึ้นมันประมาณค่าไม่ได้แล้ว ปล่อยข่าวกันเรื่อย การสอบถามของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงการขายข้าวแบบจีทูจีก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะไม่ให้ความร่วมมือ ยกเว้นมีคนบางกลุ่มพยายามทำเรื่องนี้เพื่อตีกินทางการเมือง กี่เรื่องมาแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา เมื่อพิสูจน์แล้วไม่เป็นความจริง พอจับได้ก็ไม่รับผิดชอบแล้วเปิดเรื่องใหม่ เพราะฉะนั้นทีมกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ก็จะต้องดูแล้วว่าข้อกฎหมายไหนเอาความผิดได้ เพื่อดำเนินการไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงกรณีบทสนทนาในคลิปเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สนทนากับพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตเพื่อเป็นการเตรียมแผนการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมผ่านสภากลาโหม ว่า ขณะนี้เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่พรรคเพื่อไทยเสนอบรรจุอยู่ในระเบียบวาระแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หากดำเนินการในเรื่องนี้ช่วงแรกของการประชุมสภา ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสภากลาโหมเลย สิ่งที่มีการพูดคุยกันในคลิปก็ไม่แน่ใจในบริบทการสนทนาว่าในรายละเอียดมีการหารือเรื่องไหนบ้าง เพราะฉะนั้นโดยเหตุการณ์ไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็พูดชัดเจนไม่สามารถเอาไปวิพากษ์วิจารณ์ขยายผลได้อีก และทางผู้บัญชาการเหล่าทัพก็แสดงจุดยืนที่ชัดเจนแล้วว่าไม่ติดใจอะไร ยินดีที่จะทำหน้าที่ของตนเองต่อไป ไม่มีนัยยะในทางการเมือง เพราะโดยหลักการแล้วสภาผู้แทนราษฎรก็จะเป็นองค์กรที่ว่าด้วยเรื่องกฎหมายอยู่แล้ว ในสภากลาโหมมีแม่ทัพนายกองที่รับผิดชอบในส่วนของกองทัพนั่งอยู่กันเต็ม เพราะฉะนั้นการจะดำเนินการอะไรถ้าบรรดาแม่ทัพนายกองไม่เห็นด้วยหรือขัดต่อหลักการ หน้าที่ของสภากลาโหมมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้วที่ไปขัดต่อบทบาทหน้าที่ และกองทัพเองไม่ได้ติดใจ จะติดใจก็แค่ฝ่ายค้านที่เอาบรรทัดนี้ไปต่อกับบรรทัดนั้น แล้วแถลงข่าวหาเรื่องไปวันๆ