หากถามว่ากลุ่มไหนในพรรคเพื่อไทย ที่มีฐานการเมืองของตัวเองเหนียวแน่นมากที่สุด หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย ก็จะเป็นกลุ่มที่แยกตัวออกไปตั้งพรรคการเมืองของตัวเองได้เลย โดยอาจไม่ต้องใช้ทุนมากนักถ้าคิดจะทำแค่พรรคการเมืองขนาดย่อมๆ ?
คำตอบย่อมไม่ใช่กลุ่มทุน-กลุ่มเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์-กลุ่มตึกไทยคู่ฟ้าของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร -กลุ่มอีสาน-ก๊วนภาคกลาง-สายเสี่ยเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล-กลุ่มยงยุทธ ติยะไพรัช-สายบ้านริมคลองของเฉลิม อยู่บำรุง และอีกหลายกลุ่มในเพื่อไทย
เพราะทั้งหมดที่เอ่ยมาก็แค่นักเลือกตั้งที่ต่อให้ตอนนี้มีส.ส.ในมือมากยังไงก็ไม่สามารถยืนด้วยขาตัวเองได้ ต้องอาศัยเงาทักษิณ ชินวัตร คอยค้ำจุนหล่อเลี้ยงลมหายใจเสมอ
กลุ่มที่มีมวลชนเหนียวแน่น และพร้อมแยกตัวมาจากทักษิณ แล้วสร้างพรรคการเมืองของตนเองได้ ก็คือกลุ่มเสื้อแดง-นปช.
คะแนนเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยได้จากระบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งเมื่อกรกฎาคม 2554 จำนวน 15,744,190 คะแนน ยิ่งลักษณ์ -ทักษิณ ชินวัตร รู้อยู่แล้วว่า แม้จะเป็นฐานเดิมที่ทักษิณสร้างเอาไว้ตั้งแต่ปี 2544 แต่คะแนนนับล้านๆที่เทให้ยิ่งลักษณ์และเพื่อไทย ก็คือคนเสื้อแดง
ซึ่งจริงๆ แล้วคนเสื้อแดงจำนวนมากนับล้านที่เลือกเพื่อไทยก็ไม่ได้ชอบทักษิณ -ยิ่งลักษณ์อะไรเลย แต่เป็นเพราะต้องการเลือกพรรคที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับประชาธิปัตย์เท่านั้นเอง
ไม่ผิดแน่นอน ที่จะบอกว่ากลุ่มการเมืองในพรรคเพื่อไทยที่มีศักยภาพมากที่สุดในการออกไปทำพรรคเองก็คือ”กลุ่มเสื้อแดง-ส.ส.นปช.ในเพื่อไทย”นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ ทักษิณ จึงแคร์พวกแกนนำนปช.และคนเสื้อแดงค่อนข้างมาก เพราะรู้ดีว่าหากพวกนปช.-เสื้อแดงหันหลังให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์และทักษิณ มันย่อมมีผลทางการเมืองอย่างมาก
อย่างน้อยๆ ถ้าขาดพวกเสื้อแดงมาเป็นกองกำลังนอกรัฐสภา ให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ในการต่อกรกับฝ่ายตรงข้าม ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กังวลใจแน่นอนเพราะไม่มีกำแพงให้พิงหลัง
เพราะด้วยความที่ตัวเองเป็นฝ่ายกุมอำนาจรัฐ ก็คุมได้แค่เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ยังไงก็ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย การจะให้ออกไปเป็นด่านหน้าชนกับฝ่ายตรงข้ามนอกรัฐสภาจึงย่อมทำไม่ได้ จึงต้องพึ่งพากองกำลังเสื้อแดงคอยทำตัวเป็นกองกำลังนอกรัฐสภาที่สำคัญ
ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นอยู่เกือบทุกวัน ที่พวกเสื้อแดงคอยเที่ยวป่วนไปตามเวทีปราศรัยของประชาธิปัตย์เกือบทุกอาทิตย์หรือที่คอยไปแสดงพฤติการณ์ถ่อยสถุลกับพวกหน้ากากขาวทั่วประเทศก็เพื่อคอยทุบหน้ากากขาวไม่ให้เติบโตเป็นกลุ่มประชาชนที่ทรงพลังในอนาคตจนมาขับไล่รัฐบาลได้
ลองคิดดูสิว่า ถ้าทักษิณ-เพื่อไทย ไม่มีพวกอันธพาลเสื้อแดงเหล่านี้คอยช่วยเหลือโดยคนในรัฐบาลคอยขยิบตาให้ท้าย ป่านนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์โดนกดดันการทำงานมากกว่านี้แล้ว
แล้วถามว่า พวกเสื้อแดง-แก๊งนปช.ในเพื่อไทย ที่เคยบอกจะสู้เพื่อทักษิณ สู้เพื่อพรรคเพื่อไทย จะขอเป็นด่านหน้าปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ให้ใครมาทำลายโดยเฉพาะพวกองค์กรอิสระและกลุ่มอำมาตย์ ถึงวันนี้ตาสว่างหายโง่กันหรือยังกับคำหลอกลวงซ้ำซากที่ทักษิณหยิบยื่นให้ กับการที่ไม่ยอมดันจตุพร พรหมพันธุ์แกนนำนปช.เป็นรัฐมนตรีเสียที
แต่อย่างไรก็ตาม“ทีมข่าวการเมือง”ก็เห็นว่า ยังไงเสียเสื้อแดงกับทักษิณ ก็ต้องอยู่คู่กันไปแบบนี้ ยากมากที่เสื้อแดงจะถอนสมอออกไปจากเพื่อไทยและทักษิณ ทักษิณ-เสื้อแดง ก็ต้องอยู่ด้วยกันไปแบบนี้ เหมือนผีเน่ากับโลงผุ ต่างฝ่ายต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบสลับกันไป สุดแล้วแต่สถานการณ์ที่จะมองกันไปในมุมของตัวเองว่าว่า ใครหลอกใช้ใครกันแน่
ทักษิณหลอกใช้เสื้อแดง-แกนนำนปช.
หรือเสื้อแดง หากินกับทักษิณ เอาทักษิณมาเป็นโลโก้หาประโยชน์ เช่นจัดงานชุมนุมแล้วคอยรับท่อน้ำเลี้ยงที่ส่งมาให้ แล้วก็ได้ตำแหน่งการเมืองตอบแทนกันไปถ้วนหน้าโดยเอาวาทกรรมประชาธิปไตยมาหากิน ดังนั้นที่ จตุพร พี่ใหญ่นปช.ยังไม่มีตำแหน่งอะไรหลังจากหลุดจากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลึกๆ แล้วพวกนปช.และส.ส.เพื่อไทยทุกคนรู้ดีว่าที่จตุพร ไม่ได้เป็นรมต.เสียที มันมีอะไรที่สลับซับซ้อนมาก
ท่าทีของแกนนำนปช.ส่วนกลางที่มีข่าวไปจับเข่าคุยกันอย่างซีเรียส 2-3 รอบทั้งที่ต่างจังหวัดและร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯถึงการปรับทัพนปช.โดยอ้างเสียสวยหรูดูดีว่า เนื่องจากสถานการณ์การเมืองหลังเปิดสภาฯ คาดว่าจะร้อนแรงจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับพวกจ้องล้มรัฐบาลประชาธิปไตยด้วยการปรับจังหวะการก้าวเดินทางการเมืองของนปช.ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
จึงเห็นควรว่า จะให้ จตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นมาเป็นประธานนปช.แทนธิดา ถาวรเศรษฐเพื่อนำทัพนปช.เต็มตัว
แต่สุดท้าย จตุพร ก็ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อ 3 ก.ค. 56 ว่าไม่ขอรับตำแหน่งประธานนปช.เพราะยังไม่พร้อม อีกทั้งยังมีปัญหาด้านสุขภาพป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จึงต้องรักษาตัวก่อน
ทั้งหมดหากดูกันผิวเผินอาจคิดว่าไม่มีอะไรกับการที่พยายามจะปรับโครงสร้างนปช. แต่ถ้าส่องไปดูกันให้ดีถึงท่าทีของพวกส.ส.เสื้อแดง-แกนนำนปช.ส่วนกลางที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้
มันก็คือการพยายามจะบอกกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ถึงความไม่พอใจของพวกเสื้อแดงที่โดนบิดพลิ้วเรื่อยมากับการที่จตุพรไม่ได้เป็นรมต.เสียที จนส.ส.เสื้อแดงในเพื่อไทยต่างออกมาให้สัมภาษณ์ทวงสัญญาใจให้กับจตุพรแบบไม่เกรงใจทักษิณกันเลย
แถมจตุพร ยังโดนการปล่อยข่าวที่ก็น่าจะต้องมาจากพวกเดียวกันในเพื่อไทยว่า แม้ไม่ได้เป็นรมต.แต่ก็ไม่โวยวายเพราะได้อย่างอื่นที่ทักษิณจัดให้ตุงกระเป๋ามาแทน
เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกนปช. ก็เลยจะให้ จตุพร ไม่ต้องมารอเป็นรมต.ให้เสียความรู้สึกต่อไปอีกแล้ว มาลุยนอกรัฐสภาเต็มตัวเป็นประธานนปช.ไปเลย จะได้ให้รู้กันไปว่า จตุพรแม้ไม่ได้เป็นรมต.แต่ก็มีที่ยืนในฐานะประธานนปช.
พ่วงไปกับการพูดเรื่องการทำกิจกรรมของเสื้อแดงในช่วงหลังที่ขาดท่อน้ำเลี้ยงจากคนในเพื่อไทยส่งมาช่วยเหลือ จนแกนนำกระเป๋าชักแฟบลงทุกที นี่ก็คือการส่งซิกกลายๆไปยังคนในตึกพรรคเพื่อไทยว่าเฮ้ยๆ ดูแลกันหน่อยโว้ย
จับอาการโหมกระแสปรับโครงสร้างองค์กรนปช.ที่เกิดขึ้นหลังจตุพรแห้วแดกไม่ได้ร่วมครม.ปู 5 ได้แบบ ไม่ผิดแน่นอน ที่จะบอกว่าเรื่องนี้มันคือการแสดงความไม่พอใจของนปช.ให้ทักษิณรับรู้
เรื่องว่าจะปรับทัพนปช.เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองก็แค่เอามาบังหน้าไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป จะโดนหาว่ามาเรียกร้องตำแหน่งให้จตุพร ทั้งที่ใครๆ ก็รู้ว่าตั้งแต่มีเสื้อแดงมา จตุพรก็คือหัวแถวตัวจริงของนปช.ที่พูดแล้วเสียงดังกว่าป้าธิดาหลายสิบเท่า เก้าอี้ประธานนปช.จึงไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรเลย เก้าอี้รมต.ต่างหากที่จตุพรถวิลหาวันละสามเวลาแต่ทักษิณไม่ยอมให้
ดังนั้นที่ แกนนำนปช.ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่เมื่อ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาโดยจตุพรบอกว่า2 ปีที่ผ่านมานับแต่เพื่อไทยได้อำนาจเสื้อแดงไม่เคยได้อะไรจากรัฐบาล ทั้งที่เสื้อแดงทุ่มชีวิตให้พร้อมกับเตือนรัฐบาลให้ระวังขบวนการโค่นล้ม มันก็แค่ความพยายามสร้างราคาให้ตัวเองและเสื้อแดงเท่านั้นเอง
“ สถานการณ์วันข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีผ่าความจริงทุกวันเสาร์ ล็อกพื้นที่ในกทม. กลุ่มไทยสปริงนำเสนอผ่านเว็บไซต์ มีสื่อในเครือข่ายเผยแพร่การชุมนุมอย่างเป็นระบบ จึงกังวลว่าสถานการณ์จะถูกยกระดับขึ้นมา หน้ากากขาวก็ยังเคลื่อนไหวอยู่ ทั้งหมดจะพยายามหาความชอบธรรมมาอ้างในการจัดการรัฐบาลชุดนี้
รัฐบาลตอนนี้อยากให้พรบ.เงินกู้ 2ล้านล้านบาท -พรบ.งบประมาณ2557 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่านไปก่อนแล้วค่อยนำเรื่องพรบ.นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองมาพิจารณา อยากถามว่า รัฐบาลจะได้ใช้เงินเหล่านั้นหรือ ถ้ามีการล้มรัฐบาลอีกครั้ง ไม่อยากให้รัฐบาลเห็นแก่เงินมากกว่าประชาชน”
แต่ที่ทีมข่าวการเมืองขอเชียร์ด้วยใจจริงก็คือที่จตุพรบอกว่าเสื้อแดงพร้อมจะออกมาขับไล่รัฐบาลเพื่อไทยหากทำผิด 3 เรื่อง คือ 1.ทุจริตคอรัปชั่น 2.ลุแก่อำนาจ3.ทรยศต่อประชาชน ที่ร้องขอทั้งพรบ.นิรโทษกรรมและการลงนามรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ
“ถ้าคุณซื่อสัตย์ก็พร้อมจะไปตายกับคุณอีกรอบ แต่ถ้าไม่แล้วลืมเส้นทางที่ได้มาเพราะเลือดเนื้อ คราบน้ำตารัฐบาลจะล้มไปด้วยเงื่อนไขนี้ การพูดเช่นนี้ไม่ได้พูดเพราะโกรธไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เป็นการเตือนอย่างฉันมิตร”
ก็อยากบอกจตุพรว่า ที่ประกาศไว้อย่างเช่นไม่ยอมให้รัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น หากเกิดขึ้นจะออกมาไล่รัฐบาล ก็ขอบอกว่า จตุพรและเสื้อแดง ออกมาไล่รัฐบาลได้แล้ว เพราะแค่เรื่องจำนำข้าวเรื่องเดียว ก็มีข่าวคนในรัฐบาลแม้แต่พวกเครือข่ายเสื้อแดงด้วยกันเองมีเอี่ยวขบวนการโกงจำนำข้าวกันพุงกลางไปเยอะแล้ว
หากพูดแล้วไม่ทำ-ทำไม่ได้ ที่บอกเสื้อแดงจะออกมาไล่รัฐบาลเองหากทำผิด 3 ข้อข้างต้น ทั้งที่พฤติการณ์คนในรัฐบาลก็มีหลายเรื่องเข้าข่ายแล้ว สุดท้าย พูดไปก็เท่านั้น เพราะอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ พูดปั่นราคาตัวเองและเสื้อแดง หวังให้ทักษิณรับรู้ปรับครม.รอบหน้า ยังไง จตุพร ก็ยังรอลุ้นอยู่
แม้จะรู้ว่า ลุ้นไม่ขึ้นแล้วก็ตาม