“ไทยเบฟ” เปิดเกมรุกอาเซียน หลังจากผู้บริหารสูงสุดได้รุกเข้าซื้อหุ้น “เอฟแอนด์เอ็น” และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน จะทำให้สามารถอาศัยจุดแข็งของเอฟแอนด์เอ็น ในการบุกเบิกตลาดเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ส่วนกระบวนการซื้อ และปรับโครงสร้างองค์กร น่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมคาดรายได้ปี 56 เติบโต 15-20%
นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวในการร่วมออกบูทในงานแสดงสินค้าอาหาร 2556 (THAIFEX - World of food ASIA 2013) ระบุว่า ไทยเบฟฯ จะให้ความสำคัญกับตลาดส่งออก ควบคู่ไปกับตลาดภายในประเทศ เพื่อขยายฐานตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้แบรนด์สินค้าของคนไทยเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ เพื่อก้าวสู้เป้าหมายการเป็นโกลบอลแบรนด์ โดยจะศึกษาความเหมาะสมของตัวสินค้า รวมถึงความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ การเจาะตลาดดังกล่าวนอกจากการดำเนินงานของบริษัทเองแล้ว ยังจะอาศัยความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายของ บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ หรือเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งปัจจุบันถือเป็นบริษัทในกลุ่มเดียวกัน หลังจากผู้บริหารสูงสุดไทยเบฟฯ ได้รุกเข้าซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็น และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน จะทำให้สามารถอาศัยจุดแข็งของเอฟแอนด์เอ็น ในการบุกเบิกตลาดเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มต่างๆ ในเครือ เช่น โออิชิ ออกไปจำหน่ายยังประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยคาดว่าจะเริ่มได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสในการทำตลาด “เบียร์ช้าง” ในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้นด้วยโดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อกำหนดแบรนด์สินค้าที่จะเข้าไปทำตลาด เพราะแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ทั้งวัฒนธรรมการบริโภค และการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม จากแผนขยายธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศดังกล่าว คาดว่าจะผลักดันให้รายได้ของไทยเบฟฯ ในปี 2556 เติบโตจากปีก่อนได้ประมาณ 15-20% จากรายได้ที่ทำได้ 1.5 แสนล้านบาท ในปี 2555 โดยยังคงเป็นส่วนแบ่งสินค้าในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 80% และอีก 20% เป็นนอนแอลกอฮอล์ ซึ่งไทยเบฟฯ กำลังขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้น
นายมารุต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากที่ไทยเบฟฯ เข้าซื้อกิจการเอฟแอนด์เอ็นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คาดว่ากระบวนการซื้อ และปรับโครงสร้างองค์กรน่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ หลังจากนั้นจึงจะมีแผนงานที่ชัดเจนในการปรับตัว และเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างเครือไทยเบฟ และเอฟแอนด์เอ็นออกมา
อย่างไรก็ตาม เอฟแอนด์เอ็นในไทย มีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายหลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์นม เช่น นมข้นหวาน นมข้นจืด ภายใต้แบรนด์หลัก เอฟแอนด์เอ็น ตราหมี ทีพ็อท และยังมีไอศกรีมแม็กโนเลีย เครื่องดื่มไมโล ฯลฯ ซึ่งในปี 2555 ที่ผ่านมา เอฟแอนด์เอ็นไทย มียอดขายรวมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ปีนี้เชื่อว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง
เมื่อการจัดโครงสร้างธุรกิจแล้วเสร็จ คาดว่าเครือไทยเบฟฯ และเอฟแอนด์เอ็น จะอาศัยเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งของไทยเบฟฯ ที่มีตัวแทนจำหน่าย ช่องทางขายจากร้านค้าดั้งเดิมนับแสนราย และระบบบริหารจัดการ ทั้งช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ในโมเดิร์นเทรด และช่องทางค้าปลีกดั้งเดิมในเทรดิชันเทรดต่างๆ ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ก่อนแล้ว เข้ามาเสริมการขยายตลาดได้มากขึ้น โดยจะปรับให้การดำเนินงานเป็นในทิศทางเดียวกัน ของบริษัทอาหารเครื่องดื่มในกลุ่มทีซีซี ทั้งไทยเบฟฯ, บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), และบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน เช่น การวางตำแหน่งให้บริษัทเสริมสุข เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโออิชิ เพื่อกระจายเข้าสู่ร้านค้าปลีกดั้งเดิม ที่เสริมสุขมีเครือข่ายกว่า 2 แสนรายทั่วประเทศ