เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - โซนี่ คอร์ป ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นประกาศในวันพฤหัสบดี (9) โดยระบุบริษัทกลับมามีผลกำไรสุทธิได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ถือเป็นการส่งสัญญาณแห่งความหวังให้กับโซนี่ หลังต้องเผชิญวิกฤตต่อเนื่องนานหลายปี
คำแถลงของโซนี่ระบุว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 43,030 ล้านเยน (ราว 12,820 ล้านบาท) ในปีการเงินที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เคยขาดทุนยับถึง 456,660 ล้านเยน (ราว 136,060 ล้านบาท) ในปีการเงินก่อนหน้า
สาเหตุสำคัญของการกลับมามีกำไรเป็นเพราะค่าเงินเยนที่อ่วนยวบลง ช่วยกระตุ้นยอดขายของสินค้าส่งออก “เมดอินเจแปน” ให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ จนยอดขายเพิ่มสูงขึ้น 4.7 เปอร์เซ็นต์
คาซูโอะ ฮิราอิ ประธานและซีอีโอ วัย 52 ปีของโซนี่ คอร์ป แสดงความมั่นใจว่าในปีการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมปีหน้า ทางบริษัทน่าจะมีผลกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 50,000 ล้านเยน (ราว 14,900 ล้านบาท)
นอกจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงไปมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่มีส่วนสำคัญต่อการกลับมามีกำไรของโซนี่เป็นหนแรกในรอบ 5 ปียังเกิดจากความสำเร็จของแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ทั้งการปลดพนักงานออกหลายพันตำแหน่งเพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการขายทิ้งสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น เช่น อาคารสำนักงานในแมนฮัตตัน และกรุงโตเกียว
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นประสบปัญหาเรื้อรังมานานหลายปี จากการที่ยอดขายในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลกต่างปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และยังต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือด จากสินค้าคู่แข่งจากเกาหลีใต้และจีนที่มีราคาจำหน่ายต่ำกว่า ส่งผลให้บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งโซนี่ พานาโซนิค และชาร์ป ต่างต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด