xs
xsm
sm
md
lg

พลิกลิ้นจำนำข้าวเลี่ยงม็อบใหญ่ ลุยโคตรกู้-ล้างผิดแม้วก่อน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

สำหรับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” คงไม่ต้องไปหาเหตุผลอะไรมารองรับกันอีกแล้ว เมื่อวานพูดอย่างมาวันนี้ก็พลิกพลิ้วไปอีกอย่างหน้าตาเฉย อะไรก็ได้ขอให้เป็นการรักษาอำนาจของตัวเองและครอบครัว เป็นพอ เหมือนอย่างกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าว โดยคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธาน แต่ไม่เคยเข้าประชุมมอบหมายให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ทำหน้าที่แทน เปลี่ยนแปลงราคารับจำนำข้าวนาปรังไปเป็นแบบเดิมที่ราคา 15,000 บาท ทั้งที่เพิ่งมีมติปรบลดลงมาเหลือ 12,000 บาทและเพิ่งมีผลบังคับใช้ได้เพียง 1 วันเท่านั้น คือวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาเท่านั้น และวันรุ่งขึ้นวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม คณะรัฐมนตรีที่มีนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์เป็นประธานก็มีมติรับทราบในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

กลายเป็นว่าการออกมติและนโยบายใดๆ ของรัฐบาลนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน ไม่ต้องมีหลักการหรือเหตุผลอะไรมารองรับ เพราะหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจะมีผลกระทบต่อฐานเสียงทางการเมืองเฉพาะหน้า หรือจะกระทบต่อ “งานใหญ่” ในวันหน้าที่เตรียมการเอาไว้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะทุกอย่าง “บริหารกันด้วยน้ำลายสกปรก” เท่านั้น

คราวก่อนเมื่อตอนที่ลดราคาจำนำข้าวลงมาเหลือ 12,000 บาท ก็อ้างว่าเพื่อรักษาวินัยการคลัง ให้สอดคล้องกับภาวะราคาตลาดโลก รวมทั้งไม่ให้กระทบต่อการเดินหน้าเข้าสู่การจัดงบประมาณสมดุลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็ต้องกัดฟันทำ แต่กลายเป็นว่าเมื่อชาวนาเคลื่อนไหวต่อต้านเพราะไปลดลประโยชน์ที่พวกเขาเคยได้แบบปัจจุบันทันด่วน และที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงราคาใหม่เพิ่งบังคับใช้ได้เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นก็ “กลืนน้ำลาย” กลับมาใช้ราคาเดิมหน้าตาเฉย ยังดีที่คราวนี้ไม่อ้างว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาวินัยทางการคลังอีก

แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากปฏิกิริยาของสื่อต่างประเทศที่เสนอรายงานวิจารณ์รัฐบาลไทยทันที ขณะเดียวกัน บรรดาเอกชนผู้ส่งออกข้าวไทยก็ส่งเสียงโวยวายกันดังลั่นเพรานั่นเท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำหายนะในการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะเท่ากับว่าเป็นการตั้งราคาที่สูงเกินไป สวนทางกับราคาข้าวในตลาดโลกเวลานี้ที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลไปรับซื้อข้าว (จำนำ) มาทุกเมล็ดมาสต็อกเอาไว้รอการเน่าเสียอยู่จนล้นโกดัง

เป็นที่คาดหมายได้ไม่ยากว่า การปรับเปลี่ยนราคารบจำนำข้าวกลับไปเป็นตันละ 15,000 บาท ย่อมสร้างความยินดีให้ชาวนาอีกครั้ง จนต้องมีการยกขบวนเข้ามาขอบคุณรัฐบาลและ นายกฯ ยิ่งลีกษณ์ กันถึงทำเนียบรัฐบาล และในทางการเมืองก็ต้องถือว่ายังสามารถรักษาฐานเสียงของชาวนาส่วนใหญ่ได้ต่อไป แต่คำถามก็คือในความเชื่อมั่นระยะยาว โดยเฉพาะจากต่างประเทศที่รับรองว่าน่าจะส่งผลกระทบหนักหน่วงแน่ แต่นั่นไม่เลวร้ายเท่ากับผลกระทบทางการการคลังที่เริ่มวิกฤตจนเป็นเหตุผลทำให้ต้องกัดฟันลดราคาจำนำข้าวลงมาเหลือ 12,000 บาทก่อนหน้านี้นั่นแหละ

และแม้จะอ้างว่าเป็นการยืดเวลาออกไปเพียงแค่ระยะสั้นนั่นคือจนถึงวันที่ 15 กันยายนนี้เท่านั้น มันก็ยิ่งทำให้มองเห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและเห็นแก่ได้ในทางการเมือง มี “วาระซ่อนเร้น” อยู่ข้างใน

หากพิจารณาด้วยเงื่อนไขเวลาทำให้มองไปไกลได้ว่าเวลานี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังมีภารกิจสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ต้องผลักดันให้ผ่านไปให้ได้ นั่นคือกำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ที่กำลังพิจารณาในวาระที่ 2 และที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือในเดือนสิงหาคมจะมีการเปิดสภาสมัยสามัญก็มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม และร่างกฎหมายปรองดอง ซึ่งความหมายของกฎหมายดังกล่าวล้วนคาดหมายได้ว่ามีเป้าหมายไปสู่อำนาจทางการเมือง การลบล้างความผิดและคืนเงินให้กับ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะเจ้าของรัฐบาล เจ้าของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากพิจารณากันเฉพาะในเรื่องเวลาที่กำหนดเอาไว้ว่าจะยืดราคาจำนำข้าวเอาไว้ที่ 15,000 บาทจนถึง 15 กันยายน ก็เพื่อสงบศึกซื้อใจชาวนาเอาไว้อีกระยะหนึ่ง รอให้งานใหญ่ดังกล่าวผ่านไปก่อน ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากันใหม่

ขณะเดียวกัน เมื่อถึงตอนนั้นยังน่าจับตาอีกว่ามีความเป็นไปได้สูงเหมือนกันว่าหากทุกอย่างเสร็จสิ้นตามเป้าหมาย นั่นคือใช้เสียงข้างมาในสภาลากผ่านไปได้ แต่แน่นอนว่าย่อมตองเกิดการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านอย่างขนานใหญ่เช่นเดียวกัน มันก็อาจเป็นเหตุให้ทักษิณส่งสัญญาณให้ยิ่งลักษณ์ยุบสภาเพื่อกลับเข้ามาใหม่ โดยยาหอมกับชาวนาว่ามาสานต่อจำนำข้าวอีกครั้ง ได้ทั้งเงินได้ทั้งอำนาจอยู่ในมือเบ็ดเสร็จ

อย่างไรก็ดี นั่นอาจเป็นการคำนวณที่คิดแต่กำไร เอาแต่ได้ แต่เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงในเวลานี้ แทบทุกอย่างมันกำลังเปลี่ยนไป บรรยากาศมันไม่คึกคักแบบเดิม หลายคนเริ่มตาสว่างได้เห็นธาตุแท้ว่าคนในครอบครัวนี้ไม่ได้ “เจ๋งจริง” อย่างที่พยายามโปรโมตขึ้นมาหลอกต้มมานาน เพราะขนาดมีกลไกทุกอย่างอยู่ในมือพร้อมสรรพ กลับทำได้แค่นี้ แทบทุกอย่างถดถอย-มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะวิกฤตอย่างไม่น่าเชื่อ ความเดือดร้อนของชาวบ้านในเรื่อง “ข้าวของแพง” ที่หนักหนาสาหัสขึ้นทุกวัน สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้แหละที่ทำให้แผนการของทักษิณไม่สำเร็จ ตรงกันข้ามอาจพังครืนก่อนกำหนดก็ได้

ดังนั้น หากพิจารณาจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับว่า ฝ่ายระบอบทักษิณ กำลัง “อ่อยเหยื่อ” โดยเฉพาะการปรับเพิ่มราคารับจำนำข้าวกลับมาเท่าเดิมชั่วคราวถึงวันที่ 15 กันยายน ซึ่งหลังจากช่วงเปิดสภาในเดือนสิงหาคม เพื่อไม่ให้ “งานใหญ่” สะดุด เพราะนั่นเป็นผลประโยชน์ของทักษิณ เมื่อสำเร็จตามเป้าหมายแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างหัวมัน หรือเปล่า!!
กำลังโหลดความคิดเห็น