อดีตจ่าฝูง กวป.นำสาวก 200 ชีวิตยื่น ป.ป.ช.สอบนายกสมาคมต้านโลกร้อน ที่ร้อง ป.ป.ช. สอบ รมว.-รองปลัดคลังเป็น จนท.รัฐทำผิด กม.ในโครงการจัดการน้ำ ชี้อาจยื่นไม่ถูกต้อง บี้สอบมีอำนาจรับหรือไม่ และหากรับจะเสร็จทันตามเวลาไหม รองเลขาฯ ป.ป.ช.แจงอยู่ในช่วงตรวจสอบ รับไม่เสร็จตามเวลา ยันเป็นกลาง ด้าน 10 ชีวิตกวป. ยื่นศาลปค. ข้องใจคำสั่งให้รบ.ประชาพิจารณ์โครงการจัดการน้ำละเมิดสิทธิเสียงข้างมาก
วันนี้ (2 ก.ค.) นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา ประธานภาคีพลังประชาชนพร้อมกลุ่มคนเสื้อแดงประมาน 200 คน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ผ่านนายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบ กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนเคยยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 275 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจากโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งอาจเป็นการยื่นหนังสือที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ทางกลุ่มภาคีพลังประชาชนจึงขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรายละเอียด ว่า ป.ป.ช.มีขอบเขตอำนาจรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ และหากรับไว้แล้วจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทันตามกรอบเวลาหรือไม่ รวมทั้ง ป.ป.ช. จะนำคำพิพากษาของศาลปกครองกลางมาประกอบการพิจารณาหรือไม่ เพราะเชื่อว่าศาลปกครองกลางไม่น่าจะมีอำนาจวินิจฉัยได้
ด้านนายวิทยากล่าวชี้แจงว่า วันนี้ที่ประชุม ป.ป.ช.จะรับทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเท่านั้นจะยังไม่มีมติใดๆ และได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าเรื่องที่ร้องเรียนเข้าข่ายอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของ ป.ป.ช. ดังนั้นจึงตามขั้นตอนทั้งหมดแล้วไม่มีทางที่จะเสร็จภายใน 49 วันตามกรอบที่ผู้ร้องระบุไว้ พร้อมยืนยันว่า ป.ป.ช.มีความเป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำจากกลุ่มการเมืองใด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ได้เตรียมกำลังตำรวจจำนวน 130 นายจาก สภ.นนทบุรี เพื่อเข้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่มีเหตุความวุ่นวาย และทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือเสร็จก็เดินทางกลับทันที
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงในนาม กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ประมาณ 10 คน นำโดย นายชาญ ไชยะ กรรมการบริหาร กวป. และ นายศรรักษ์ มาลัยทอง เดินทางยื่นหนังสือถึงคณะตุลาการศาลปกครอง ผ่านนายอลงกต ไผ่พูล ผู้อำนวยการกลุ่มงานรับฟ้อง สำนักงานศาลปกครองกลาง เพื่อสอบถามและให้คณะตุลาการศาลปกครองชี้แจงต่อสาธารณะชนว่า กรณีที่เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2556 ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล ต้องทำประชาพิจารณ์ก่อนจึงจะสามารถโครงการต่อไปได้ นั้น กวป.จึงสงสัยว่า การวินิจฉัยดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนเสียงข้างมากที่เลือกรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารประเทศโดยสุจริตชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ และหากต้องทำประชาพิจารณ์ตามคำวินิจฉัยทำให้โครงการบริหารจัดการน้ำล่าช้า จนเกิดอุทกภัยร้ายแรงเหมือนปี 2554 หรือเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และประชาชนสามารถเอาผิดกับศาลปกครองได้หรือไม่ ทั้งนี้นายศรรักษ์ กล่าวว่า จะให้เวลาศาลปกครอง 7 วัน จากนั้น กวป.จะเดินทางมาติดตามทวงถามคำตอบต่อไป