“เด็จพี่” รีบขอบคุณ กขช.คืนจำนำข้าวหมื่นห้า จี้ “มาร์ค” ชม “ปู” ควบ กห.โชว์ภาวะผู้นำ

โฆษก พท.ไม่รีรอขอบคุณมติ กขช.ปรับจำนำข้าวคืนหมื่นห้า ชมฟังเสียงชาวนาและส.ส.พท.โหนโพลตามถนัด อ้าง ปชช.หนุนปรับ ครม.เพื่อพัฒนาชาติ ยันนายกฯ เป็นพลเรือนคุม กห.ไม่แปลก เชื่อไฟใต้ดีขึ้น โต้ไม่มีล้วงลูกทหารตามที่ ปชป.ใส่ร้าย ปัดกลัวรัฐประหาร ย้อน หน.ปชป.ควรชื่นชมเลิกมุ่งแต่เห็นต่าง เลิกเสี้ยม ยัน ส.ส.พท.โวยเป็นสิทธิ หวังมัชฌิมาเข้าใจวืดวง ครม. มั่นใจ “เฉลิม” ไม่น้อยใจ

วันนี้ (1 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีมติให้กลับไปใช้ราคารับจำนำข้าวเปลือกในราคา 1.5 หมื่นบาทจนถึงสิ้นสุดโครงการวันที่ 15 ก.ย.นี้ เพราะสะท้อนว่า กขช.รับฟังเสียงเรียกร้องของชาวนา รวมถึงข้อเรียกร้องจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องรอมติจากคณะรัฐมนตรีก่อนว่าจะเห็นชอบหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นถือว่ามติของ กขช.ถือว่าน่าพึงพอใจ เพราะสะท้อนว่ารับฟังเสียงของประชาชน

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยิ่งลักษณ์ 5 ว่า จากผลสำรวจของโพลหลายสำนักพบว่าเสียงสะท้อนของประชาชนให้การตอบรับที่ดีกับ ครม.ชุดใหม่ เพราะมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งนักการเมืองและอดีตข้าราชการประจำมาร่วม ครม.ในครั้งนี้ ทำให้ ครม.ยิ่งลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาชนได้มากยิ่งขึ้น โดย ครม.ชุดนี้ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เข้าสู่ปีที่ 3 เช่น โครงการรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ รวมทั้งเข้ามาแก้ปัญหาในด้านต่างๆ ของรัฐบาลให้มีการบูรณาการการทำงานโดยเน้นเชิงรุกมากขึ้น

สำหรับการดำรงตำแหน่งควบ รมว.กลาโหมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องดีสะท้อนว่านายกฯ ให้ความสนใจปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการแสดงถึงภาวะความเป็นผู้นำที่รับผิดชอบงานบริหารและงานด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นผลดีในการบูรณาการงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็มีนายกพลเรือนที่ควบกระทรวงกลาโหม เช่น นายชวน หลีกภัย นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และไม่ได้เป็นการล้วงลูกโผทหารตามที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุเป็นว่า ไร้สาระ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายในกองทัพมีระบบ ต้องผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการ ไม่มีใครมาแทรกแซงอำนาจ ผบ.เหล่าทัพได้ และเชื่อว่านายกฯไม่เข้าไปแทรกแซงแน่นอน พร้อมทั้งปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่านายกฯกลัวการรัฐประหาร เพราะเชื่อว่ายุคนี้ทหารไม่ทำกันแล้ว เพราะทุกคนมีบทเรียนจากการรัฐประหารที่ผ่านมา โดยขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ชื่นชมวุฒิภาวะนายกฯ บ้าง อย่าเห็นต่างทุกเรื่อง ถ้านายอภิสิทธิ์จะควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมเงาบ้างก็ไม่ผิด แต่นายอภิสิทธิ์อาจกระดากใจ เพราะคดีที่ถูกกล่าวหาหนีทหารยังไม่จบ

นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า กรณีที่ ส.ส.พรรคออกมาวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาของ ครม.ชุดใหม่ ถือเป็นเรื่องปกติ เป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ เชื่อว่า ส.ส.มีวินัยมากพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมา โดยขอให้ฝ่ายค้านเลิกเสี้ยม และเปิดโอกาสให้ ครม.ชุดใหม่ เข้ามาทำงาน สำหรับกลุ่มมัชฌิมาที่พลาดหวังต่อการเข้าร่วม ครม.นั้น พรรคเพื่อไทยเป็นพันธมิตรกับทุกกลุ่มการเมือง ใครดีมาก็สนับสนุน โดยเชื่อว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาจะเข้าใจ เพราะเป็นนักการเมืองมานาน ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง

ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.แรงงาน ไม่เข้าร่วมการถ่ายรูปกับ ครม.นั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นสัญญาณของความขัดแย้ง เพราะการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนักการเมืองผู้ใหญ่ของพรรค ดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญมากมาย คงไม่น้อยใจกับเรื่องแค่นี้และน้อมรับในการตัดสินของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมอยู่ตำแหน่งใดก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและเข้าสภาเพื่อชี้แจงปัญหาซึ่งยังคงเป็นกันชนให้กับรัฐบาลอยู่ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในตำแหน่งใดก็ตามเพราะเป็นนักการเมืองมืออาชีพ

“อยากฝากไปยังฝ่ายค้านที่เสี้ยมเรื่องนี้ว่า อย่าเพิ่งดีใจว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะปิดปาก บอกได้คำเดียวว่าไปทะเลเจอฉลาม ไปสภาก็ยังคงเจอเฉลิมอยู่เหมือนเดิม” นายพร้อมพงศ์กล่าว